อุ่นใจรัก 5
หลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่ห้องพี่อุ่นใจได้สองวันก็เริ่มที่จะคุ้นเคย ต้นไม้เองก็เริ่มที่จะปกติแล้ว กินและตื่นเป็นเวลา แต่ยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ยกเว้นเพียงพี่อุ่นใจที่ยอมให้เข้าใกล้เฉพาะเวลาถือขวดนมให้ตอนที่ฉันยังไม่ว่าง
“บลู อยากกินข้าวต้มกุ้งทำให้กินหน่อยได้ไหม?”
คนที่นอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นเอ่ยบอกฉันเสียงงอแง เมื่อได้ยินเสียงฉันเดินออกจากห้องนอนพร้อมกับต้นไม้ที่ส่งเสียงร้องไม่มีความหมาย
“เอ่อ ได้ค่ะ”
“เอาหลานมาไว้กับพี่ก็ได้” พี่อุ่นใจบอกมาแบบนั้นพร้อมกับยกแขนรอรับต้นไม้ แต่พอเห็นว่าฉันอุ้มเข้าไปใกล้พี่อุ่นใจ หลานฉันก็รีบหันกลับมากอดคอฉันไว้แน่น ทำให้ต้องพาหลานไปนั่งบนเบาะนุ่ม ๆ ที่พื้นพาเล่นของเล่นแทนการให้พี่อุ่นใจอุ้ม ก็อย่างที่รู้กันว่าหลานชายฉันไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลยสักคน
“ฝากดูหน่อยนะคะ” เอ่ยบอกพี่อุ่นใจที่ขยับลุกนั่งบนโซฟาด้วยท่าทางมึน ๆ ผมเผ้าชี้ฟูไม่เป็นทรง อยู่มาสองสามวันฉันก็เริ่มที่จะรู้เวลาของอีกฝ่ายแล้วเช่นเดียวกัน เขาจะออกจากห้องช่วงสองทุ่มและกลับมาช่วงตีสี่หรือตีห้า กลับมาเขาจะอาบน้ำและออกมานอนที่โซฟาห้องรับแขก
ส่วนฉันกลับต้นไม้ไม่ได้นอนบนเตียงนอนของเจ้าของห้อง เราสองคนหาผ้าห่มมาปูนอนที่พื้นมุมด้านหนึ่งแทนเพราะเกรงใจไม่กล้าใช้เตียงนอนของพี่อุ่นใจ
“ได้ครับ”
ระหว่างที่ทำเตรียมมื้อเช้าก็ลอบมองหลานอยู่เรื่อย ๆ อย่างเป็นห่วงต้นไม้เองก็มองพี่อุ่นใจสลับกับเล่นของเล่นตัวเองไปเรื่อย เบะปากจะร้องไห้เป็นบางครั้งเมื่อพี่อุ่นใจชวนคุยชวนเล่น เพราะกลัวต้นไม้จะร้องไห้พี่อุ่นใจเลยพยายามไม่ชวนคุยแต่ก็ยังมองต้นไม้อยู่ตลอด ทำข้าวต้มเสร็จก็ทำอาหารสำหรับเด็กให้ต้นไม้ด้วยเลย เป็นอาหารเด็กอ่อนที่รบกวนพี่อุ่นใจซื้อของเข้ามาให้พร้อมกับนมของต้นไม้เมื่อวาน
“มื้อเช้าเสร็จแล้วค่ะ”
“ครับ” พี่อุ่นใจขานรับ
“เย็นนี้คิวมันมีเรื่องจะคุยด้วยนะ เดี๋ยวมันเข้ามา มันบอกเดี๋ยวซื้อของมาทำชาบูกินด้วยกัน”
“ค่ะพี่”
“วันนี้ช่วงกลางวันพี่จะออกไปหาน้องสาวนะ อยากได้อะไรเขียนมาไว้เลยเดี๋ยวพี่ซื้อเข้ามาให้” ระหว่างที่พี่อุ่นใจกินข้าวต้มอีกฝ่ายก็เอ่ยบอกฉันไปพลาง ส่วนฉันนั่งป้อนข้าวต้นไม้อยู่อย่างใจเย็น เมื่อหลานชายเอาแต่ชวนฉันเล่น บ้างก็หัวเราะคิกคักไม่หยุด
“เรื่องคนร้ายมีอะไรคืบหน้าไหมคะ...” บางทีฉันก็อยากจะพาหลานออกไปเดินเล่น ไปเล่นข้างนอกบ้าง อยากรู้ตัวคนร้ายแล้วเช่นเดียวกัน
“ยังเลยครับ แต่เมื่อวานตอนที่พี่ไปกดเงินให้เราน่ะจู่ ๆ ก็มีคนชุดดำเดินเข้ามาด้อม ๆ มอง ๆ รอบธนาคารด้วยนะ” พี่อุ่นใจเล่าให้ฉันฟัง ใบหน้าของอีกฝ่ายดูดุขึ้นกว่าเดิมเมื่อต้องเอ่ยถึงเรื่องคนร้าย
“พรุ่งนี้พี่จะลองกดอีกทีแล้วให้น้องชายช่วยสังเกต พี่คิดว่าพวกนั้นต้องติดตามรายการเดินบัญชีของเราแน่ ๆ”
“แล้วแบบนี้ หนูจะทำยังไงดีเหรอคะ” ฉันมองพี่อุ่นใจอย่างไม่สบายใจ เมื่อรับรู้ว่าตอนนี้การใช้ชีวิตของฉันมันไม่มีความปลอดภัยเลยสักนิด
“ถ้าพรุ่งนี้มันตามจากการกดเงินได้จริง ๆ ก็ใช้เงินพี่ไปก่อนไม่ต้องเครียด ยังไงพวกพี่ก็จะช่วยเราจับคนร้ายให้ได้”
“หนูเองก็อยากให้จับคนร้ายให้ได้...”
====
อย่างน้อยก็ยังดีที่น้องยังมีเพื่อนพี่ชายอยู่ข้าง ๆ ถ้าน้องต้องอยู่คนเดียวต้องแย่แน่เลย