ตอนที่3 ล่าศัตรู

931 คำ
ตอนที่3 ล่าศัตรู โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากต้องนั่งเครื่องบินมาหลายชั่วโมง เพื่อเดินทางมายังดินแดนซึ่งถือว่าเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของมารดา สองชั่วโมงต่อมาหลังจากล้อเครื่องบินเหยียบพื้นรันเวย์ อัลฟาร์โน่ก็ได้มายืนอยู่หน้าห้องไอซียูซึ่งมีร่างของมารดานอนไร้สติอยู่บนเตียง มาเฟียหนุ่มมองผ่านกรอบกระจกใสสีขาวเล็กๆ ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ภาพมารดาที่มีสายสีขาวห้อยระโยงละยางอยู่ทั่วร่างกาย ยังไม่รวมผ้าก็อซสีขาวที่พันอยู่บนตัวหลายจุด ทำให้มาเฟียหนุ่มผู้คิดว่าเขาไม่เคยที่จะไประรานใครก่อนรู้สึกหดหู่ที่หัวใจยิ่งนัก หลังจากที่ได้ไปพบแพทย์เจ้าของไข้มาแล้วเมื่อครู่ แม้จะใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่ายังดีที่ทีมแพทย์ยังช่วยยื้อชีวิตท่านได้อย่างหวุดหวิด แต่อาการที่ยังไม่พ้นขีดอันตรายดีนัก ก็ทำให้เขานึกโทษตัวเองอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ใครกันนะที่ทำกับคนแก่ที่เป็นเพียงผู้หญิงไร้พิษภัยได้ขนาดนี้หากคนที่ทำเป็นคนเดียวกับที่เขาสงสัยจริงล่ะก็ อัลฟาร์โน่สัญญากับตัวเองไว้ตรงนี้เลยว่า เขาจะไม่ปล่อยให้มันลอยนวลไปได้ง่ายๆ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง เขาจะต้องหาทางเอาคืนหรือลากคอมันเข้าคุกเข้าตารางให้ได้ “พวกแกปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง? ห๊า!” น้ำเสียงห้วนห้าวเกือบตะคอกหันไปถามหัวหน้าบอดี้การ์ดอีกคนที่ให้คอยดูแลมารดาของเขาอยู่ที่ประเทศไทย ก่อนหน้านี้อัลฟาร์โน่จะกลับมาเยี่ยมมารดาปีละหลายครั้ง แต่มาระยะหลังภารกิจหน้าที่บีบบังคับจึงทำได้เพียงคุยกันผ่านสัญญาณโทรศัพท์เท่านั้น แต่กระนั้นก็ยังอดเป็นห่วงท่านไม่ได้ จึงให้ลูกน้องบางส่วนมาคอยดูและช่วยเหลือมารดาอยู่ที่นี่ด้วยทว่าก็ยังเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจนได้ มาเฟียหนุ่มนึกกล่าวโทษตัวเองในใจอย่างไม่ยอมที่จะให้อภัยง่ายๆ เขาเหมือนลูกอกตัญญูทั้งที่เหลือผู้ให้กำเนิดอยู่คนเดียวแท้ๆ ยังไม่สามารถปกป้องท่านจากไอ้พวกคนชั่วที่ชอบลอบกัดนั่นได้เลย “เอ่อ... คือ… เมื่อตอนเช้ามืดนายหญิงออกไปจ่ายตลาดตามปกติครับ แต่ว่าระหว่างทางขากลับมีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับประกบตามหลังมา คนขับเห็นท่าไม่ดีจึงได้เร่งขับหนี แต่ก็ยังไม่พ้นวิถีกระสุนของพวกมันที่รู้ว่าเรารู้ตัวจึงได้รัวสาดกระสุนเข้ามาจนรถพังยับเยิน นายหญิงและคนขับจึงถูกยิงไปหลายนัด” ชายในชุดสูทสีดำที่ยืนอยู่หัวแถวตอบกลับอย่างไม่เต็มเสียงนัก เหตุการณ์เลวร้ายนี้อาจไม่เกิดขึ้นหากเขารอบคอบระแวดระวังให้มากกว่านี้ นั่นคือความรู้สึกบกพร่องต่อหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้เป็นนายที่อุตส่าห์ไว้ใจ “แล้วนายล่ะเดย์ นายทำอะไรอยู่! รู้ใช่ไหมว่างานนี้มันสำคัญฉันถึงให้นายมาดูแล” อัลฟาร์โน่จ้องลูกน้องด้วยดวงตาวาววับตะเบ็งเสียงกร้าวที่แทบจะกลายเป็นตะคอก ชายผู้ถูกเรียกขานว่าเดย์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หากไม่ติดว่าที่นี่คือโรงพยาบาลและพวกเขากำลังยืนกันอยู่หน้าห้องไอซียูล่ะก็ เดย์คิดว่าเขาคงได้บาทาเป็นของแถมหรือไม่ก็หมัดหนักๆ เป็นการตอบแทนความผิดพลาดในครั้งนี้ไปแล้วแน่ๆ “แล้วตอนนี้รู้หรือยังว่าเป็นฝีมือใคร!!?” อัลฟาร์โน่พยายามควบคุมอารมณ์ และใช้สติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ตอนนี้เรากำลังสืบอยู่ครับนาย” เดย์ก้มหน้ายืนมือประสานกันไม่กล้าเงยหน้าสบตาผู้เป็นนาย ด้วยเกิดความรู้สึกละอายใจต่อความผิดที่ไม่สามารถปกป้องนายหญิงเอาไว้ได้ “ฉันให้เวลาพวกแกยี่สิบสี่ชั่วโมงถ้ายังไม่ได้เรื่องอะไรคืบหน้า! พวกแกทำตัวให้เหมือนหายสาบสูญไปจากโลกนี้ซะ ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!” คำคาดโทษที่ถูกกล่าวออกมาจากเจ้าของนัยน์ตาสีเข้มวาววับ ทำให้เดย์และลูกน้องอีกสองคนแยกตัวออกมาอย่างรวดเร็วราวกับหมอกควันสลายตัวเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่ายามที่นายใหญ่โกรธขึ้นมา มันน่ากลัวมากแค่ไหน “เจ้านายจะให้ผมทำยังไงต่อดีครับ” ไซมอร์นมองท่าทางหัวเสียของเจ้านายหนุ่มแล้วจึงได้เอ่ยขึ้นอย่างรู้ใจ “รีบสืบหาไอ้คนลงมือทำร้ายแม่ฉันมาได้เร็วที่สุดแล้วเค้นคอมันให้สาระภาพออกมาว่าใครเป็นคนว่าจ้างมัน ฉันอาจจะมีศัตรูมากก็จริง แต่คนที่โกรธแค้นฉันจนกล้าลงมือด้วยวิธีสกปรกขนาดนี้ นายว่าจะมีสักกี่คนกันไซมอร์น” มาเฟียหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมที่ถูกตัดเล็มไว้อย่างเรียบร้อยด้วยท่าทีกลัดกลุ้มก่อนหันมาหาลูกน้องคู่ใจคล้ายจะปรึกษาศัตรูที่กล้าลงมือกับมารดาของเขาย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หากพยายามตัดบุคคลต้องสงสัยออกไปทีละคน ภาพชายคนหนึ่งก็ฉายชัดขึ้นมาในหัวและใครคนนั้นมันจะต้องได้รับการสั่งสอนให้หลาบจำ!! หากมันเป็นคนทำเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม