หลังจากที่ทานข้าวเสร็จทั้งสองคนก็นั่งดูหนังด้วยกันตรงโซฟา ภาดาหยิบขนมกินไปพลางๆในระหว่างที่กีต้าร์กำลังคุยโทรศัพท์กับสาวๆของเขา
“พี่ไม่ได้กลับหรอกต้องฝึกงาน คงกลับทีเดียวตอนฝึกเสร็จพอดีแหละ”
หญิงสาวเบะปากใส่อย่างหมั่นไส้ อยากจะคุยกับใครทำไมไม่กลับไปคุยที่ห้องโน่นจะมาคุยทำไมต่อหน้าเธอตรงนี้ก็ไม่รู้
“จะมาหาเหรอ… อืม….)
“อย่าให้เห็นนะว่าพามานอนที่นี่ ที่นี่โรงแรมไม่ใช่ม่านรูด ไม่งั้นฉันจะฟ้องแม่นาย”
ภาดาได้ยินแบบนั้นก็หันขวับไปมองชายหนุ่มก่อนจะมองตาขวาง เขากระแอมออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
“พี่ไม่ว่างนะสิงานยุ่งมากเลย เอาไว้คุยกันเนาะพี่วางก่อนนะ”
(เดี๋ยวสิคะพี่กีต้าร์ พะ… ตู้ดๆๆๆ)
เขากดตัดสายทันทีก่อนจะวางโทรศัพท์ลงแล้วรัดคอหญิงสาวดึงเข้ามาใกล้ เธอนี้มันมารขัดความสุขของเขาจริงๆเลย อะไรนิดหน่อยก็ไม่ทำหูทวนลมเก็บมาด่าเขาทุกดอก
“เธอนี่มันยังไงเพื่อนหรือเมียวะแม่ง หวงไง”
“แหวะหล่อตายแหละทำไมต้องหวง คนอย่างฉันสวยๆแบบนี้ไม่แลคนอย่างนายหรอกยะอย่ามโน”
ภาดาบ่นออกมาก่อนจะพยายามดึงมือของเขาออกแต่ว่าชายหนุ่มแรงเยอะเหลือเกินไม่ยอมปล่อยเธอง่ายๆ
“ปล่อยนะ”
“ระวังนะเค้าบอกเกลียดยังไงได้อย่างนั้น ถ้าวันหนึ่งมาแอบรักฉันขึ้นมาจะกลืนน้ำลายตัวเองนะ”
“นายก็ห้ามแอบรักฉันล่ะ ระวังกลืนน้ำลายตัวเอง”
ภาดายื่นมือไปจิ้มหน้าผากของเขาอย่างแรง ชายหนุ่มเอื้อมตัวหลบก่อนจะผลักเธอคืนเช่นกัน
“ปากดีนักนะยัยพาเจ๊ง”
“ไอ้เฮงซวย ออกไปได้แล้วไป๊อยากจะไปคุยกับสาวๆของนายคนไหนก็ไปฉันรำคาญอย่ามาคุยตรงนี้”
“อิจฉาคนอื่นล่ะสิ ทำไมไม่หาสักคนล่ะจะได้ลดความอิจฉาคนอื่นไปบ้าง”
เขาลุกขึ้นก่อนจะหันไปหัวเราะใส่หญิงสาวอย่างล้อเลียน เธอยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยก่อนจะจีบปากจีบคอพูด
“นายนี่ความคิดดีนะเนี่ย จริงๆมาฝึกงานที่นี่ก็มีผู้ชายมาจีบนะ หรือว่าฉันจะลองเปิดใจดู”
“ใคร… ใครมาจีบเธอ”
เขานิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามอย่างจับผิด ภาดายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดเปิดข้อความแล้วยื่นไปให้เขาดู
‘กินยาพักผ่อนด้วยนะครับ ไหวเมื่อไหร่ค่อยมาทางนี้พี่จัดการเองไม่ต้องห่วงนะ มีอะไรโทรหาพี่ได้เลยนะครับพี่จะรีบไปหา’
กีต้าร์กดดูรูปโปรไฟล์คนที่ส่งข้อความมาหาหญิงสาวซึ่งก็คือผู้จัดการแผนกของเธอนั่นเอง แหม่! เสน่ห์แรงจริงๆนะมาทำงานได้ไม่กี่วันมีผู้ชายมาแสดงความเป็นห่วงจนออกนอกหน้าแล้ว
“ใครอ่ะ ผู้จัดการแผนกเธอเหรอไง”
“อือหือ นี่ไม่ได้ให้เบอร์หรืออะไรที่ติดต่อได้ไว้เลยนะ แต่คงไปเอามาจากข้อมูลที่ใช้สมัครงานแหละ หน้าตาดีกรีระดับดาวมหาลัย นายคิดว่าฉันจะหาคนคุยยากขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่จ้ะ…ที่ไม่หาเพราะไม่อยากคุยกับใครแต่นายพูดมาขนาดนี้แล้วอ่ะฉันต้องมีแล้วแหละ จะได้ไม่มีใครมองว่าฉันขี้อิจฉา”
ภาดาลอยหน้าลอยตาตอบเขาก่อนจะพยายามลุกขึ้นไปนอนพักผ่อนในห้องนอน กีต้าร์สูดผมหายใจเข้าลึกๆพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองก่อนจะเดินไปอุ้มหญิงสาวแล้วพาไปนอนลงบนเตียงนอน
“โอ๊ย ไอ้บ้ามันเจ็บนะเว้ย”
“สมน้ำหน้าผู้หญิงแรด เอาคีย์การ์ดมามีอะไรจะได้มาหา เดินลำบากแบบนี้ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วใครจะมาช่วย”
เขายื่นมือไปขอคีย์การ์ดจากหญิงสาวด้วยใบหน้างอง้ำ ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรทำไมถึงรู้สึกโกรธหญิงตรงหน้าก็ไม่รู้ ภาดาหยิบคีย์การ์ดปาใส่ตัวเขาก่อนจะนอนหันหลังให้ชายหนุ่มด้วยท่าทางติดงอน
“เหอะ!”
เขาสบถออกมาก่อนเดินออกไปจากห้องของหญิงสาวทันที ภาดาหันไปมองตามเขาก่อนจะปาหมอนตามหลังไปอย่างอารมณ์เสีย
“ไอ้บ้าเอ๊ยเอาแต่ใจตัวเองชะมัด”
“เธอนั่นแหละเอาแต่ใจตัวเอง”
เขาที่เปิดประตูได้ยินที่เธอตะโกนไล่หลังก็สวนกลับไปทันที ภาดาร้องกรี๊ดออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะนอนนิ่งพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ไอ้บ้ากีต้าร์ ไอ้ผู้ชายเฮงซวย”
กีต้าร์กลับมาที่ห้องนอนของตัวเองด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาพ่นลมหายใจออกมาช้าๆก่อนจะเข้าไปอาบน้ำให้สบายตัวจากนั้นก็มานอนหลับบนเตียงพยายามไม่คิดเรื่องไร้สาระก่อนจะเผลอหลับไป
เวลาตีสองกว่าชายหนุ่มสะดุ้งตื่นมาเข้าห้องน้ำทำธุระเสร็จก็นึกถึงภาดาไม่รู้ว่าจะไปเข้าห้องน้ำด้วยตัวเองได้รึเปล่า เขาหยิบคีย์การ์ดบองเธอติดมือมาด้วยก่อนจะเปิดเข้าไปแล้วเคาะประตูห้องนอนเรียกหญิงสาว
“ภาดาหลับอยู่มั้ย”
“ใครอ่ะกีต้าร์เหรอ”
“อืม เข้าไปได้มั้ย”
“อืม”
เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ หญิงสาวตอบรับอนุญาตให้เขาเข้ามาข้างใน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปเจอเธอนั่งอยู่บนเตียงไม่ได้นอนอย่างที่คิด
“ทำไมไม่นอน”
“นอนไม่ได้อ่ะปวดสะโพก อยากเข้าห้องน้ำด้วยแต่ว่าลุกลำบาก”
“ไม่โทรมาหาล่ะ”
เขาบ่นออกมาก่อนจะอุ้มหญิงสาวพาไปส่งในห้องน้ำ จากนั้นก็เดินออกมารอข้างนอกปล่อยให้เธอทำธุระส่วนตัวจนเสร็จจากนั้นก็ค่อยไปอุ้มออกมาอีกรอบ และสักพักใหญ่เธอก็เรียกให้เขาเข้าไปหา กีต้าร์อุ้มหญิงสาวมาวางลงบนเตียงนอนก่อนจะมองสบตากับเธอ
“ไปหาหมอมั้ย”
“ไม่เอาอ่ะนอนนิ่งๆเดี๋ยวก็คงหาย แอร์มันเย็นอ่ะก็เลยปวดตัว”
“คิดไปเองเปล่า”
เขาหันไปปรับอุณหภูมิในห้องให้สบายขึ้นก่อนจะมานั่งลงข้างหญิงสาวที่ตอนนี้ใบหน้าบึ้งบูดไม่รู้ว่าโกรธอะไรเขาอีก
“เป็นไรอีกละหน้าบึ้งเชียว”
“เพราะนายนั่นแหละทำให้ฉันอารมณ์เสีย นี่แน่น่าหมั่นไส้”
หญิงสาวยื่นมือไปทุบหน้าอกเขาหลายทีก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเหมือนได้ระบายบางอย่างภายในใจออกมา
“ฮ้า! อารมณ์ดีละ”
“เหอะ! เครื่องระบายอารมณ์ของเธอเหรอไง”
“ก็เออนะสิ ชอบพูดจาไม่เข้าหูก็ต้องโดนแบบนี้แหละ เอาหมอนวางให้หน่อยจะนอนแล้ว”
ได้ทีเธอก็ใช้เขาใหญ่ กีต้าร์ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะจัดที่นอนให้เธอใหม่จากนั้นก็ให้เธอล้มตัวลงนอนจัดท่าให้สบายตัวขึ้น เขาตัดสินใจนอนอยู่กับเธอเนี่ยแหละเพราะดูสภาพแล้วน่าจะช่วยเหลือตัวเองลำบากมาก
“มานอนทำไมที่นี่เล่า”
“เออนอนด้วยที่นี่แหละ นี่ถ้าไม่รับปากแม่หนูเล็กว่าจะช่วยดูแลเธอนะฉันทิ้งให้นอนติดเตียงไปแล้ว อย่าพูดมากฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกแม่อกไข่ดาว”
“กรี๊ดดดดด ไอ้บ้าไอ้เฮงซวย บูลลี่เก่งนักนะเดี๋ยวฉันจะไปทำแบบตูมๆไปเลย คราวนี้นายจะมาด่าฉันไม่ได้แล้วนะ”
ภาดายื่นมืิอไปขย้ำผมของเขาอย่างแรงจนชายหนุ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด ทำไมเธอถึงชอบใช้ความรุนแรงจังเลยนะ
“โอ๊ยยย เจ็บอ่ะ”
“สมน้ำหน้าปากมอมแบบนี้มันควรโดนมากกว่านี้ด้วยซ้ำ”
“แค่จะบอกว่าอกไข่ดาวก็น่ารักดี ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงอกตูมซะหน่อย”
เขาเอ่ยออกมาไม่จริงจังนักแต่คำพูดของเขาดูเหมือนจะทำให้หญิงสาวดูอ่อนลง แล้วก็ไม่บอกแต่แรกก็นึกว่ามาบูลลี่เธอนี่
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนายมันปากไม่ดี”
“พูดจริง ฉันเคยพูดเหรอว่าชอบ เธอเคยได้ยินเหรอไง”
เขาเท้าคางมองหน้าเธออย่างต้องการคำตอบ หญิงสาวเบือนหน้าหนีไปทางอื่นไม่ยอมตอบเพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยได้ยินเขาพูดเหมือนกัน
“ชิ… ทำเป็นไม่ได้ยิน”
“พูดมากจะนอนมั้ย ไม่นอนก็ไสหัวไป”
“นอนสิ เฮ้อฉันเนี่ยทำบุญคนไม่ขึ้นจริงๆ ชีวิตอาภัพฉิบหาย…”
เขาตัดพ้อออกมาก่อนจะปิดไฟแล้วมานอนลงข้างหญิงสาว ภาดาดันตัวเขาให้ออกห่างก่อนจะเอาหมอนข้างมากั้นไว้
“อย่าข้ามเขตมานะไม่งั้นโดนถีบแน่”
“จ้า… ไม่ไปหรอกสบายใจได้”