อุ่นใจรัก 11

1184 คำ
อุ่นใจรัก 11 พี่อุ่นใจช่วยอุ้มต้นไม้ที่หลับแนบหน้าอกฉันอย่างเบามือระหว่างนี้ก็พาเดินเข้าบ้านหลังหนึ่งไป บ้านที่มีกลิ่นอายของความเป็นครอบครัวที่อบอุ่นอยู่ไม่น้อย เมื่อได้ก้าวเดินเข้ามาภายในบ้านยิ่งทำให้ฉันหวนคิดถึงครอบครัวของตัวเองที่ครั้งหนึ่งก็เคยอบอุ่นเช่นนี้ “มาแล้วเหรอลูก แม่เขากำลังทำมื้อเที่ยงเลย” ชายวัยกลางคนเดินออกมารับพร้อมกับเอ่ยทักทายพี่อุ่นใจทั้งยังมองฉันด้วยรอยยิ้มบาง ๆ เช่นเดียวกัน นั่นจึงทำให้ฉันรีบยกมือไหว้ท่านไปเมื่อเดาได้ว่าท่านอาจจะเป็นพ่อของพี่อุ่นใจ “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีลูก เข้ามาก่อน ๆ ฝนเหมือนจะตกเลยเดี๋ยวไม่สบายกันไปก่อน” เจ้าบ้านเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฉันไม่อยากจะคิดมากเลย หากได้ยินน้ำเสียงอบอุ่นแบบนี้แล้วตัวฉันไม่คิดถึงพ่อของตัวเอง “มาครับบลู” พี่อุ่นใจหันหน้ากลับมาบอกกับ ฉันจึงรีบเดินตามคนตัวสูงเข้าไปภายในบ้าน เมื่อเดินเข้ามาก็จะเจอกับโซนห้องนั่งเล่นที่มีรูปครอบครัวติดอยู่ ทุกคนในรูปนั้นหน้าตาดีกันมากและมีรอยยิ้มที่สดใสเหมือนกันหมด ดูสดใสและดูมีชีวิตชีวากันมากเลยทีเดียว ภายในห้องนั่งเล่นมุมหนึ่งมีดอกไม้สีสันสวยงามถูกจัดใส่แจกันทำให้ภายในห้องดูสดชื่นอยู่มาก ช่างเป็นการจัดแต่งที่ลงตัวเหลือเกิน “มาแล้วเหรอลูก” กระทั่งได้ยินเสียงหวาน ๆ ดังจากด้านหนึ่งเมื่อหันไปมองก็เจอกับผู้หญิงที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายกับพี่อุ่นใจ ฉันรีบยกมือไหว้ท่านด้วยความตกใจพร้อม ๆ กับท่านที่ยกมือรับไหว้จากฉันด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีค่ะ ไหนแนะนำให้แม่รู้จักสิคะ” คุณน้าผู้หญิงเอ่ยบอกพี่อุ่นใจทั้งยังแทนตัวเองว่าแม่อีก นั่นหมายความว่าทั้งคุณน้าผู้ชายและคุณน้าผู้หญิงสองคนนี้เป็นพ่อและแม่พี่อุ่นใจอย่างนั้นเหรอ? “บลูครับพี่พ่อกับแม่พี่เอง” “สวัสดีค่ะคุณน้า” ฉันยกมือไหว้ท่านทั้งสองอีกครั้งด้วยความประหม่า ตอนยังไม่รู้ว่าเป็นใครก็ไม่ประหม่าขนาดนี้หรอก แต่พอรู้แล้วทำไมถึงกลัวและกังวลแบบนี้ก็ไม่รู้ “พ่อครับ แม่ครับ นี่บลู น้องที่ผมเคยเล่าให้ฟัง” “แหม ทำเป็นเรียกน้องตัวเองก็อายุเท่าเขานี่” คุณน้าผู้ชายเอ่ยแซวพี่อุ่นใจ “ก็ชอบเรียกแบบนี้นี่นา” พี่อุ่นตอบผู้เป็นพ่อก่อนจะอุ้มต้นไม้ไปนอนที่โซฟาดี ๆ ตามด้วยคุณน้าผู้หญิงที่เดินถือผ้าห่มมาคลุมให้ต้นไม้อย่างเบา ๆ มือ ท่านมองต้นไม้แล้วลูบเรือนผมอย่างแผ่วเบาก่อนจะขยับออกห่างไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม “น้องบลูใช่ไหมลูก” “ใช่ค่ะคุณน้า” เอ่ยตอบคุณน้าผู้หญิงอีกครั้งเมื่อท่านเริ่มชวนคุย “เรียกแม่จี้ก็ได้ลูก ไหน ๆ พี่เขาก็พาเข้าบ้านแล้ว” “แม่ครับ อย่าแกล้งน้อง” พี่อุ่นปรามแม่ตัวเองน้ำเสียงเขินอาย แต่ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันเพิ่มเติมก็มีคุณป้าคนหนึ่งถือถาดเครื่องดื่มออกมาวางให้บนโต๊ะพร้อมกับของว่าง ตัวฉันเองก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณคุณป้ากลับไปเช่นเดียวกัน “อยู่กินมื้อเที่ยงกับแม่ก่อนล่ะ ดึก ๆ ค่อยกลับ ระหว่างนี้ให้พ่อส่งคนไปตรวจแถวคอนโดก่อน” “ครับแม่” “เอาละเด็ก ๆ นั่งพักกันไปก่อน แม่ไปดูกับข้าวก่อนนะ กินข้าวเสร็จค่อยมาคุยกัน” คุณน้าเดินห่างออกไป พร้อมกับสามีของท่าน ฉันถึงได้โอกาสขยับเข้าใกล้พี่อุ่นใจและกระซิบถามคนข้าง ๆ อย่างงอแงที่จู่ ๆ เขาก็พามาที่บ้านแบบนี้โดยที่ไม่ได้แจ้งอะไรฉันมาก่อนหน้านี้เลย “ทำไมพี่ไม่บอกว่าจะมาที่นี่ละคะ” “ก็มันฉุกเฉิน พ่อรู้เรื่องแล้วเลยอยากรู้รายละเอียดเผื่อช่วยได้” “แต่หนูตกใจ” “คนเก่ง ไม่ต้องกลัวหรอกนะ พ่อกับแม่พี่ใจดี” เขาก็พูดได้สินี่พ่อกับแม่เขานี่นา ฉันน่ะ ฉันเป็นคนนอกนะคะจะไม่ให้รู้สึกกลัวหรือเกรงใจเลยก็ไม่ได้เหมือนกัน “เอาข้อมือมาดูหน่อยครับ โดนพวกนั้นบีบข้อมือด้วยนี่ใช่ไหม?” พี่อุ่นถามมือข้างหนึ่งก็ยื่นมาจับมือฉันไว้เพื่อดูรอยแดงรอบๆ ข้อมือ “ข้อมือช้ำมากเลย พี่ไปถามแม่ก่อนว่ามียาอะไรที่ทาได้ไหม” พี่อุ่นบอกกับฉันเสียงเบาก่อนจะรีบเดินเข้าไปยังโซนห้องห้องหนึ่งที่คุณน้าทั้งสองเดินหายเข้าไปได้สักพัก เมื่อมีโอกาสได้นั่งเงียบ ๆ ฉันเองก็ลอบมองรอบ ๆ บ้านอย่างตื่นเต้น บ้านหลังนี้ทั้งสะอาดและเป็นระเบียบไหนจะมีกลิ่นหอม ๆ ลอยอบอวลอยู่ทั่วทั้งบ้านอีก กลิ่นหอมหวานยิ่งทำให้บรรยากาศสดชื่นและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน สายลมที่พัดผ่านเข้ามายังส่วนของห้องนั่งเล่นทำให้ภายในห้องนั้นเย็นสบาย ส่วนบริเวณนอกบ้านในตอนนี้เริ่มมีสายลมพัดแรงขึ้นพร้อมกับเม็ดฝนที่ตกลงมาโปรยปราย ประตูกระจกบานใหญ่ถูกเปิดรับลมและอากาศเย็น ๆ จากภายนอก บ้านหลังนี้เย็นสบายแม้จะไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศหรือพัดลม “กลัวยุงกัดหลาน...” แต่แล้วความคิดฉันก็ต้องสะดุดไปเมื่อพี่อุ่นใจเดินออกมาจากห้องนั้นแล้วเปิดพัดลมตัวหนึ่งที่เป็นรูปทรงวงรีสูง เมื่อกี้ยังคิดอยู่เลยว่าไม่ต้องเปิดพัดลมก็เย็นแต่กลายเป็นว่าพี่อุ่นใจนั้นช็อตฟิลความคิดฉันอย่างรุนแรงโดยการยกพัดลมออกมาเปิดเสียอย่างนั้น “หนาวไหม?” พี่อุ่นใจเดินมานั่งข้าง ๆ พร้อมกับจับมือฉันไปวางไว้บนตักตัวเองและเริ่มทายาอะไรบางอย่างลงบนข้อมือให้อย่างเบามือ “ไม่หนาวค่ะ” “ถ้าอยากได้อะไรบอกพี่เลยนะ หรืออยากนอนพักหน่อยไหมเมื่อคืนก็ไม่ค่อยได้นอน” “ไม่หรอกค่ะ ค่อยกลับไปนอนที่บ้าน เอ่อ ที่คอนโดพี่ค่ะ” รีบเปลี่ยนคำเมื่อเผลอพูดคำว่าบ้านออกมา แต่เหมือนพี่อุ่นใจจะชอบใจไม่น้อยเมื่อได้ยินฉันพูดคำว่าบ้าน เพราะเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาถึงได้หยุดมือแล้วเงยหน้ามองฉันเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่เรียกได้ว่าแทบจะไม่เคยเห็นเขายิ้มแบบนี้เลย ดวงตาที่แพรวพราวระยิบระยับแบบนั้นฉันก็ไม่เคยเจอ “บ้านก็ได้ พี่ชอบคำนี้” “ก็ไม่เหมาะนี่นา” รีบเถียงอีกฝ่ายกลับไปแผ่วเบา แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน “เหมาะที่สุดแล้ว ที่นั่นคือบ้าน...”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม