“อ้าๆๆ ซี๊ดดดด” เสียงครางหวานแบบพยายามกลั้นดังเบาๆ ผ่านใบหน้าเด็กหนุ่มที่ซุกอยู่กับหมอน
คะน้าอยู่ในท่าคลานเข่าข้างเตียง ขาทั้งสองแทบชิดกัน บีบเค้นให้ลำเอ็นใหญ่เข้าออกตรงช่องหว่างขาได้ยาก
รูเล็กสีหวานยังถูกบดคลึงเบาๆ ด้วยนิ้วหัวแม่มือ ดุ้นเอ็นน้อยแข็งขืนของคะน้าเองก็ด้วย ที่ถูกมือของคุณเชมบดขยี้ส่วนปลาย เร่งให้น้ำรักถูกผลิตออกมาไม่หยุด
“อา…คุณเชม” คะน้าครางหอบ เชมเองก็ครางเสียวเช่นกัน ตัวตนของเขาที่ถูกขาเล็กอวบหนีบไว้ใกล้จะแตกพุ่งความรักออกมาอยู่แล้ว
สิบกว่าปีเลยนะที่เขาไม่ได้เอาใคร เขาจะให้คะน้าชดเชยทุกวันที่ผ่านมาของเขาด้วยน้ำสีขาวขุ่น
“ไม่ไหวแล้ว ๆ” เสียงคะน้าบ่นเพ้ออะไรอยู่คนเดียว ไม่ไหวที่จะทำต่อไป หรือไม่ไหวอะไร
“คุณเชมใส่เข้ามาให้ทีครับ”
“เจ็บอยู่ไม่ใช่หรือ”
“ใส่เข้ามาเถอะน่า”เด็กหนุ่มบอกพร้อมแยกขาออก เชมยังลังเล
“เร็วสิครับ ผมอยากได้มากกว่านี้” เด็กหนุ่มว่าพร้อมเอื้อมมือมาแบะก้นกลมออกให้ เชมจึงค่อยดันความเป็นชายใหญ่โตเข้าไป ก่อนจะปรนเปรอเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน
“พอแล้วจริงๆ นะครับ พรุ่งนี้ผมต้องไปเริ่มงานแล้ว” คะน้าบอกกับร่างสูงที่อ้อยอิ่งไม่กลับไปสักที
“จะไม่ใจดำกับฉันไปหน่อยหรือ จะให้ขาดกันอย่างสิ้นเชิงเลยหรือไง”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมก็ยังคงเคารพคุณเชมเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่เจอกันแบบส่วนตัวอย่างนี้แล้ว”
เชมไม่ได้ว่าอะไร เขาไม่เคยรับปากว่าจะปล่อยคะน้าไป เขารู้เขามันเห็นแก่ตัวที่ฉุดรั้งเด็กหนุ่มไว้ แต่มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ในเมื่อเขาก็รู้ว่าคะน้ารู้สึกกับเขาเช่นไร เขามีทุกอย่างที่คะน้าต้องการ เงินทองบ้าน รถ และความรักจากเขา แต่เจ้าตัวดีคงไม่บอกความจริงกับเขาเป็นแน่ เป็นเขาต้องหาสาเหตุและแก้ปัญหาตรงส่วนนั้นเอง
“ระหว่างนี้ หนูอย่ามีใครนะ”เชมขอแกมสั่ง คนที่เขาให้คอยแอบติดตามคะน้าคงกีดกันผู้ชายอื่นไม่ได้มาก
“ครับ” คะน้ายิ้มรับปาก ไม่คิดจะมีใครอยู่แล้ว ทั้งที่ใจพวกเขาตรงกัน คะน้าเสียดายจริงๆ ที่เขาเกิดช้าไป
ทางด้านคุณนวล
หญิงสาววัยกลางคนค่อยๆ เผาหลักฐานที่ไปตามสืบข้อมูลของเด็กหนุ่มคะน้ามา ความอ่อนเยาว์ของเขาทำให้เธอรู้สึกอิจฉาและเกลียดชัง ยิ่งคะน้ามีส่วนละม้ายคล้ายดนัยด้วยแล้ว ความเกลียดยิ่งเพิ่มทวีคูณ
ที่ผ่านมา นวลเจ็บช้ำใจ ที่อุตส่าห์กำจัดดนัยออกไปได้ แต่เชมยิ่งเหินห่างจากเธอ บางทีนวลก็รู้สึกว่าตนเองไม่น่าฆ่าดนัยเลย ไม่ใช่เพราะมันผิด แต่เพราะดนัยเป็นคนเดียวที่สั่งให้เชมทำอะไรก็ได้ แม้แต่มานอนกับเธอ
นวลทั้งเกลียดและต้องการการช่วยเหลือจากความพิเศษนั่น
ไม่มาหาด้วยความรัก แต่ยังมาหาก็ยังดี
หญิงสาววัย38ปีมองรูปถ่ายเด็กหนุ่มใบหน้าอ่อนเยาว์ใบสุดท้ายในมือ ค่อยๆ หย่อนมันลงที่เปลวไฟให้ติดไฟช้าๆ อย่างไม่รีบเร่ง
“ที่เอามัน เพราะให้เป็นตัวแทนไอ้นัยล่ะสิ” เธอเหยียดริมฝีปากปรามาส
“คุณมีธุระอะไร”เชมถามนวลโดยที่ไม่มองหน้า นวลมีส่วนของหน้าตาที่ละม้ายดนัยอยู่จากสายเลือด หากแต่ให้ความรู้สึกที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“คุณจำคำของตานัยได้ไหมคะ คำพูดสุดท้าย ว่าให้ดูแลนวล”นวลทวงคำ
“แล้วฉันทอดทิ้งเธอหรือ?”
“ค่ะ คุณทิ้งนวล ทิ้งมาเกือบ20ปี ไม่เคยทำหน้าที่สามีต่อนวลเลย แม้แต่ลูกคุณก็ไม่อาลัยอาวรณ์สักนิด กับคิดถึงแต่ไอ้นัย”
“พูดถึงนัยให้ดีด้วยนะนวล”
“หึ รักมากหรือคะ รักมาก แล้วทำไมนอกใจกันได้”นวลบอกด้วยท่าทีที่คิดว่าตนเองเหนือกว่า “19ปี นวลเชื่อใจคุณที่ไม่เคยนอกลู่นอกทาง แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นคะ ตบะแตกให้เด็กคราวหลาน หรือเพราะมันคล้ายตานัย”
เชมนั่งฟังให้นวลพูดไปเรื่อยๆ พลางยกถ้วยกระเบื้องสวยหรูขึ้นมาจิบของเหลวในนั้นอย่างไม่ยี่หระ
สำหรับเขานวลคือคนอื่น เป็นคนอื่นมาตลอด
“ผมรู้จักนัยดี ผมไม่ได้นอกใจเขา”
“แต่นอกใจนวล นวลที่ยังเป็นภรรยาคุณ”
“จะหย่าก็ได้ ผมจะให้ทรัพย์สินคุณครึ่งหนึ่งตามกฎหมาย”
“หึ นวลจะเอามาทำไมคะ ที่นวลต้องการคือคุณเชมต่างหาก นวลจะเป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะกักขังคุณไว้อย่างนี้ละ”
เชมถอนใจลุกขึ้นก่อนจะบอก
“คุณต่างหากที่ถูกขัง”ว่าจบเชมก็เดินขึ้นบ้านไป นวลยิ้มด้วยความเจ็บใจ ไม่มีอะไรจะใช้ขู่เขาได้เลย
หากตอนนี้มีไอ้นัยไว้เป็นเครื่องมือก็คงดี แล้วไอ้เด็กคะน้านั่น เธอจะใช้ประโยชน์จากมันได้ไหมนะ
พ่อมาส่งคะน้าที่ร้านสะดวกซื้อในตอนเช้าเพื่อเริ่มงาน
“น้าน่าจะเรียนต่อ เงินเก็บเราก็พอมีแล้ว ไม่เห็นตัวอย่างพ่อหรือไง เรียนน้อยก็ทำงานได้ไม่กี่อย่าง”
“น้าทำแค่ปีเดียวล่ะครับพ่อ เรียนหมอก็ใช้เงินเยอะอยู่นะ ไหนจะค้าหอค่าจิปาถะอย่างอื่นอีก”
พ่อส่ายหน้า บทเด็กดีอย่างคะน้าจะดื้อ ใครพูดก็ไม่ฟัง
“ใช่เหตุผลนี้หรือน้า” พ่อถามอย่างรู้ทัน นี่มันเหตุผลอ่อนมากที่คะน้าที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์จะสละสิทธิ์ในปีนี้
“กลัวคุณเชมออกค่าเรียนให้ครับ” คะน้าบอกเหตุผล เขาอาจจะปิดเรื่องสอบติดได้ แต่ถ้าได้เข้าเรียน ต้องปิดไม่ได้แน่ คะน้าเกรงใจคุณเชม และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ สรรชัยที่เป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกัน อยู่ลำดับตัวสำรองคนแรกพอดี ถ้าปีนี้คะน้าสละสิทธิ์ ก็เหมือนได้นกสองต่อ
“ไม่ต้องห่วงนะครับ น้าอยากช่วยพ่อเก็บตังค์ก่อนด้วย ปีหน้ารับปากพอเลยว่าสอบติดอีกแน่ๆ”เด็กหนุ่มยิ้มบอกอย่างมั่นใจ
“เอาเถอะ พ่อรอได้”พ่อคำนวณวันจบการศึกษาของลูกที่ถูกเลื่อนออกไปอีกปี กับของขวัญที่จะใหญ่ขึ้น
งานที่ร้านสะดวกซื้อนี้ไม่ยาก เพียงแต่เหนื่อยอยู่เหมือนกัน ที่ต้องคอยยกของ จัดเข้าชั้น แล้วมาประจำที่หน้าเครื่อง เด็กหนุ่มยุ่งเสียจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นอย่างที่กังวล
เผลอแป๊บเดียวก็หมดไปวันแล้ว คะน้าเตรียมตัวจะกลับ และเพิ่งได้มีเวลามองหน้าเพื่อนร่วมงานก็ตอนนี้
“กลับไงอะ”ปราบ เพื่อนพนักงานตัวสูงหุ่นบางที่อายุมากกว่าคะน้าแค่ไม่กี่ปียิ้มถาม
“พ่อมารับ” คะน้าบอก เพราะได้นัดกับพ่อเอาไว้เมื่อเช้านี้
“อ่าวหรอ ว่าจะชวนไปกินก๋วยเตี๋ยว”
“เอาไว้วันหลังแล้วกันครับ”
“โอเค วันหลังนะ ปราบยิ้มดีใจอย่างไม่เก็บอาการ คะน้ายิ้มเกรงใจตอบ คนโง่ที่สุดยังดูรู้เลยว่าปราบคิดอะไรกับเขา แต่คะน้าไม่คิดอยากมีใคร เขายังไม่ลืมความรู้สึกรักคุณเชม และอีกอย่าง ก็ไม่อยากมีใครให้วุ่นวายด้วย
“งั้นผมไปนะ”คะน้าบอกลาหวังตัดบท แต่ปราบที่เลิกงานพร้อมกันเดินตามเขาออกมาด้วย
“คุณเชม!!” คะน้าตกใจเมื่อมีรถหรูจอดรออยู่หน้าร้านพร้อมชายร่างสูงหุ่นนายแบบยืนกอดอกด้วยหน้าตึงๆ รออยู่
คะน้ารู้ทันทีว่าคุณเชมต้องหาเรื่องมารับเขาแทนพ่อแน่ๆ
“พ พ่อหรือ” ปราบถามคะน้าอย่างตกใจ เพราะเชมดูจะหนุ่มเกินไปที่จะเป็นพ่อ
“อือ พ่ออีกคน”คะน้าว่าประชดเชม ก่อนจะเดินขึ้นรถไปแต่โดยดี