ที่แผนกประสานงานขายต่างประเทศ
ปวริศายื่นมือไปรับสูทหรูราคาแพงเปื้อนคราบกาแฟ ที่เธอเป็นคนทำ จากมือของศศิวิมลแล้วกล่าวว่า
“เดี๋ยวแป้งเอาไปส่งซักให้เองค่ะพี่ศศิ”
“ก็ต้องเป็นเธออยู่แล้วแหละยายแป้ง เฮ้อ... วันนี้เธอเป็นอะไรของเธอนะ ทั้งซุ่มซ่าม ทั้งเหม่อลอย มีสติหน่อยสิคะคุณน้อง”
ศศิวิมลบ่นอุบอิบแล้วส่งสูทให้ ส่วนปรียาพรเพื่อนของเธอก็อมยิ้มทำหน้าล้อเลียน ขณะที่กำลังทายาให้มือขาวที่มีรอยแดงเป็นจ้ำอยู่
“เอ๊ะ.. หรือว่าเธอตกตะลึงในความหล่อของบอสคนใหม่ของเราจ๊ะแป้ง”
“เอ่อ.. แป้งคงจะมึนๆ ค่ะ เมื่อคืนนอนน้อยด้วย เอ.. แถวนี้มีร้านซักแห้งที่รับงานด่วนบ้างไหมนะ แป้งไม่ค่อยรู้จักด้วยสิ”
ปวริศาแก้ต่างไปพร้อมกับสีหน้าที่กังวลครุ่นคิด ปรียาพรก็พิมพ์อะไรยุกยิกในโทรศัพท์มือถือแล้วก็ยิ้มออกมา
“ไม่เห็นจะยากเลย ก็ถามอากู๋สิ นี่ไงมีร้านรับซักรีด ซักแห้งรับงานด่วนรอรับได้อยู่ในซอย 24 เลยสี่แยกไฟแดงไปหน่อยนึง ไม่ไกลนะ แต่ออกไปตอนนี้รถคงติดน่าดู”
“ขอบใจจ้ะหม่อน เดี๋ยวแป้งนั่งวินไปดีกว่า เอ่อ.. พี่ศศิคะ แป้งเคลียร์งานไว้หมดแล้วค่ะ ไม่ค่อยมีอะไรด่วนแป้งขอออกไปเคลียร์เรื่องสูทก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว รีบไปตอนนี้เลย รีบไปรีบกลับ เมื่อกี้พี่ก็ลืมถามคุณเจฟฟ์ด้วยสิว่าจะใช้กี่โมง ได้ยินแค่ว่าเย็นนี้มีนัดกับคู่ค้า เธอรีบไปจัดการให้เรียบร้อยละกันแป้งนี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวที่จะให้เธอแก้ตัวเพื่อลดโทษที่ทำไว้นะ”
“พี่ศศิก็ขู่จัง ดูสิเพื่อนหม่อนหน้าซีดเป็นไก่ต้มไปหมดแล้ว รีบไปแป้งเดี๋ยวเราโทรเรียกแก๊ปให้เอง”
“ขอบใจมากนะหม่อน ไปก่อนนะคะพี่ศศิ”
ปวริศาเดินเข้าไปกอดและบอกขอบคุณเพื่อนรัก ที่วันนี้ดูจะเป็นที่พึ่งให้กับเธอผู้ไม่ค่อยมีสติได้เป็นอย่างดี และหันไหว้ลาผู้เป็นหัวหน้า ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าและเสื้อสูทเจ้าปัญหาเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูแล้วลูกบิดก็ถูกบิดออก พร้อมกับมีสาววัยสามสิบสี่ย่างสามสิบห้าอย่างภาวินีเลขาของประธานบริษัทและดูแลส่วนบริหารกลาง เดินเข้ามาในห้องทำงานของเจฟฟ์
“คุณเจฟฟ์คะ เรื่องชุดสูทของคุณเจฟฟ์ให้ภาวินีไปเอาชุดที่คอนโดให้ไหมคะ จะได้ไม่ต้องรอชุดที่ไปส่งซักค่ะ”
ภาวินีเลขาของท่านประธานผู้ที่ดูแลและจัดแจงเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาคอนโดให้เจฟฟ์ผู้เป็นนายใหม่อีกคน ทราบข่าวเรื่องที่พนักงานเดินชนผู้บริหารคนใหม่แล้วทำกาแฟหกรดชุดสูท จึงรีบเข้ามาดูแล เนื่องจากเจฟฟ์พึ่งจะเดินทางมาอยู่ไทยได้ไม่กี่วัน และพึ่งเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศวันแรกก็เกิดเรื่องเสียแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอตัวนั้นดีกว่า เพราะเป็นชุดที่เข้าเซตกับกางเกงที่ผมใส่ตัวนี้ครับ”
“อ๋อ ค่ะ.. เอแล้ววันนี้คุณเจฟฟ์มีนัดกับคู่ค้าไหนหรือคะ ภาวินีไม่เห็นตารางนัดของคุณเจฟฟ์ค่ะ ภาวินีต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่ไม่ทราบตารางนัดค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้สำคัญอะไรผมเลยไม่ได้แจ้งคุณภาวินีครับ”
ภาวินีทำหน้างง เพราะเท่าที่ได้ยินมาเหตุการณ์เมื่อครู่ดูคุณเจฟฟ์ซีเรียสมากแต่แล้วทำไมตอนนี้บอกว่าไม่ได้สำคัญอะไร นี่เธอคงต้องปรับจูนกับเจ้านายใหม่อีกพักหนึ่ง
“ท่านประธานให้ภาวินีจัดหาเลขาหรือผู้ช่วยไว้ให้คุณเจฟฟ์ค่ะ คุณเจฟฟ์ต้องการระบุคุณสมบัติใดพิเศษไหมคะ”
“ไม่เป็นไรครับผมยังรับมือไหวอยู่ ขอบคุณคุณภาวินีมากเลยครับ”
“เรียกว่านีก็ได้นะคะ ถ้าบอสไม่รังเกียจ”
“ครับคุณนี”
“ถ้าช่วงนี้มีอะไร บอสบอกพี่นีได้เลยนะคะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
ภาวินีโค้งศีรษะลงเล็กน้อยแล้วออกจากห้องไป ปล่อยให้บอสคนใหม่อยู่ตามลำพัง
ส่วนเจฟฟ์ได้แต่ยิ้ม วันนี้เขามาทำงานในออฟฟิศที่ไทยวันแรก เขาตื่นเต้นมาก ที่ได้จะเผชิญหน้ากับอีกคนที่เขาเฝ้ารอคอย เฝ้าคิดถึง และเขาก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้ ใครจะรู้บ้างไหมว่า เขาต้องอดทนอดกลั้นไม่ให้ก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากบางที่แต้มลิปสติกสีอ่อนแลดูสุขภาพดีแค่ไหนในจังหวะที่คว้าเอวบางที่สะดุดมาชนเขาไว้ในอ้อมกอด ดวงตาคู่สวยสบตาเขา ที่เต็มไปแววตาตื่นตระหนก ตกใจ สงสัย และเขาก็ได้ยินเสียงหวานเรียกชื่อเดิมเขาออกมา “เจย์เดน” ใช่ชื่อเดิมเขาคือเจย์เดน แต่พอไปเรียนที่อเมริกา คุณย่าก็ให้ผมใช้ชื่อที่ท่านตั้งไว้ให้ตั้งแต่เด็ก “เจฟฟ์ หลุย กาเบรียล”
ความจริงวันนี้เขาไม่ได้มีนัดหมายอะไรสำคัญ ก็เป็นแค่นัดในกลุ่มเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันที่อเมริกา มาพบปะทักทายกันก็แค่นั้น แต่ตัวของเจฟฟ์เองต่างหากที่ต้องการแกล้งเจ้าหล่อน
เวลาผ่านไป เจฟฟ์มองนาฬิกาที่บอกเวลา 15.00 น. เขาเก็บของแล้วเดินออกจากห้อง แล้วมายืนหยุดที่แผนกประสานงานขายต่างประเทศ พูดคุยกับปรียาพรแล้วยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งส่งให้หนึ่งใบ
ปวริศาเดินถือสูทออกจากลิฟต์เร่งเท้ามาที่แผนกของตน แล้วก็มายืนถอนหายใจหอบที่หน้าโต๊ะทำงาน มองเวลาที่นาฬิกา 15.15 น. ยังไม่ทันได้พักหายใจ ปรียาพรเพื่อนรักก็ยื่นกระดาษโน้ตใบน้อยมาให้หนึ่งใบ เธอก็รับมาด้วยสีหน้างง งง
“อะ..นี่ บอสฝากไว้ให้”
“คืออะไรอ่ะ หม่อน”
“ก็บอสให้เธอเอาไปให้ที่นี่ บอกว่าให้ไปถึงก่อนสี่โมงเย็น และเน้นย้ำว่าให้เธอไปเองด้วย ห้ามช้านะ เขาไม่ชอบคนผิดนัด”
“อะไรนะ สี่โมงเย็น ที่โรงแรมนี้อะนะ นี่มันก็ 15.15 น.แล้ว เหลืออีก 45 นาที ใครจะไปทัน เมื่อกี้ตอนเข้ามารถติดหนักมาก”
ปวริศาหันไปดูเวลาอีกครั้งแล้วถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้วก็ไม่รู้ จะไปยังไงให้ทัน กว่าจะลงจากตึก ก็คงต้องพึ่งแก๊ปสองล้ออีกแล้ว เฮ้อ
‘เจย์เดน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม เฮ้อ.. ลืมไปนายคือเจฟฟ์สินะ ไม่ว่าจะเจฟฟ์หรือเจย์เดน ฉันมั่นใจว่านี่คือความจงใจตั้งใจของนายแน่ๆ เฮ้อ’
“เฮ้อ..”
“ฉันเสนอตัวแล้วนะแป้งว่าจะช่วยเอาไปให้แทนเธอแต่บอสไม่ยอมอ่ะ”
ปวีณาพูดบ้าง แล้วปรียาพรก็รีบพูดว่า
“มัวแต่ยืนถอนหายใจ รีบไปเถอะแป้งเดี๋ยวไม่ทันหรอก เวลานี้รถติดมากด้วยนะ มาเดี๋ยวฉันเรียกแก๊ปให้เธอรีบลงไปรอที่หน้าตึกเลย ส่วนรถของเธอก็จอดทิ้งไว้ที่นี่แหละ”
“ขอบใจมากนะหม่อน เฮ้อ.. วันนี้เป็นวันอะไรนะ ทำไมแป้งถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้นะ”
“วันนี้ก็เป็นวันที่ฉันได้เจอเนื้อคู่ เป็นบอสเจฟฟ์สุดหล่อไง”
“เพ้ออ่ะ ยายวี โหดแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ ฉันขอบายดีกว่า”
“ดีตัดคู่แข่งไปได้อีกหนึ่ง”