หญิงสาวผิวขาวเนียนใสใบหน้าจิ้มลิ้มดวงตากลมโตจมูกเชิดรั้นทรงสวยเรียวปากบางเล็กสีแดงอมชมพูรูปร่างบางระหงก้าวเท้าย่ำเดินชมสวนดอกไม้นานาพันธ์ุอย่างเพลิดเพลิน
กระทั่ง...รับรู้ได้ถึงสัมผัสแผ่วเบาจนขนอ่อนบนกายสาวลุกซู่เมื่อมือสากหยาบกร้านของใครบางคนที่ใบหน้าแสดงถึงความโกรธจนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นตามกรอบหน้า ดวงตาแดงก่ำจ้องมองด้วยความแค้นอย่างถึงที่สุดเรียวปากหนาแสยะยิ้มร้ายออกมาอย่างน่ากลัวหากผู้ใดพบเห็นเป็นต้องขนลุก ยื่นมือมาลูบไล้ไปรอบลำคอระหงจากทางด้านหลังออกแรงบีบและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนร่างบางเริ่มหายใจไม่ออก กายสาวดีดดิ้นทุรนทุรายเพื่อพาตัวเองให้หลุดพ้นออกจากเงื้อมือหยาบนั้น แรงบีบเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวีจนทำให้ร่างบางแทบหมดลมหายใจดับสิ้น
กริ๊ง~~ กริ๊ง~~
เฮือกกก!!!
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นบนโทรศัพท์มือถือราคาแพงรุ่นใหม่ล่าสุดของโบนัสปลุกให้คนที่หลับสนิทบนเตียงนุ่มสะดุ้งรู้สึกตัวตื่นหลุดออกจากภวังค์ มือบางเลื่อนลูบคลำอย่างสะเปะสะปะเพื่อหยุดเสียงที่กำลังแผดร้องเหมือนระฆังช่วยชีวิต
"อยู่ไหนวะ!" เสียงหวานพูดงึมงำออกมา มือของเธอยังคงควานหาต้นตอของเสียงนั่นไม่หยุดหย่อนจวบจนกระทั่งสัมผัสเจอ เมื่อกดปิดได้ใบหน้าสวยซบลงยังหมอนใบเดิมผล็อยหลับไปอีกครั้ง
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูบานใหญ่ดังขึ้นถี่รัวหน้าห้องนอนสีหวานที่บ่งบอกถึงตัวตนของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี
"โบ~....โบนัส ลูกสาวตื่นรึยังคะ!" เสียงหวานของหญิงวัยกลางคนที่ดวงหน้ายังคงสวยหวานเหมือนสาวแรกรุ่นก็ไม่ปานเอ่ยเรียกเจ้าของห้องอยู่อย่างนั้นเพราะรู้ดีว่าลูกสาวคนเล็กของเธอขี้เซาเพียงใด
"ตื่นแล้วค่าาา ม๊า~" เสียงหวานของโบนัสตะโกนตอบกลับไป ขืนไม่ตอบม๊าได้เคาะประตูพังแน่ 'ง่วงชะมัด' ร่างบางในชุดนอนลายการ์ตูนน่ารักตวัดปลายเท้าเล็กลงจากเตียงกว้างก้าวเท้าเดินโซซัดโซเซพาตัวเองเข้าไปภายในห้องน้ำกว้างที่เต็มไปด้วยเครื่องสุขภัณฑ์สวยหรูเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัว ก่อนจะออกมาแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาพอดีตัวกระโปรงทรงเอความยาวเหนือเข่า ใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังสีอ่อนดูสวยสมวัย ผมยาวสลวยม้วนลอนปลายปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง ร่างบางหมุนซ้ายขวาเช็คความเรียบร้อยหน้ากระจกบานใหญ่เต็มตัว ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าสะพายข้างแบรนด์เนมและโทรศัพท์เครื่องหรูก้าวเท้าเดินออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างเพื่อรับประทานอาหารเช้ากับคนในครอบครัวที่นั่งรออยู่
"โบนัสเร็วๆครับ เฮียรีบ" เสียงทุ้มของบอสเอ่ยบอกน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา ผมต้องขับรถแวะไปส่งโบนัสที่มหาลัยก่อนไปทำงานที่บริษัท ป๊าไม่อนุญาตให้เธอขับรถไปเองผมจึงต้องทำหน้าที่พลขับให้น้องสาวตัวดีทุกวันยังไงล่ะครับ
"รีบจะแย่แล้วเนี่ยเฮียบอส" เสียงหวานเง้างอนยู่หน้าให้พี่ชาย ก็คนมันง่วงนี่นาจะรีบไปไหนแต่เช้า ฟอด! ฟอด! ฟอด! ฉันเดินเข้ามายังโต๊ะอาหารก้มหน้าหอมแก้มป๊า ม๊า จนถึงคนสุดท้ายก็คือเฮียบอสสุดหล่อ ทำแบบนี้ตั้งแต่เด็กน้อยจนตอนนี้อายุสิบเก้าปีก็ยังทำอยู่
"ป๊าได้ยินเสียงดังปึงปังจากห้องลูกอีกแล้วนะ" เสียงขรึมของชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นสายตามองไปยังลูกสาวคนเล็กอย่างต้องการคำตอบ
"เหมือนเดิมค่ะป๊า แหะๆ" ทุกคนรู้ดีกับสิ่งที่ป๊าถามและคำตอบของฉันหมายถึงอะไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันฝันแบบนี้ ไม่รู้เป็นเพราะฉันชอบดูหนังผีอ่านนิยายผีมากเกินไปรึเปล่า แต่จะยังไงก็ช่าง..มันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น
"เงินค่าขนมที่ป๊าให้ไป..หมดแล้วรึยัง หื้ม?" เสียงขรึมถามขึ้นมาอีกครั้งอย่างเอ็นดูลูกสาวคนเล็กเขาให้บัตรเครดิตวงเงินสองแสนเงินสดห้าหมื่นบาทต่อเดือน ถ้าไม่พอเขาโอนเพิ่มให้อีก
"หมดแล้วค่ะ~"เสียงหวานเอื้อนเอ่ยบอกผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อนท่าทางน่ารัก เธอเป็นแบบนี้ทุกคนในบ้านถึงรักและตามใจมากๆ
"ผมให้น้องเองครับป๊า" บอสพูดขึ้น ผมเองก็รักโบนัสมากเหมือนกัน ไม่ว่าเธอจะขออะไรถ้าไม่มากเกินไปผมหามาให้เธอทุกครั้ง
ครอบครัวของฉันเป็นนักธุรกิจแถวหน้าของประเทศ มีคนนับหน้าถือตาและรวยติดอันดับหนึ่งในสิบ ในแวดวงธุรกิจไม่ค่อยมีใครได้ยลโฉมลูกสาวคนเล็กของบ้านเพราะฉันไม่ค่อยได้ออกงานต่างจากเฮียบอสที่เข้ารับตำแหน่งรองประธานบริษัทจึงเป็นที่รู้จักมากกว่า
ป๊าของฉันรับช่วงดูแลงานที่บริษัทต่อจากคุณปู่ จนมาถึงตอนนี้ที่เฮียบอสเข้าไปฝึกงานในตำแหน่งรองประธานเพื่ออนาคตจะได้เป็นประธานดูแลต่อจากป๊า ส่วนม๊าบ้านเกิดอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศตากับยายทำไร่ทำนาม๊าเป็นลูกคนเดียวพอแต่งงานก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพกับป๊ากลับไปหาตากับยายเดือนละครั้งและทุกครั้งก็จะพาฉันกับเฮียบอสไปด้วย
.
.
.
.
'เมื่อไหร่ที่เอ็งอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น มันถูกกำหนดมาแล้วและกำกับด้วยปานแดงรูปหัวใจกลางหลัง....หากพบเจอชายที่เป็นเนื้อคู่เขาจะลุ่มหลงในตัวเอ็งอย่างไม่เคยเกิดขึ้นกับหญิงชายใดมาก่อน เมื่อใดที่ก่อเกิดความรักศัตรูหมู่มารจะเพิ่มขึ้นและลดน้อยถอยไปเอง เขาจะปกป้องเอ็งจากคนรักในอดีตชาติที่ตามติดมายังชาตินี้ด้วยแรงอาฆาตพยาบาท...เสียงยานแหบแห้งของหญิงชราได้กล่าวเอาไว้'