เจ้าสาว

1265 คำ
“เมามากนะซิ วันนี้ตื่นสายมาก” รวิกานต์แซวเพื่อน ก่อนจะเดินมาจับมือเธอให้ไปนั่งด้วยกัน เพราะอยากให้เพื่อนรักสนิทกับเบน รวิกานต์และเบน สองคนที่ดูหวานสวีตกันมากจนตาหยีอิจฉา พนักงานเอาเสื้อผ้าที่ซักแล้วของตาหยีมาคืน เธอขอรับเป็นกาแฟแก้วหนึ่ง นั่งไปอีกสักพัก ก็มีพนักงานมาบอกว่ามีเรือสปีดโบตมารับ ทุกคนจึงเดินไปขึ้นเรือ “พี่ริทไปไหน เกว” เธอเอ่ยถามถึงพี่ชายของเกวไป “เห็นว่ามีงานด่วน ฝรั่งที่ติดต่อเอาไว้ว่าจะซื้อที่ดินที่ตรงเกาะยาว เปลี่ยนใจตกลงซื้อที่ดินวันนี้เลย พี่ริทรีบกลับขึ้นฝั่งไปตั้งแต่แปดโมง” ตาหยีทำสีหน้ารับรู้ แต่ก็ใจเหี่ยวลงไป ‘ทำไมไม่ปลุกกันสักหน่อย’ เธอค้อนเขาในใจนิดๆ เกวยกแหวนที่นิ้วมือให้เพื่อนรักดู ตาหยีทำตาโต หันไปมองหน้าคุณเบน รู้สึกดีใจไปกับเพื่อนด้วย “ฉันก็ดีใจด้วยนะเกว ดูท่าทางเขาเอาใจแกน่าดู” ตาหยีมองเห็นแววตาของเบนที่มองรวิกานต์แบบชื่นชม “เขาโรแมนติกมาก ไว้ค่อยเล่ากันสองคนนะ” เธอกระซิบบอกเพื่อน เพราะตอนนี้เรือใกล้ถึงท่าเรือแล้ว “ให้ฉันกับคุณเบนไปส่งแกที่บ้านนะ ตาหยี” เกวบอกเพื่อน พร้อมกับควงแขนไปกับเขา ตาหยีนึกไปถึงหน้าพี่ริททำงอน ‘เขาได้เธอแล้วนะ เช้านี้เราควรต้องได้อยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ หรือว่าพี่ริทแค่พูดเล่น รับปากเพราะเห็นว่าเธอเมา’ “ตาหยี” เสียงเกวตะโกนกลับมาเพราะเห็นเธอยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ตาหยีรีบเร่งฝีเท้าตาม ตอนนี้งอนไปก็ไร้ประโยชน์ พี่ริทไม่ได้รู้เรื่องด้วยสักหน่อย  “ตาหยี เมื่อวานทำไมถึงไปนอนค้างไม่บอก อีกอย่างพ่อให้พี่ต๊อกพาเราไปดูร้านที่จะถ่ายรูปพรีเวดดิงด้วยกัน เสียหายหมด เสียเวลาพี่เขาด้วย” คุณพ่อตำหนิเธอทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในบ้าน “พี่ต๊อกมาฟ้องพ่อหรือคะ” “ฟ้องบ้าอะไร ก็เห็นแกไม่มานอนบ้าน พ่อแม่นั่งหัวโด่ จะโทรบอกสักคำก็ไม่มี ดีแล้วแต่งงานไปให้พี่ต๊อกเขาดูแล” พ่อพูดยังไม่ทันจบ ตาหยีก็รีบวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองเข้าห้องนอนของตัวเองไปทันที เสียงพ่อยังบ่นตามหลังไม่เลิก จนเธอต้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหู “ตาหยีไม่แต่ง พ่ออยากแต่งก็แต่งเองสิ” เธอทำน้ำตาร่วง ตอนนี้นั่งชันเข่าอยู่บนเตียงน้ำตาไหล “พี่ริทจ๋า โทรมาสิ” เธอจ้องมองโทรศัพท์ของตัวเอง ใจลอยไปถึงคนที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ จริงๆ ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์เมื่อคืน ตาหยีคงยอมแต่งงานกับพี่ต๊อกได้แบบไม่ขัดเคือง แต่ตอนนี้เธอเป็นคนของพี่ริทไปแล้ว คงทำใจได้ยาก  “ผมเข้าไปนั่งรอคุณพ่อคุณได้ไหม” เบนเอ่ยขึ้น ตอนมาส่งรวิกานต์ถึงหน้าบ้าน “ลงมาสิคะ วันนี้วันอาทิตย์ คุณพ่อคงไม่ไปไหน” เบนยิ้มกว้าง ก่อนจะปิดเครื่องยนต์และเดินตามแรงจูงของหญิงสาวเข้ามาในบ้าน ท่าทีที่สนิทสนมของคนทั้งคู่ ทำให้ผู้เป็นพ่องงๆ แต่ก็ยิ้มออกมาเมื่อเห็นฝรั่งหนุ่มยกมือไหว้เขาอย่างอ่อนช้อย ชายหนุ่มต่างวัยสองคนคุยกันอย่างสนุก เกวยกกาแฟเข้ามาเสิร์ฟให้ “เออ... คุณราชันย์ครับ ผมขอเรียก แด๊ดดี้ได้ไหมครับ” “เบนค่ะ เรียก คุณพ่อ เหมือนเกรทก็ได้ค่ะ” รวิกานต์รีบบอก เสี่ยยักษ์หัวเราะขึ้นมาทันที “ยังไงยายเกว” คุณพ่อหันไปถามลูกสาว รวิกานต์หน้าแดงยิ้มให้คุณพ่อแบบเขินๆ “คุณพ่อคุณแม่ของผมจะเดินทางมาอาทิตย์หน้า จะให้คุณพ่อคุณแม่ของผมมาสู่ขอเกรทจากคุณพ่อครับ เราสองคนตกลงจะแต่งงานกัน” คำบอกเล่าของชายหนุ่มทำให้เสี่ยยักษ์ถึงกับทำตาโต หันไปมองหน้าลูกสาวของตัวเอง เห็นยังนั่งบิดไปมา “ผมเชื่อในรักแรกพบ อีกอย่างผมจะย้ายตัวเองมาอยู่ที่นี่ถาวรเลย คุณพ่อเห็นว่ายังไงครับ” “คุณพ่อคะ” เกรททำเสียงออดอ้อนคุณพ่ออยู่ใกล้ๆ “เรารักเขาเหรอ” พ่อหันมาพูดกับลูกสาวด้วยภาษาไทย “ค่ะ” เธอตอบแบบอายๆ หันหน้าไปมองเบน สบตากันแบบหวานซึ้ง “สินสอดแพงนะ” เสี่ยยักษ์หันไปพูดกับเบน “ผมยินดีครับ” เขายิ้มกว้างแบบเปิดเผย ลองได้ลงทุนขนาดนี้แล้ว ผลตอบแทนย่อมคุ้มค่าเสมอ           ‘ไม่โทรก็อย่าโทรมานะคะพี่ริท’ วันนี้ทั้งวันตาหยีตั้งตาคอยแต่โทรศัพท์ของพี่ริท ขายของทอนเงินผิดๆ ถูกๆ ดีว่าลูกค้ารู้จักกันดี จึงได้แต่แซวเธอว่าใจลอยไปถึงไหน         เมื่อขายของเสร็จได้เวลาปิดร้าน พี่ต๊อกก็เดินหน้าเข้ามาหาถึงในร้าน ก่อนจะเดินตามเธอต้อยๆ ไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน         “พี่ต๊อกคะ มาเดินตามตาหยีทำไมคะ” เธอถามออกไปด้วยความเหลือทน รู้สึกรำคาญแล้วก็อึดอัดมาก         “ก็พี่ต๊อกต้องพาหยีไปดูชุดที่ร้าน ถ้าไม่ไปวันนี้พี่โดนป๊าดุอีก ขี้เกียจรำคาญ” เขาพูดขึ้นทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างหน้าเธอ         “พี่ต๊อกรู้ไหมคะ ตาหยีก็รำคาญ” เธอพูดตอกหน้าเขาไป และนี่คงเป็นครั้งแรกที่ตาหยีออกอาการวีนเหวี่ยงใส่เขา         “ถ้าตาหยีไม่อยากแต่งงานกับพี่ ก็บอกปฏิเสธกับป๊าไปสิ” เขาให้เหตุผล         “แล้วพี่ต๊อกว่า บ้านนี้มีใครรับฟังตาหยีบ้างคะ” เธอตอบเขาไปน้ำตาเริ่มคลอ ตอนนี้ปวดร้าวในจิตใจจะแย่อยู่แล้ว         “และพี่ต๊อกทำไมไม่ปฏิเสธไปคะ” เธอพูดกับเขาออกไปตรงๆ         “พี่ยังไงก็ได้” เขาตอบออกมาแบบเรียบเฉย เพราะชายหนุ่มรู้สึกแบบนั้นจริงๆ         ตาหยีถึงกลับชักสีหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วเดินมาฉุดมือพี่ต๊อกให้ลุกขึ้น         “ร้านไหนคะพี่ต๊อก พาตาหยีไปเถอะ” เธอพูดแบบมีปลง กลั้นน้ำเสียงผิดหวังไว้เต็มประดา         ต๊อกแค่ทำตามหน้าที่ลูกที่ดี พ่อแม่สั่งให้ทำอะไรเขาก็ทำแบบนั้น อีกอย่างเขาก็ไม่ได้รังเกียจตาหยี ที่สำคัญเขาก็ไม่มีคนรัก หากเป็นใครสักคนที่พ่อแม่เห็นว่าเหมาะสมเขาก็ยินดี         ต๊อกขับรถพาตาหยีไปร้านพรีเวดดิงชื่อดังในจังหวัดภูเก็ต เจ้าของร้านก็รู้จักทั้งสองคนต่างให้การต้อนรับ แล้วอีกอย่างคุณแม่ของตาหยีก็มาเกริ่นเอาไว้แล้ว         ชุดแต่งงานต่างๆ ถูกพามาแขวนไว้ตรงหน้า ให้ว่าที่เจ้าสาวเลือก         ‘พี่ริทคงรับปากเราไปอย่างนั้นแหละ เรามันโง่เองตาหยี แต่งๆ ไปกับพี่ต๊อกเหมือนป๊าบอก ให้มันจบๆ ไป’ ตาหยียอมรับชะตากรรม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม