1 เดือนต่อมา
ความโดดเด่นของหล่อนรวมทั้งการทำงานและการหาลูกค้าพร้อมกับเอนเตอร์เทนลูกค้าจนกลายเป็นที่ติดอกติดใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก จนเรียกใช้บริการหาเด็กๆ มาให้ รวมถึงความเป็นกันเองของหล่อนทำให้กลายเป็นสาว PR ดาวเด่นของร้านได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ต้องเอนเตอร์เทนลูกค้าแบบถึงเนื้อถึงตัวก็ทำให้แขกหลายๆ คนต่างติดอกติดใจกับคารมของหล่อนจนได้ฉายาว่า BLACK เพราะเสื้อผ้าของหล่อนมีแต่สีดำทั้งนั้นไม่มีสีอื่นเลย ทำให้ใครหลายคนต่างติดลุคโทนดาร์กของหล่อนหมด
“เสี่ยมีอะไรให้หนูนารับใช้เหรอคะ” หล่อนเดินเข้าไปลูกค้าขาประจำที่แวะเวียนมาบ่อยจนทำให้พูดคุยสนิทสนมถูกคอกัน
“มานั่งคุยกับเสี่ยหน่อยม่ะ เสี่ยขอบคุณกับหนูนาจริงๆ เลย” ชายวัยกลางคนบอกขึ้น เขาเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้าเหมือนลูกเหมือนหลานไม่ได้มีความรู้สึกแบบชู้สาว การปฏิบัติตัวของหญิงสาวทำให้เขาประทับใจรวมทั้งได้พูดคุยในตอนเครียดๆ แล้วทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมา
“คิดถึงหนูนาใช่ไหมล่ะค่ะ แล้วนี่เด็กๆ เสี่ยหายไปไหนหมดแล้วค่ะ” หล่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นสาว PR เลยสักคน
“ไปห้องน้ำนะ หนูนาทำงานมานานแล้วยังเนี่ย” ชายวัยกลางคนถามขึ้น
“ได้เดือนนึงแล้วค่ะเสี่ย”
“เสี่ยไม่เคยเจอพนักงานคนไหนแซบได้เท่าหนูนาเลยนะ ปกติพนักงานจะคอยเอาอกเอาใจ ถึงเนื้อถึงตัว ลูบไล้ได้ แต่ของหนูแตกต่างกันมาก ยิ่งได้คุยกันแล้วเสี่ยยิ่งถูกใจจริงๆ” ถึงแม้ว่าเขาจะมาเที่ยวเพื่อผ่อนคลายความเครียดโดยการมีสาวๆ อยู่ข้างๆ แต่ในทางกลับกัน หญิงสาวตรงหน้าทำให้เขาสบายใจเมื่อได้พูดคุยมากกว่าการถึงเนื้อถึงตัวกอดจูบลูบไล้
“หนูนาไม่อยากทำแบบนั้นค่ะเสี่ย หนูนามีลูกสองคนแล้ว ไม่อยากให้ลูกต้องโดนล้อแบบนั้น หนูนาพอใจกับสิ่งที่หนูนาทำค่ะ”
“พูดดีจริงๆ เลย เสี่ยเอาเตกีล่า 2 ชอตนะ เป็นขวัญกำลังใจให้หนูนา เวลาเครียดๆ แล้วมาได้คุยกับหนูนา เสี่ยสบายใจขึ้นเยอะเลย”
“ขอบคุณมากค่ะเสี่ย” หล่อนยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างดีใจ ไม่คิดเลยว่าไม้เด็ดที่งัดออกมาใช้จะได้ผลอย่างดี หล่อนไม่ต้องเปลืองแรงมากมาย เพียงแค่เข้าไปพูดคุยไถ่ถามสารพัดสุขดิบของลูกค้าเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจเมื่อได้คุยด้วย แค่นี้ก็ทำให้หลายคนติดใจแล้วไม่ต้องมาให้กอดรัดฟักเหวี่ยงเหมือนสาวPR คนอื่นๆ
“ให้ตายเถอะหนูนา ทำบุญด้วยอะไรเนี่ย ลูกค้าต่างเรียกหาตลอดเลย ขนาดเพียงแค่เดินขายเตกีล่านะยังฮอตขนาดนี้เลย” เจ๊มดแดงเดินเข้ามาพูดด้วยเมื่อหญิงสาวมายังที่บาร์เหล้าแล้วเอ่ยปากชมไม่ขาดสาย ไม่เคยมีใครในบาร์แห่งนี้ทำให้ลูกค้าติดใจมากก่อน โดยไม่ได้ต้องลงทุนเปลืองตัวมาก เพียงแค่มีคารมดีๆ สักหน่อยก็มัดใจได้แล้ว
“บอกแล้วไงคะว่าหนูนามีวิธีเด็ดที่งัดเอามาจากตอนเป็นพริตตี้มาใช้ แป๊บเดียวลูกค้าติดใจเลย สาวๆ แขกโต๊ะนู่นยังว่างต้องการคนไปคอยเอาใจ ใครคิดว่าตัวเองแซบพอเชิญไปเลยจ้ะ”
“เชิญไปทำงานต่อเลยย่ะยัยคนเก่ง”
กว่าจะเลิกงานก็ปาเข้าไปตีสอง หล่อนจัดการเปลี่ยนชุดแล้วแวะหาของกินก่อนกลับบ้าน ตอนนี้รายได้แต่ละวันของหล่อนตกหมื่นกว่าเพียงแค่เดินขายเตกีล่าเท่านั้นยังไม่รวมกับค่าทิปต่างหากที่ลูกค้าให้อีก ทำให้ครอบครัวของหล่อนไม่ต้องลำบากเรื่องเงินแถมยังมีเงินเก็บไว้ในยามลำบากอีกด้วย
เช้าวันต่อมา
“หนูนา ลงมากินข้าวได้แล้วลูก” คุณไพลินตะโกนเรียกบุตรสาวให้ลงมากินข้าวในช่วงสาย กว่าหนูนาจะกลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปตีสามกว่า ยังดีหน่อยที่หลานๆ ของหล่อนมีรถโรงเรียนมารับ เลยไม่ต้องลำบากหนูนาให้ไปส่งตอนเช้าซึ่งเป็นเวลานอน แต่ตอนเย็นหนูนาจะเป็นคนไปรับเด็กๆ กลับบ้านแล้วใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนถึงตอนทำงาน เพื่อไม่ให้เด็กทั้งสองคนรู้สึกเหงาหรือน้อยใจขึ้นมา
“วันนี้ทำอะไรกินค่ะแม่” หล่อนเดินลงมาจากบนห้องในสภาพเสื้อสายเดี๋ยว กางเกงขาสั้น หัวฟู เหมือนคนเพิ่งตื่น
“ทำงานเป็นยังไงบ้าง สนุกหรือเปล่า” ไพลินหันมาถามถึงการทำงานใหม่ของหนูนาในตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรมากเท่าไร และคงไปได้ด้วยดี
“สนุกมากค่ะแม่ ทุกคนที่ทำให้งานให้การต้อนรับหนูเป็นอย่างดี นี่ก็เดือนกว่าแล้วที่ได้มาทำงานเป็น PR หนูไม่คิดเลยนะคะว่าการเอาเทคนิคเก่าๆ ตอนเป็นพริตตี้ออกใช้จะได้ผลตอบรับดีขนาดนี้ จนทำให้ลูกค้าต่างเอ็นดูหนูมาก ขนาดไม่มีการถูกเนื้อต้องตัวเหมือนสาวในร้านคนอื่นๆ ลูกค้าก็ยอมนะคะแม่ เพราะหนูนามีคารมพูดคุยดีทำให้แขกหลายคนรู้สึกสบายใจที่ได้คุยด้วย”
“ดีแล้วแหละลูก เราต้องมองเขาเป็นลูกค้าและเพื่อนด้วย เพราะเขามาที่นี่เพื่อมาผ่อนคลายดังนั้นเราควรทำให้เขาสบายใจเมื่อได้มาเยือน การต้องกอดจูบลูบคลำ ไม่ใช่ว่าจะเป็นการคลายเครียดนะ แต่การที่มีใครสักคนมานั่งฟังปัญหาของเราเพียงแค่ไม่นานก็ทำให้เรารู้สึกสบายใจได้ หนูนาลูกทำแบบนี้ถูกแล้วนะ แม่อยากให้ลูกทำแบบนี้อีกต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเราจะได้ไม่ลำบากในการทำงาน”
“ค่ะแม่ เมียของเจ้าของร้านยังเอ่ยปากชมหนูเลยนะคะแม่ ว่าทำให้ยอดขายในร้านสูงขึ้น สาว PR แต่ละคนก็มีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย” หล่อนบอกขึ้นด้วยน้ำเสียงแจ่มใสเมื่อนึกถึงตอนที่เจ้าของร้านเรียกไปชม
“อย่าไปสร้างศัตรูให้ใครล่ะรู้มั้ย ระวังด้วย” คุณไพลินเตือนหนูนาด้วยความหวังดี หล่อนกลัวว่าหนูนาอาจจะโดนคนอื่นหมั่นไส้เข้าได้ หากทำงานดีจนเกินหน้าเกินตาคนอื่น
“ค่ะแม่” หล่อนรับฟังในสิ่งที่มารดาสอนและเตือน เพื่อจะได้คอยระวังตัวไม่ให้มีศัตรู และเมื่อพูดคุยกับมารดาเสร็จหล่อนก็จัดการกินอาหารตรงหน้าด้วยความหิวโหย