4

1541 คำ
“นั่นมันดอกปีบกับพี่กล้านี่นา” เธอกระซิบกับอกของเขา กล้ามเนื้อแข็งแรงและกลิ่นกายชายทำให้หัวใจของมะลิเต้นระรัว “ไปกันเถอะ แอบมองคนอื่นไม่ดีนะ” เขาก้มลงมากระซิบ ใบหน้าน่ารักที่ห่างกับเขาแค่คืบทำให้เข้มตื่นตัวไม่น้อย เขาเกิดอารมณ์เสน่หาอย่างไม่น่าให้อภัย “อย่าเพิ่งไป” คนกระซิบตอบเสียงสั่นๆ หน้าแดง “ทำไม” “เขาสองคนหันมาทางนี้แล้ว ถ้าเราลุกเขาก็ต้องเห็นแน่ๆ เลย” มะลิไม่คิดเลยว่าต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้กับเขา “งั้นก็ต้องนอนอยู่ตรงนี้กันอีกเหรอ” เขาเอ่ยถามเหมือนขอความเห็น “ก็ใช่น่ะสิ รึพี่เข้มไม่อยากจะนอนอยู่ตรงนี้” เธอรีบเอ่ยถามเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น “นอนก็นอน” เขาทิ้งตัวลงบนกองฟางเหมือนไม่ยี่หระ ก่อนจะดึงเธอมาซบอกแล้วอมยิ้ม ถ้าบอกว่าไม่นอนก็จะนอน บอกว่าให้นอนก็จะไม่นอน บางทีเด็กก็เข้าใจอะไรยาก แต่คนแบบเขาก็ชอบแกล้งเด็กนักแหละ “พี่เข้ม หายใจไม่ออกนะ” เธอดิ้นเมื่อโดนเขากดลงกับอก “อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวสองคนนั่นก็ได้ยินหรอกว่าเราแอบมอง” “โอ๊ย! ได้ยินก็ได้ยินไปสิ” ทนไม่ไหวก็เลยลุกขึ้นมาก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเจอเข้ากับคนสองคนที่นั่งจู๋จี๋กันอยู่ เธออ้าปากค้างก่อนจะรีบเอ่ยขอโทษขอโพย “ขอโทษจ้ะพี่กล้าดอกปีบ” เพราะสองคนนั่นกำลังกอดและทำท่าจะจูบกันน่ะสิ เอ่ยขอโทษเสร็จเธอก็รีบหมุนตัวเองวิ่งหนีออกมาในทันที “พี่เข้มนั่นแหละ พาไปตรงนั้นทำไม” “ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีคนไปนั่งจู๋จี๋กันตรงนั้น” เขาพูดขำๆ “ไม่ต้องมาขำเลยนะ” เธอทำหน้างอนใส่เขา “จะขี่ไอ้ดำกลับไปหรือจะเดินกลับ” เขาถามความเห็น “ชื่อควายเหมือนผิวพี่เลย” เธออดวิจารณ์ผิวสีเข้มของเขาไม่ได้ ได้ยินแบบนั้นเขาก็อดขำเธออีกไม่ได้ “มะลิกำลังว่าพี่อยู่นะ ยังจะมาขำอีก” “วันนี้จะกินอะไรพี่จะได้ทำให้กิน” คนรักเมียเอ่ยถามตาหวาน “กินอะไรก็ได้” คนตอบเดินหนีไปที่เจ้าดำมันกำลังเล็มหญ้าอย่างมีความสุข เธอลูบศีรษะของมันไปมา จับเขามันเล่นแล้วอมยิ้ม “งั้นพี่ทำแกงส้มให้กินดีไหม” “ไม่รู้สิคะ” “งั้นกินพี่ดีไหม” “ก็ไม่รู้ เอ๊ะ! ใครจะอยากกิน” พูดแล้วหน้าแดงลามไปถึงใบหู “อาทิตย์หน้าจะเริ่มหว่านกล้าแล้วล่ะ” เขาบอกเธอ มองผืนนากว้างใหญ่ตรงหน้าอย่างมีความสุข “เดี๋ยวมะลิจะช่วยทำนา” “ไม่ต้องหรอก ไม่อยากให้เมียเหนื่อย” “แล้วจะไม่ให้มะลิทำอะไรบ้างเลยเหรอ” “เป็นเมียพี่ก็พอ” “แน่ะ! ก็เป็นอยู่แล้วไง” พอพูดมาถึงตรงนี้เธอก็หน้าแดงก่ำ “ไม่พูดด้วยแล้ว” “กลับกันเถอะ” เขาตบก้นเจ้าดำเบาๆ มันนอนหมอบลงให้เขากับเธอขึ้นไปขี่หลัง คราวนี้คนไม่อยากนั่งหลังปีนขึ้นไปนั่งหน้าก่อน เข้มยิ้มในหน้าก่อนจะปีนขึ้นไปขี่หลังของเจ้าดำเอื้อมมือไปดึงเชือกเพื่อกระตุกให้มันเดินจึงได้โอบกอดร่างอรชรเอาไว้เต็มอ้อมแขน “อย่าดิ้นสิเดี๋ยวตกลงไปแข้งขาหักไม่รู้ด้วยนะ” เขาหอมแก้มนวลฟอดใหญ่เมื่อเธอหันมาทำท่าจะประท้วงเขา ไม่น่ามานั่งตรงนี้เลย... เด็กสาวบอกตัวเองในใจ “ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรไงถ้ามะลิไม่ยอม” “ยังไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นเลยแค่หอมแก้ม” “หอมแก้มก็ไม่ได้” “ใจร้ายกับพี่จัง” “ใครอยากแต่งงานกับพี่กัน มะลิโดนพ่อแม่บังคับนะ” “ไม่ต้องตอกย้ำก็ได้ พี่รู้แล้ว” เขาพูดเสียงขรึมและไม่โต้ตอบอะไรกับเธออีก เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าตัวเองพูดไม่ดีกับเขา “พี่เข้มโกรธมะลิเหรอ” “ไม่โกรธหรอก พี่รู้ตัวดีว่าแก่แล้ว” “แน่ะ! ใครแก่” เรื่องนี้เธอเถียงขาดใจ เขาน่ะยังดูไม่แก่เลย คนแกล้งงอนเมียแอบอมยิ้ม เมียตัวหอมชะมัดยาด แล้วก็ยังชมว่าเขาไม่แก่ “พี่ไงแก่แล้ว เด็กเลยไม่อยากเอาทำผัว” เขาผ่อนเชือกเพื่อไม่ให้เจ้าดำเดินเร็วนัก จะได้อยู่แบบนี้กับเธอไปนานๆ “พี่เข้มยังไม่แก่” “จริงเหรอ” เขาแกล้งถาม หัวใจฟู่ฟ่อง “อือ... คนอะไรว่าตัวเองแก่” คนพูดชมนกชมไม้ไปเรื่อย เดินผ่านไปทางไหนก็ทักทายกับคนในหมู่บ้านที่ออกไปทำไร่ทำสวน เธอเลยโดนเขาโอบกอดอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เข้มกลับมาถึงบ้านก็เข้าครัวหุงหาอาหารเขาทำแกงส้มปลากับไข่เจียวใส่ไข่มดแดง ผัดผักรวม ปลาแดดเดียวและน้ำพริกผัก แค่ได้กลิ่นก็น้ำลายสอ เธอเป็นลูกมือช่วยเขาหยิบจับโน่นนั่นนี่ไม่นานก็เสร็จสิ้น มะลิคลายจากอาการเกร็งไปได้เยอะมากเพราะถึงเขาจะจับมือ กอด หอมแก้มแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีจะปลุกปล้ำขืนใจเธอเพื่อเผด็จศึกเอาทำเมีย แต่กระนั้นเด็กสาวก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี “พี่เข้มทำอาหารอร่อยเหมือนกันนะ” เธอเอ่ยชมจากใจ สิ่งสำคัญไปกว่านั้นก็คือเธอแทบไม่ต้องหยิบจับทำอะไรให้เหนื่อยเลย เขาทำเสียหมด “กินเยอะๆ นะ” เขาตักกับข้าวให้เธอ เป็นอีกมื้อที่เธอรู้สึกว่าคลายจากความเกร็งลงไปเยอะ และเจริญอาหารแถมยังมีความสุขกับการกินอีก “อยู่กับพี่เข้มไม่ถึงเดือนอ้วนขึ้นแน่ๆ เลย” “ทำไมล่ะ” “ก็พี่เข้มทำกับข้าวอร่อย” “หัดเอาไว้ คิดว่าจะทำให้เมียให้ลูกกิน” แน่ะ! พูดอะไรแบบนั้น คนที่รู้สึกขัดเขินเสไปตักอาหารรับประทานในทันที “มะลิก็ชอบทำกับข้าว” “เย็นนี้จะลงมือทำเองเหรอ” เขาเดาเอาเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น เข้มทำตัวเรื่อยๆ เป็นกันเองกับเธอ คุยกันเรื่องสัพเพเหระเพื่อให้เธอคุ้นเคย “ได้เหรอคะ” “ได้สิ บ้านนี้เป็นของมะลิครึ่งหนึ่ง จะทำอะไรก็ได้” “งั้นมะลิขอลองทำกับข้าวกินเองนะ” “เอาสิ มื้อเย็นอยากทำอะไรกินล่ะ” “แกงบอนค่ะ เห็นบอนตรงนั้นน่ากินมาก” เธอชี้ไปยังคลองข้างๆ บ้าน มีต้นบอนหวานขึ้นอยู่เต็มไปหมด “ได้ เดี๋ยวพี่ไปตัดให้” “ใส่กุ้งฝอยน่าจะดี” “กุ้งฝอยมี เดี๋ยวพี่ช้อนให้ที่ริมคลอง” “มะพร้าวล่ะจ๊ะ ต้องคั้นน้ำกะทิ” “เดี๋ยวพี่ปอกมะพร้าวให้ ขูดให้ คั้นน้ำกะทิให้เอง” ได้ยินเขาพูดแบบนั้นเธอก็ยิ้มแฉ่งในทันที หลังจากแต่งงาน การใช้ชีวิตอยู่กันเข้มไม่ได้ทำให้เธออึดอัดใจอย่างที่คิด เพราะเข้มเป็นคนขยัน แย่งเธอทำงานเสียทั้งหมด บางทีเธอก็นั่งมองเขาทำงานเพลิน ทุกวันเธอจะขี่เจ้าดำตามเขาไปทุ่งนา บ้างก็ไปทำไร่ทำสวน มันเป็นชีวิตที่แสนเรียบง่าย แต่ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นมาในหัวใจของเธอทีละเล็กทีละน้อยอย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว “ว้าย! พี่เข้มทำอะไรนี่” เธออ้าปากค้างตาโตยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองเมื่อโดนป้ายโคลน “ก็เห็นใจนั่งลอย” “พี่เข้ม!” เธอเลยใช้โคลนป้ายที่แก้มของเขาบ้าง “เฮ้ย!” “สมน้ำหน้าอยากแกล้งมะลิก่อนทำไม” “งั้นก็ต้องโดนเข้าไปอีก” เขาป้ายอีก “หือ... พี่เข้ม” เธอตาโตเมื่อโดนป้ายอีกด้านของแก้ม เลยตีเขาอย่างงอนๆ “อุ๊ย! พี่เข้ม” เธอร้องเมื่อโดนสวมกอด “ปล่อยเลยนะ” เธอดิ้น ขณะที่เขาจับเธอให้นั่งบนตัก “ขอกอดสักนิดไม่ได้เหรอ รู้ไหมว่าทุกวันนี้พี่ต้องอดทนแค่ไหน” เข้มพ้อเบาๆ วางคางที่ไหล่บอบบางของเธอ “ก็ไม่ได้บอกให้อดทนเสียหน่อย” “หือ...” เข้มถึงกับครางเหมือนเขาจะฟังอะไรผิดไป “อะไรนะ พูดใหม่สิ” “คนหูตึง” “พี่อยากฟังอีก” “ไม่พูดแล้วค่ะ” คนที่ยอมใจอ่อนมาหลายวันแล้วมีท่าทีขัดเขิน “งั้นเราไปเข้าหอกันเลย” “ว้าย!” เธอร้องเมื่อโดนอุ้มขึ้นสู่อ้อมแขน “อะไรกันคะ ยังกลางวันอยู่เลย” “เราไปอาบน้ำกันดีกว่า” “แน่ะ! อย่ามาทำน้ำเสียงแบบนี้นะ” “ใจอ่อนกับพี่ทำไมไม่บอก” “ใครบอกว่าใจอ่อน” “อ้าว... ไม่รู้ละครับ มาพูดให้พี่เข้าใจผิด ต้องรับผิดชอบ” เข้มอุ้มภรรยากลับบ้าน เธอกอดคอหนาของเขาเอาไว้ ให้เขาพาไปที่ลานโล่งใกล้บ้านสำหรับอาบน้ำ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม