ชบาเดินนวยนาดไปมาอย่างรู้สึกสบายใจขณะที่สองตาก็ก้มลงมองเค้กสีชมพูน่ารักขนาดหนึ่งปอนด์ที่อยู่ในมือของเธออยู่เป็นระยะ
"อยากจะเห็นหน้าเจ้าของวันเกิดตอนที่ได้เห็นเค้กจังเลย~ พี่ต้องชอบมากแน่ๆ เลย ชบามั่นใจ" นับตั้งแต่ที่เธอนั้นเฝ้าหลงรักมาร์คัสมาจนมาเกือบสามปี ครั้งนี้นับว่าเป็นปีแรกที่ชบานั้นสามารถที่จะรวบรวมความกล้าได้มากพอที่จะซื้อเค้กวันเกิดให้กับชายหนุ่ม
"คิดแล้วมันเขินจังเลย~"
คณะนิเทศศาตร์, at 2:45 p.m.
Happy Birthday to you...
คู่ขาเรียวสวยของชบาแก้วค่อยๆ ย่างกรายเข้าไปหามาร์คัสที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะยื่นเค้กไปด้านหน้าเพื่อให้เขาอวยพรและเป่า
เทียน...
ตุ้บ!
ยังไม่ทันที่ชบานั้นจะได้เอ่ยปากอวยพรอันใดให้แก่มาร์คัส ชายหนุ่มก็จัดการเลื่อนมือมาปัดเค้กก้อนสวยในมือเล็กนั้นจนลงไปกองอยู่กับพื้นสนามหญ้าอย่างไม่มีท่าทีว่าจะลังเล...
"จะต้องให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งมันถึงจะซึมเข้าไปในสมองอันน้อยนิดของเธอกันนะว่า ฉันชอบผู้ชาย! แล้วอย่าได้คิดที่จะเสนอหน้าหมาไม่แดกของเธอมาให้ฉันเห็นอีกนะนังเด็กบ้า! จะไปตายที่ไหนเธอก็ไป!"
แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาชบาแก้วนั้นจะก็เคยโดนมาร์คัสต่อว่ามามากมายพอสมควร หากแต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่วาจาของมาร์คัสจะรุนแรงมากเท่ากับในครั้งนี้...
และเมื่อเธอเดินทางมาถึงจุดนี้ อยู่ดีๆ ความทรงจำในเนื้อสมองของหญิงสาวนั้นก็เกิดมานึกคิดไปถึงถ้อยคำที่ใครต่อใครเขากล่าวถึงตัวเองว่าเธอนั้นคงจะเสียสติไปแล้ว ที่ทั้งๆ ที่มีดีกรีเป็นถึงดาวคณะครุศาสตร์แต่กลับมารัดชอบผู้ชายที่เป็นเกย์อย่างมาร์คัส...
มาถึงตอนนี้นี่เองที่ชบาพึ่งจะมาฉุกคิดได้ว่าทำไมเธอนั้นถึงไม่เก็บความจริงในข้อนี้มาทบทวนเพื่อที่จะได้รู้ตัวได้เร็วกว่านี้ ชบาแก้วพึ่งจะมารู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าแค่ไหนก็ในวันนี้นี่เอง...
"ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติกันนะคะ และนี่ก็คงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วแหละที่ชบาจะมาตอแยด้วย" ชบารีบหมุนตัวกลับก่อนจะสาวเท้ายาวๆ ออกมาจากจุดที่ทำให้เธอแตกสลายในทันที ด้วยเพราะในตอนนี้น้ำตาแห่งความเสียใจมันได้กำลังถ่าโถมลงมาบนสองปรางค์ของเธออย่างไม่ขาดสาย และชบาก็ไม่ปรารถนาที่จะให้มาร์คัสได้เห็นว่าเธอนั้นกำลังเศร้าเสียใจมากแค่ไหน ไม่อยากที่จะให้มาร์คัสนั้นรับรู้ว่าเธอรู้สึกเจ็บปวดกับคำพูดเมื่อก่อนหน้าของเขามากจนเก็บไปร้องไห้มาแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง...
ในขณะที่สายตาคู่คมของคนที่ออกปากไล่คนตรงหน้าไปด้วยตัวเอง ก็ได้แต่มองไปยังร่างสูงโปร่งนั้นด้วยแววตาวูบไหวจนกระทั่งร่างนั้นเดินหายลับไปจากสายตา...
ห้องผู้อำนวยการ
มาร์คัสนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาเบดตัวหนึ่งในขณะที่มือข้างขวาก็ยกน้ำสีอำพันราดรดลงคออย่างไม่มีท่าทีจะหยุดหย่อน จน 'อรรถพล อภัยสุขแสน หรือจอร์แดน' ที่มีศักดิ์เป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ถึงกับต้องออกปากปราม
"ต่อให้มึงจ่ายค่าเทอมให้กูเดือนละเป็นล้านๆ มันก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจะเหน็บเหล้ามานั่งแดกถึงในห้องผู้อำนวยการได้นะไอ้มาร์" แม้จะไม่ใคร่เข้าใจนักว่าเหตุใดเพื่อนหนุ่มนั้นจะต้องออกปากบอกเด็กสาวคนนั้นไปว่ามีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชาย ทั้งๆ ที่มันลงทุนยัดค่าเทอมให้เขามากถึงหลายล้านบาทต่อหนึ่งปีการศึกษาด้วยกันเพียงเพื่อตามติดชีวิตเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นการเฉพาะแท้ๆ
"อย่าพูดเยอะ" มาร์คัสตวัสดวงตาเฉียบคมขึ้นมองผู้อำนวยการที่เป็นมิตรสหายของตนเชิงตักเตือน โดยที่จอร์แดนก็ยินยอมที่จะจบทุกประโยคที่กำลังจะออกมาจากปากแต่โดยดี
กริ๊ก!
เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามาเรียกความสนใจจากคนที่อยู่ภายในห้องในเป็นอย่างดี ก่อนที่สองหนุ่มจะพบว่าผู้มาเยือนนั้นคือ 'สราวุธ ศรัณย์ติณห์ยคุณ หรืออั๋น' เพื่อนชายร่วมกลุ่มอีกหนึ่งคนของพวกเขาทั้งสอง
"กูได้ยินมาว่าเด็กมึงจะเข้าไปอเวย์ คืนนี้" อั๋นทรุดตัวลงนั่งข้างๆ กันกับมาร์คัสก่อนจะยัดบุหรี่ใส่มือให้กับเพื่อนหนุ่มและยื้อแย่งน้ำอำพันที่ยังคงหลงเหลือมาราดรดลงคอของตัวเอง
"เห็นว่านัดกับใครก็ไม่รู้ด้วยสิ..."
พรึ่บ!
เพียงเท่านั้นร่างสูงโปร่งของคนปากไม่ต้องกับใจก็ยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะเร่งฝีเท้าออกไปจากห้องแห่งนี้เพื่อมุ่งหน้าไปยังอเวย์ ซึ่งเป็นคลับของเขาเอง
"รักเขาจะตายห่าแล้วมันจะปากแข็งทำห่าอะไร" อั๋นยกยิ้มมุมปากขึ้นเมื่อพบว่าทุกอย่างมันดำเนินไปตามที่เขาคาดคิดเอาไว้ หรือจะต่างออกไปก็แค่มาร์คัสนั้นรีบแยกตัวออกไปเร็วกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้เสียอีก
"แล้วเด็กมันจะไปอเวย์จริงรึเปล่า"
"จริง" อั๋นเอ่ยตอบในสิ่งที่จอร์แดนต้องการจะรู้ "แต่เรื่องที่ว่าเด็กมันนัดใครไว้...กูใส่สีตีไข่เข้าไปเอง"
เพียงเท่านั้นคนทั้งคู่ก็เอาถึงกับสกัดกลั้นความขบขำต่อพฤติกรรมของผู้ชายปากแข็งอย่างมาร์คัสอีกต่อไปไม่ไหว ก่อนจะยกแก้วใบกะทัดรัดขึ้นมากระทบกันอย่างคนที่รู้ใจกัน...
อั๋น-เสน่ห์ คือตำนานคู่ผัวเมียที่เข้าไปสอดรู้สอดเห็นเรื่องราวความรักของเพื่อนแทบจะทุกคู่🤣🤣🤣