ตอนที่ 3 : เอาใจน้องสาว
ภายในรถยนต์ประจำตำแหน่งของผู้บริหารหนุ่ม
รถโรลส์-รอยซ์คันหรูขับเคลื่อนออกจากงานแฟชั่นโชว์มาได้สักพักใหญ่ ภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบ สายตาคมกริบจ้องมองหน้าจอไอแพดแบรนด์ดังกับตัวเลขที่เขยิบขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมคายเรียบนิ่ง และไม่นานริมฝีปากหนาก็กระตุกยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับกดปิดหน้าจอไอแพดแบรนด์ดังเมื่อได้เห็นสิ่งที่ตัวเองต้องการ แผ่นหลังแกร่งเอนกายพิงกับเบาะหนังที่สั่งทำพิเศษของรถยนต์คันหรูพร้อมกับหลับตาลงเพียงเพราะต้องการพักสายตาเท่านั้น
"รอบนี้ยอดจองทะลุเป้าเร็วกว่าคอลเลคชั่นที่แล้วถึงห้านาทีเลยนะครับ" ดนัยลูกน้องคนสนิทพ่วงตำแหน่งเลขาประจำตัวที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับพูดด้วยรอยยิ้มเพราะดนัยเองก็จดจ่ออยู่กับตัวเลขยอดจองทางออนไลน์ที่ทะลุเป้าไปแล้วเหมือนกัน และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังทำลายสถิติการจองที่รวดเร็วกว่ารอบที่แล้ว
"แจ้งพนักงานพวกนั้นว่าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานให้หยุดกรณีพิเศษ" พายุพูดทั้งที่เปลือกตาทั้งสองข้างยังปิดสนิท
"ได้ครับคุณพายุ"
ภายในรถกลับมาเงียบอีกครั้ง จนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง
ครืด ครืด...
แต่แล้วเสียงโทรศัพท์เครื่องหรูก็แผดเสียงดังทำลายความเงียบทำให้คนที่พักสายตาลืมตาขึ้นและหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาดู สายตาคมมองชื่อที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ พยายามคุมน้ำเสียงให้กลับมาเป็นปกติก่อนจะกดรับสาย
"ว่าไงตัวแสบ ลมเพลมพัดหวนมาถึงพี่ชายแล้วหรือไง ถึงโทรมาได้" พายุแซวน้องสาวหัวแก้วหัวแหวนด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกและเป็นกันเองบ่งบอกถึงความเป็นพี่ชายที่แสนดี
(แสดงว่าลืมจริงๆสินะ มันน่าน้อยใจ) พราวฟ้าน้องสาวคนเดียวของพายุตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ลืมงั้นเหรอ...” พายุพูดขึ้นเบาๆ คิ้วหนาขมวดเล็กน้อยพยายามนึกว่าเขาได้ไปสัญญาหรือมีวันสำคัญอะไรกับน้องสาวสุดที่รักไว้หรือเปล่า แต่แล้วดนัยลูกน้องคนสนิทก็ยกหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่มีข้อความบอกให้เขาได้รับรู้ และไม่แปลกที่คนปลายสายจะใช้น้ำเสียงน้อยใจตั้งแต่แรก
"พี่ก็แกล้งเราไปยังงั้นแหละ จะดูว่าเด็กขี้งอนจะน้ำเสียงเป็นยังไง พี่ไม่ลืมนัดทานข้าวเย็นพร้อมหน้าพร้อมตากับพ่อแม่หรอกหน่า ว่าแต่น้องสาวของพี่จะทำอะไรไว้รอพี่ชายคนนี้ไหมหนอ..." พายุลากเสียงยาวพยายามทำให้คนปลายสายใจเย็น
(ไม่ใช่เพราะลูกน้องพี่แอบบอกเหรอคะถึงนึกขึ้นได้) พราวฟ้าสวนกลับมาอย่างรู้ทัน
"ชาแนลคลาสสิกหนังคาเวียร์สีดำเพื่อทำให้น้องสาวของพี่หายงอน พอใจไหม" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มกับความรู้ทันของน้องสาว แต่ก็เอาของที่น้องสาวชื่นชอบมาล่อเพราะรู้นิสัยของน้องสาวตัวแสบดี
(ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย...แต่ข้อมือพราวโล่งๆยังไงไม่รู้ค่ะ เหมือนเห็นสร้อยข้อมือดิออร์ออกใหม่)
"กระเป๋าพร้อมสร้อยข้อมือจะไปถึงมือน้องสาวคนสวยเย็นนี้แน่นอน"
(พี่ชายของน้องน่ารักจังเลยค่ะ มาเร็วๆนะคะ พราวกับคุณแม่ทำอาหารไว้รอพี่ชายคนเก่งเพื่อฉลองที่พี่เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่)
"อืม..." พายุตอบเพียงสั้นๆและกดวางสายจากน้องสาว ริมฝีปากหนาหุบยิ้มเมื่อกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ
"จัดการด้วย กูต้องได้ของไปฝากพราวฟ้าเร็วที่สุดก่อนที่รถคันนี้จะขับไปจอดหน้าบ้าน" น้ำเสียงเข้มออกคำสั่งเพราะเชื่อว่าลูกน้องอย่างดนัยได้ยินที่เขาพูดกับน้องหมดแล้ว และสามารถจัดการทุกอย่างให้เขาได้เป็นอย่างดี
"ได้ครับนาย ผมจะให้พนักงานในช็อปแบรนด์นั้นจัดการให้ไม่เกินสิบนาที" ดนัยรู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มรักน้องสาวมากแค่ไหน ยกเว้นแค่ดาวกับเดือนเท่านั้นที่เจ้านายจะเอามาให้น้องสาวไม่ได้ และไม่ทันข้ามวันเจ้านายของเขาก็สามารถเอาสิ่งของที่น้องสาวต้องการมาได้เสมอ แค่เพียงเอ่ยชื่อพายุและของที่เจ้านายหนุ่มต้องการตามแบรนด์ต่างๆของทุกอย่างก็ถูกจัดใส่กล่องปิดถุงพร้อมถือกลับบ้านได้ทันที ต่อให้ของชิ้นนั้นไม่มีวางโชว์ตามร้านหรูก็ต้องหามาให้ผู้มีอิทธิพลอย่างพายุจนได้ เหล่านักธุรกิจด้านแฟชั่นต่างรู้ดีว่าถ้าได้ร่วมงานกับบริษัทของพายุจะได้รับยอดขายถล่มทลาย ทำให้ทุกคนเชิดชูและเคารพในตัวของเจ้านายหนุ่มกันทั้งนั้น ไม่ใช่แค่ในวงการสีขาวแต่ในแวดวงสีเทาคลุกฝุ่นก็เคารพพายุที่เป็นผู้ชี้ชะตาความเป็นความตายเหมือนกัน
รถโรลส์-รอยซ์คันหรูขับเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าแค่เพียงหลังเดียวในพื้นที่กว่าร้อยไร่ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ถูกตัดแต่งให้เป็นรูปทรงต่างๆ น้ำพุขนาดใหญ่ตั้งเด่นประดับบารมีตามหลักฮวงจุ้ยได้เป็นอย่างดี ทุกส่วนของบ้านหลังนี้ถูกออกแบบให้ดูสง่าและยิ่งใหญ่ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงตัวบ้าน
รองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มเงาวับแตะพื้นที่ปูหินอ่อนตั้งแต่ทางเข้าพร้อมกับยัดกายออกจากรถคันหรูด้วยท่าทางเรียบนิ่ง สายตาคมปรายตามองของในมือของลูกน้องที่ยื่นให้ตั้งแต่เขาลงจากรถ ถุงแบรนด์เนมยี่ห้อดังสองถุงมาทันเวลาตามที่เขาต้องการพอดี จากใบหน้าเรียบตึงแปลเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนและส่งรอยยิ้มบางๆไปให้น้องสาวคนสวยในวัยสิบเก้าปีที่รีบวิ่งออกมาต้อนรับ
"พี่พายุ..." เสียงหวานเรียกคนที่มาใหม่ด้วยน้ำเสียงสดใส เผยรอยยิ้มหวานให้กับพี่ชายสุดที่รักพร้อมกับโผลกอดด้วยความคิดถึง "คิดถึงจังเลยค่ะ"
"ที่วิ่งออกมาหาพี่เพราะคิดถึงพี่จริงๆหรือคิดถึงของในมือพี่กันแน่" มือหนาขยี้หัวน้องสาวตัวแสบเบาๆเป็นเชิงหยอกล้อพร้อมกับยกถุงแบรนด์เนมหรูพลางหรี่ตามองน้องสาวตัวแสบอย่างจับผิด
"ทั้งสองอย่างค่ะ แต่คิดถึงพี่ชายที่แสนดีของพราวฟ้ามากกว่า"
"หึๆ...รู้จักเอาใจพี่จังนะ"
"นานๆพี่ชายจะกลับมาบ้านทั้งทีก็ต้องเอาใจสิคะ พี่พายุเอาแต่อยู่เพ้นท์เฮ้าส์ไม่ค่อยกลับบ้านนิคะ พราวคิดว่าพี่มีผู้หญิงซ่อนไว้ที่เพ้นท์เฮ้าส์จนลืมพ่อกับแม่และน้องสาวคนสวยไปแล้ว"
เป๊ะ!
"โอ๊ย...พราวเจ็บนะคะ ดีดมาได้หน้าผากพึ่งไปฉีดไขมันมานะ หมออุตส่าห์ปั้นตั้งนานเพื่อให้ได้หน้าผากโหนกๆรับทรัพย์เผื่อจะรวยเหมือนพี่ชายบ้าง" พราวฟ้าลูบหน้าผากปอยๆกับความเจ็บ ถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อโดนพี่ชายดีดหน้าผากจนเกิดเสียงดัง
"จะได้หยุดเพ้อเจ้อ" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มอย่างชอบใจที่ได้เห็นน้องสาวทำหน้าไม่พอใจ
"ไม่ยอมพาพี่เขาเข้าบ้าน มัวแต่อ้อนพี่อยู่นั่นแหละพราว นี่อ้อนจนได้ของอีกแล้วเหรอไง ให้มันน้อยๆหน่อยพี่เขาทำงานหนักแค่ไหนรู้ไหม"
"โห่...คุณแม่คะ ไม่เว้นช่องว่างให้พราวได้แทรกหน่อยเหรอคะ เข้าข้างกันจังเลยนะ เข้าบ้านไปหาคุณพ่อดีกว่า เชอะ!" พราวฟ้าแสร้งทำสีหน้างอนตุ๊บป่องและเดินเข้าบ้านไปก่อน ทั้งที่เธอไม่ได้โกรธอะไรพี่ชายกับแม่ แต่แค่เรียกร้องความสนใจตามประสาลูกสาวคนเล็ก
"อย่าว่าน้องเลยครับ ผมซื้อให้น้องเอง" พายุพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นผู้เป็นแม่ดุน้องสาว
"เราก็ตามใจน้องจนเสียนิสัยไปแล้ว แม่ไม่อยากบ่นตั้งแต่วินาทีที่ลูกชายคนโตมาเหยียบบ้านหรอก แต่ก็อดไม่ได้จริงๆ…ไปๆเข้าบ้านกัน คุณพ่อรออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว"
ไม่นานสองคนแม่ลูกก็เดินมาร่วมโต๊ะอาหารที่มีพ่อกับน้องสาวนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"นึกว่าจะหาทางกลับบ้านนี้ไม่ถูกซะแล้ว" น้ำเสียงเข้มน่าเกรงขามของคนมีอายุพูดกับลูกชายพร้อมกับจ้องมองไม่ละสายตา
"คนที่รักอยู่ที่บ้านหลังนี้จะกลับไม่ถูกได้ไง”
“ปากหวานจังพี่ชายที่แสนดีของน้อง” พราวฟ้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อได้ยินประโยคคล้ายบอกรักจากปากพี่ชาย พลางเหลือบตามองผู้เป็นแม่ก็เห็นรอยยิ้มมีความสุขเช่นกัน
"หึ...กินข้าวเสร็จและไปคุยกับพ่อที่ห้องทำงานหน่อย"
พายุพยักหน้าและส่งสายตาเรียบนิ่งไปที่ผู้เป็นพ่อ จ้องมองลึกไปในสายตาคู่นั้นทำให้เขาเข้าใจความหมายเป็นอย่างดี
"ให้ลูกพักผ่อนบ้างเถอะค่ะ ลูกกลับมาบ้านทีไรก็เรียกเข้าห้องทำงานไปคุยกันนานสองนาน"
"แอบทำอะไรผิดกฎหมายกันหรือเปล่าคะ หลบๆซ่อนๆน่าสงสัย" พราวฟ้ามองหน้าพ่อกับพี่ชายสลับกันไปมา
"เอาอีกสักทีไหมจะได้หยุดคิดเพ้อเจ้อ" พายุตั้งท่าจะเอื้อมไปดีดหน้าผากน้องสาวตัวแสบ แต่พราวฟ้ารีบใช้มือปิดหน้าผากทันที การหยอกล้อของพี่น้องทำเอาทุกคนที่อยู่แถวนั้นต่างอมยิ้มไปตามๆกัน