วันรุ่งขึ้น เวลา 10 โมง
โรงแรมราเมอร์
ฉันมาดูสถานที่จัดเลี้ยงก่อนวันจริงเพราะต้องมาดูว่าอะไรต้องวางตรงไหนบ้าง เลยมานั่งรอคุณเบนลีอยู่ที่โซนนั่งเล่นริมทะเลไปพลางๆก่อน
“บรรยากาศดีจัง..”
“น้ำแตงโมปั่นครับ..”
ฉันหันไปมองเด็กเสิร์ฟที่กำลังวางแก้วน้ำแตงโมที่ฉันสั่งลงบนโต๊ะ
“ขอบคุณค่ะ..”
กริ๊งง กริ๊งง สายเข้าจากปรานนท์เพื่อนสนิทของฉัน
(นี่แกถึงโรงแรมแล้วหรอ..?)
“อืม..แล้วแกอยู่ไหนแล้ว รีบมาเร็วๆซิจะได้ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันต่อ?”
(เคลียร์งานแปบ แล้วเดี๋ยวฉันรีบบึ่งรถไปเลย)
“เออ..”
ฉันวางสายจากไอ้นนท์แล้วก็หันมาดื่มน้ำแตงโมปั่นที่วางบนโต๊ะ ไอ้นนท์เป็นเพื่อนของฉันตอนสมัยเรียน แล้วก็เป็นสามีของอ้อมเพื่อนสนิทสุดที่รักของฉันด้วย พวกเราสนิทกันมากๆมีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด งานจัดเลี้ยงที่นี่ที่ฉันได้ก็เพระไอ้นนท์แนะนำให้ ไม่งั้นโรงแรมใหญ่โตขนาดนี้คงไม่สนใจร้านกาแฟเล็กๆของฉันหรอก
“โรงแรมนี้มีแต่ชาวต่างชาติเต็มเลย เยอะกว่าคนไทยซะอีกนะเนี้ย..”
ฉันมองไปรอบๆก็รู้สึกไปสะดุดตาเข้ากับผู้ชายชาวต่างชาติคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่อีกโต๊ะฝั่งตรงข้ามฉันไกลออกไป
“มองอะไรของเขาวะ..?”
ฉันหันไปมองข้างหลังดูว่ามีอะไรที่น่าสนใจมากจนถึงขนาดเขาต้องจ้องไม่วางตาขนาดนั้นไหม ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย ฉันหันกลับมาก็ยังเห็นเขานั่งจ้องอยู่แบบนั้นนิ่งๆ ฉันจึงหยิบแว่นตาดำขึ้นมาใส่แล้วหันไปมองที่ทะเล
“มองบ้าอะไรของเขาวะ..?”
ฉันเหล่ตามองเขาภายใต้แว่นตาดำที่กำลังใส่อยู่ตอนนี้ ก็ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆเพราะเขายังจ้องมาที่ฉันอยู่แบบนั้นไม่เลิก
“คุณสายไหม..สวัสดีครับ”
"สวัสดีค่ะ..คุณเบนลี"
คุณเบนลีเดินเข้ามาทักทายฉันมันทำให้ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
“ไปกันเลยไหมครับ.?”
“ค่ะ..เรารีบไปกันเถอะค่ะ”
ฉันรีบลุกขึ้นยืนแล้วก็เดินตามคุณเบนลีไปทันที
...
คุณเบนลีพาฉันมาแนะนำโซนจัดเลี้ยงที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้อย่างละเอียด จนไอ้นนท์มันมาถึง
“คุณเบนลีครับ..”
“อ้าว..คุณนนท์ก็มาด้วยหรอครับ..?”
“ผมแวะมาทานข้าวกับไหมนะครับ คุณเบนลีทานข้าวเที่ยงด้วยกันไหมครับ..?”
“ไม่เป็นไรครับ..พอดีผมนัดภรรยาไว้แล้วนะครับ...งั้นผมคงต้องแยกไปตรงนี้เลยนะครับ ทานอาหารให้อร่อยนะครับ..”
“ขอบคุณค่ะ..”
พวกเราคุยงานกันจนเสร็จฉันกับไอ้นนท์ก็เดินออกมาพร้อมกัน และก็มาเจอเข้ากับผู้ชายชาวต่างชาติคนนั้นอีกครั้ง
“แกเป็นไรวะ..?”
ฉันรีบขยับเข้าไปใกล้ๆตัวไอ้นนท์มากขึ้น แล้วจับแขนมันไว้อย่างรู้สึกกลัวๆผู้ชายคนนั้น
“เปล่า..รีบไปเถอะฉันหิวแล้ว”
ฉันควงแขนมันเดินออกไปจากตรงนั้นทันที แล้วไปทานอาหารในห้องอาหารที่คุณเบนลีแนะนำว่าอร่อยที่สุดในโรงแรม
“มีอะไรหรือเปล่าวะ เมื่อกี้ตอนเดินออกมาฉันเห็นแกทำท่ากลัวๆอะไรบางอย่าง..?”
“เปล่า..ไม่มีอะไร..”
ฉันปฏิเสธมันไปเพราะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นต้องการอะไร ฉันอาจจะเข้าใจผิดไปเองก็ได้มั้ง
จนเมื่อเรา 2 คนทานอาหารกันเสร็จเราก็แยกย้ายกลับกัน ฉันแยกจากไอ้นนท์กำลังจะเดินไปที่รถตัวเองแต่ก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมา
“ไปเข้าห้องน้ำสักหน่อยดีกว่า..”
ฉันจึงเดินไปที่ห้องน้ำแล้วก็หันไปสะดุดสายตากับผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ที่ยืนกอดอกมองมาที่ฉันนิ่งๆ
“เจออีกแหละ..เป็นฝรั่งโรคจิตหรือเปล่าเนี้ย?”
ฉันรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีแล้วก็รีบเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จอย่างไว แล้วรีบเดินออกมาแต่ก็ไม่เจอเขาแล้วจึงรีบตรงไปที่รถทันที
“หายไปแล้ว..ค่อยยังชั่ว..”
ฉันรีบขับรถออกมาจากโรงแรมทันที แล้วตรงไปที่ร้านกาแฟตัวเอง
...
ร้านกาแฟ สายไหม
“นายให้ผมขับตามเธอมาทำไมหรอครับ..?”
“ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้..”
“อะไรนะครับ..?”
“ฉันสนใจผู้หญิงคนนี้ ฉันต้องการเธอ..”
“แต่ว่าเธอไม่ได้ทำงาน เหมือนผู้หญิงพวกที่ผมหามาให้นายนะครับ..”
“เธอต้องการเท่าไหร่ก็ให้ไปซิ จะ 5 ล้าน หรือ 10 ล้านก็ได้ ฉันทุ่มไม่อั้นแต่ฉันต้องได้เธอ...”
ราจีฟมองเข้าไปในร้านกาแฟของสายไหมอย่างรู้สึกหนักใจ
“พรุ่งนี้ฉันต้องเห็นเธออยู่ในห้องฉัน.."
“ครับ..ผมจะจัดการให้ครับ”
...
วันรุ่งขึ้น
วันจัดเลี้ยงต้อนรับลูกค้า VIP มีลูกค้าที่มาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน 20 คน ทุกคนดูไฮโซดูรวยมากๆ มีทั้งคนไทยแล้วต่างชาติที่มารวมตัวกันที่นี่
“คุณดีแลนไม่มาร่วมงานนี้หรอคะ..?”
“คุณดีแลนไม่สะดวกครับ..แจ้งว่าต้องการพักผ่อนแบบส่วนตัวนะครับ..”
“เสียดายจัง..นี่ตั้งใจมาเจอคุณดีแลนเลยนะเนี้ยถึงได้แต่งตัวมาเต็มขนาดนี้..”
สาวไฮโซคนหนึ่งพูดขึ้นจนฉันต้องมองเธอตั้งหัวจรดเท้าก็สวยมากจริงๆ รวมๆแล้วชุดที่เธอใส่กับเคนื่องประดับทุกชิ้นน่าจะเป็นหลายล้านนะเนี้ย
“แพรก็ตั้งใจมาเจอคุณดีแลนเหมือนกันค่ะ.”
มีแต่คนพูดถึงผู้ชายที่ชื่อดีแลน เขาเป็นใครนะทำไมถึงมีแต่สาวๆพูดถึงชื่อเขา เขาน่าจะหล่อแล้วก็ต้องรวยมากๆแน่ถึงได้มีแต่สาวๆพูดถึง
“อยากเห็นหน้าแล้วซิ..ว่าจะหล่อสมกับที่พวกสาวๆในงานต่างพูดถึงกันจริงไหม..?”
“อุ๊ย...นั่นคุณดีแลนนี่คะ..?”
มีผู้หญิงคนหนึ่งพูดชื่อของผู้ชายคนนั้น ฉันจึงรีบหันไปมองตามสายตาของทุกคู่ที่กำลังมองไปที่เขา และคนที่กำลังเดินเข้ามาในงานก็ทำให้ฉันตกใจ
“ไอ้ฝรั่งโรคจิตคนนั้นหรอเนี้ย..?”