ตอนที่3

1402 คำ
3 Pie’ s part หลายวันต่อมา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสุดท้ายฉันจะรับงานนั้น... “พีช ว่างหรือเปล่า” ฉันต่อสายไปหาน้องชายของตัวเองหลังจากที่นั่งคิดอยู่หลายวันว่าควรจะหาวิธีไหนที่จะทำให้พีชไม่รู้เพราะน้องชายของฉันมันคงไม่ยอมแน่ๆ ถ้ารู้ว่าฉันจะไปทำงานแบบนี้ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ... (ว่าง พี่มีอะไรหรือเปล่าโทรมาเช้าขนาดนี้แล้วยังจะถามว่าว่างมั้ย เวลานี้ใครก็ว่างทั้งนั้นแหละแต่นอนอยู่ไง) เสียงของน้องชายพูดขึ้นอย่างงัวเงีย ก็แหงสิ ตอนนี้มันตีห้ากว่าๆ เองฉันเตรียมตัวจะออกจากบ้านแล้ว เพื่อไปคฤหาสน์หลังนั้น อีกไม่กี่นาทีคนที่นั่นคงมารับฉันแล้ว “คือพี่จะไปทำงานต่างจังหวัด ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกก่อน” ฉันไขว้นิ้วตัวเองแล้วพูดออกไป ปกติฉันไม่ใช่คนขี้โกหกหรอกนะแต่ครั้งนี้มันจำเป็นจริงๆ (อ่อ ห๊ะ แล้วพี่จะไปทำงานที่ไหน) “แถวเชียงใหม่ แต่ไม่ต้องห่วงนะพี่จะโทรหาแกตลอด มีปัญหาอะไรแกก็โทรมา” ฉันแอบถอนหายใจออกมาอย่างติดขัดเพราะกลัวมีพิรูธเข้า (แล้วไปอยู่กับใคร) ทำไมวันนี้ฉันถึงรู้สึกว่ามันถามฉันมากผิดปกตินะ “เพื่อนน่ะ เพื่อนตอนเรียนมหาลัย บ้านนางอยู่เชียงใหม่” ฉันตอบแล้วกุมขมับตัวเองเอาไว้ถ้าเกิดพีชถามมากกว่านี้ฉันคงจะหาข้ออ้างไม่ได้แล้วแน่ๆ (อ่อ พี่ดูแลตัวเองดีๆ นะ ไว้ว่างๆ ผมพีชจะไปหา) “อื้ม ได้สิ” ฉันต้องแกล้งตอบตกลงไปก่อนพอถึงเวลานั้นค่อยหาวิธีอื่นเพื่อไม่ให้พีชรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันจะทำได้มั้ยนะเวลาตั้งสองปี... ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่วางสายจากพีชฉันก็ได้รับสายจากคุณปู่ (คนที่สัมภาษณ์งานวันนั้น) ว่าจะส่งคนมารับตอนหกโมงเช้า เลยต้องหิ้วกระเป๋าออกมารอหน้าบ้านส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้าและของที่จำเป็น เพราะทางนั้นย้ำว่าจะบริการทุกอย่างหรือแม้กระทั่งซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ฉันแต่ก็อดเกรงใจไม่ได้ “เอ่อ คุณพอจะรู้มั้ยคะว่าฉันต้องทำอะไรบ้าง” ฉันถามลุงชิดลูกน้องคนสนิทของคุณปู่ที่เจอกันวันนั้น วันนี้เขาก็เป็นคนมารับฉันถึงที่พร้อมกับแม่บ้านอายุราวๆ สี่สิบกว่าท่าทางเรียบร้อย “อืม...ท่านน่าจะให้คุณตรวจสุขภาพอย่างละเอียดนะครับ แต่วันนี้คงจะให้คุณพักผ่อนก่อน” ลุงชิดพูดอย่างสุภาพ คนในบ้านนี้ดูเหมือนจะดูสุภาพกันทุกคนแม้กระทั่งคนสวนที่ฉันเจอวันนั้นยังดูเป็นคนสวนแบบผู้ดี แสดงว่าผู้ชายคนนั้นก็คงจะไม่เลวร้ายอะไรเพราะเป็นถึงทายาทของตระกูล “อ่อ ค่ะ” ฉันขยับแว่นตัวเองให้พอดีแล้วหันไปมองนอกหน้าต่างถ้าจากบ้านหลังเล็กๆ ของฉันไปที่คฤหาสน์หลังนั้นน่าจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงแปลว่าฉันคงจะต้องอึดอัดอยู่ในรถกับคนพวกนี้อีกนานเลย ทำไงดีล่ะพวกเขาดูไม่ค่อยพูดกันเลย เห้อ... “มีอะไรถามได้นะครับคุณพาย แม่บ้านคนนี้จะเป็นแม่บ้านประจำตัวของคุณสามารถเรียกใช้เธอได้ตลอด” ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้ตัวว่าฉันกำลังอึดอัดจึงพูดขึ้นแบบนั้น ฉันหันไปยิ้มนิดๆ แล้วก้มหัวให้แม่บ้านที่กำลังเคารพฉันเหมือนกันทั้งที่เธอแก่กว่าฉันตั้งเยอะ แบบนี้มันยิ่งอึดอัดกว่าเดิมอีกแต่ถ้าพูดถึงพวกตระกูลผู้ดีคงจะเป็นแบบนี้ทั้งนั้น แต่ฉันเป็นแค่คนที่ถูกจ้างมาทำงานเท่านั้นไม่ใช่เจ้านายจริงๆ ของพวกเขามันก็ต้องน่าอึดอัดสิ... “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ เพราะฉันก็ลูกจ้างคนหนึ่งเท่านั้น” ฉันยิ้มแห้งๆ ตอบออกไปอย่างเกรงใจ “อย่าคิดแบบนั้นเลยค่ะ คนที่จะทำงานแบบนี้ได้ต้องทุ่มเทและเสียสละมากจริงๆ ท่านเลือกคุณมาแปลว่าท่านคงดูออกว่าคุณเป็นคนดี พวกเราก็เห็นคุณเป็นเจ้านายเป็นคุณหนูของบ้านคนหนึ่ง ถึงแม้จะชั่วคราวแต่พวกเรายินดี” แม่บ้านพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทำให้ฉันคลายความตึงเครียดลงไปได้เกือบครึ่ง “ขอบคุณค่ะ” ระหว่างทางนั้นพวกเขาก็ชวนฉันคุยเรื่อยเปื่อยแต่ไม่มีใครยอมพูดถึงเรื่องคุณชายของพวกเขาเลยสักคนทั้งที่ฉันมาทำงานนี้ต้องรู้จักเขาบ้างอย่างน้อยก็เป็นพื้นฐานความรู้เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันตลอดสองปีนี้ ณ คฤหาสน์เพชรพลอยเต็มตระกูล “ปู่คิดได้ยังไง!” “ทำไม ในเมื่อแกไม่คิดจะมั่นคงกับใครฉันก็ต้องเลือกวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลของฉัน” “จ้างคนมาผลิตทายาทนี่มันดีที่สุดแล้วหรือไง!” “ใช่ ฉันคิดว่ามันดีที่สุด” “งั้นปู่ทำไมไม่ทำเองเลยล่ะ” “ปร๊ะไอ้นี่! ถ้าฉันยังหนุ่มๆ อยู่อย่าคิดว่าฉันจะขอร้องแก...แกอย่าพูดมากเลย แค่ทำตามข้อตกลงของเราแล้วแกจะทำอะไรก็ทำ ฉันจะไม่ยุ่งกับชีวิตของแกอีกอย่างที่แกต้องการ” “เหอะ แล้วไหนล่ะคนที่ปู่จ้างมา” เสียงเข้มของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากห้องโถงใหญ่ของบ้านเหมือนกำลังถกเถียงกันอยู่ตอนที่ฉันกำลังเดินตามแม่บ้านเข้ามา ก่อนจะเห็นคุณปู่นั่งไขว่ห้างสบายใจอยู่บนโซฟาหลุยส์สไตล์ยุโรปสีขาว ส่วนผู้ชายอีีกคนกำลังยืนเท้าเอวมองคุณปูของเขาอย่างหาเรื่อง “นุ่นไงมาแล้ว” คุณปูพูดแล้วมองมาทางฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “สวัสดีค่ะคุณปู่” ฉันยกมือขึ้นไหว้ท่านแล้วหันมาไหว้ผู้ชายอีกคนที่คิดว่าน่าจะแก่กว่าฉันปีหรือสองปี “ยัยหน้าจืดเนี่ยนะ แค่มองหน้าก็ไม่มีอารมณ์แล้ว” เขามองฉันอย่างอึ้งๆ พอได้เห็นใบหน้าของเขาใกล้ๆ ฉันก็ถึงกลับกลืนน้ำลายลงขออย่างลำบาก เขาหล่อมากผิวขาว จมูกโด่ง คิ้วเข้ม แต่ติดที่ท่าทางของเขาออกแนวเจ้าชู้และดูไม่มีมารยาทอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ ฟังจากคำพูดเมื่อกี้ของเขาก็พอจะเดาออก ไหนจะท่าทางที่ยืนมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าอีก “นี่หนูพาย แกควรทำความรู้จักเธอไว้ซะ และต้องเก็บเรื่องเธอไว้เป็นความลับ แล้วก็หนูพายคนนี้คือไอ้ฟอซ์กหลานชายเพียงคนเดียวของปู่” คุณปู่พูดแล้วจิบกาแฟอย่างสบายใจ “เหอะ ไม่ต้องบอกก็จะเก็บไว้แบบลับสุดยอดเลย ยัยนี่มีอะไรดีปู่ถึงเลือกมา” เขาพูดแล้วปรายตามองฉันไม่เลิกจนฉันต้องก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาคมกริบนั่น มาวันแรกก็เริ่มไม่โอเคแล้วนะพาย... “เด็กคนนี้มีดีแน่นอน อีกสองสามวันแกเข้ามาที่บ้านนี้ด้วยฉันจะให้หมอมาตรวจร่างกายแก “อืม” เขาตอบสั้นๆ แค่นั้นแล้วเดินออกจากบ้านไปแต่ไม่วายปรายตามามองฉันอีกรอบ “อย่าคิดมากเลยหนูพาย ไอ้นี่มันก็เป็นแบบนี้แหละไม่ต้องสนใจมัน หนูพายคือคนของปู่อยากทำอะไรในบ้านหลังนี้ก็ทำได้เลยตามสบาย ส่วนเรื่องลูกไม่ต้องรีบร้อนหรอกถ้ามันพร้อมแล้วหนูพายพร้อมก็ให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ส่วนนี่คือสัญญาการทำงานของเรา” “ค่ะ” ฉันตอบสั้นๆ แล้วรับกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน ข้อความในกระดาษแผ่นนั้นมีมากมายแต่จำเป็นต้องอ่านทุกตัวอักษรเพื่อตัวของฉันเอง ที่จริงมันก็เหมือนสัญญาทั่วไปแต่มีแค่บางอย่างเท่านั้นที่เป็นประโยคจำขึ้นใจเพราะมันต่างออกไป ‘สัญญานี้มีอายุ 2 ปี ไม่ต้องมีสถานะต่อกัน ไม่ต้องผูกมัด ไม่จำเป็นต้องรักกัน เพราะเงื่อนไขของงานคือการจ้างให้ ‘มีลูก’ เท่านั้น’ Secret L.:1 เม้น 1 = 1 ล้านกำลังใจจ้า^^
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม