หลังจากที่แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองภาดาก็นั่งเท้าคางมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ในหัวก็คิดไปถึงเรื่องที่เธอตัดสินใจจะไปทานข้าวกับผู้จัดการในวันนี้ หรือว่าเธอตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบทั้งที่ปกติเธอจะไม่ไปไหนมาไหนกับใครถ้าไม่สนิทมากพอ
“หรือว่าควรจะยกเลิกนัดดี”
หญิงสาวนั่งคิดไม่ตกแถมชายหนุ่มยังไม่สนใจเธอเลยถ้าเป็นเขาทำแบบนี้เธอฟ้องแม่ไปแล้ว หรือว่าเธอมาคิดเยอะคิดมากเองคนเดียวส่วนเขาไม่ได้ติดอะไรทั้งนั้น แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเองล่ะ โดยปกติไม่เป็นมากขนาดนี้เลย
“โอ๊ยยยยย เครียด”
เธอรู้สึกหงุดหงิดตัวเองก็วันนี้แหละ เอาความคาดหวังไปลงกับกีต้าร์ซึ่งรายนั้นไม่ได้สนใจเธออยู่แล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงดิ้นรนมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นเธอตัดสินใจได้แล้วว่าจะเดินหน้าต่อแล้วลืมความรู้สึกแปลกๆพวกนี้
ทางด้านของกีต้าร์เขาตั้งใจทำงานตรงหน้าอย่างเต็มที่ถึงแม้ว่าในใจกำลังกังวนกับอะไรบางอย่างที่มันรบกวนหัวใจของเขามาตลอดหลายวันมานี้ ตอนแรกมันก็ไม่คิดอะไรเพราะว่าไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกันมาหขนาดนี้ แต่พอมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นมันทำให้เขารู้สึกแปลกไป
“เดี๋ยวไปเอาของให้เชฟหน่อยนะกีต้าร์”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมไปเอาให้”
เขาหันไปสนใจงานตรงหน้าต่อแล้วเลิกคิดเรื่องอย่างอื่นที่นอกเหนือจากงานไปก่อน ส่วนหลังจากเลิกงานเขาค่อยจัดการอีกที
และเมื่อถึงเวลาเลิกงานภาดาก็ขึ้นรถไปกับผู้จัดการเขาพาเธอไปดื่มกาแฟก่อนจะแวะไปหาของอร่อยกินต่อ
“น้องภาดากินอะไรดีครับ”
“อเมริกาโนเย็นก็ได้ค่ะ”
“โอเคนั่งรอตรงนี้แหละเดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้ ถ่ายรูปเล่นไปก่อนก็ได้”
เขายิ้มออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มากดเล่นไปพลางๆในระหว่างที่รอเขาไปซื้อกาแฟมาให้ ไปทานข้าววันนี้เธอคงจะไปร้านธรรมดาเพราะคิดว่าเขาคงจะเลี้ยงและเธอไม่อยากเอาเปรียบถ้าช่วยหารไม่ได้ก็เลือกกินที่ราคาไม่แพงก็พอ
ส่วนกีต้าร์เขาขับรถกลับมาที่โรงแรมด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆทั้งที่ภายในใจรู้สึกร้อนรนแปลกๆ ที่เขารู้มาคือภาดาไปกับผู้จัดการเรียบร้อยแล้ว บอกตามตรงว่าไม่ชอบมากที่เธอไปกับผู้ชายคนอื่นไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหนแต่ตอนนี้เขารู้สึก ‘หวง’ และเมื่อเขามาถึงที่โรงแรมก็เดินเข้าไปในห้องพัก เปลี่ยนใส่ชุดคลุมเตรียมอาบน้ำก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาภาดาและไม่นานเธอก็กดรับสาย
“โทรมาทำไม่มาทราบ”
พอรับสายก็ปากเก่งใส่เขาเลย และคงคิดว่าเขาจะง้อล่ะสิไม่มีทางหรอกเขาจะไม่ง้อให้เธอได้ใจเด็ดขาด
(เปล่าหรอกแค่จะโทรมาถามว่าไปเดทกับผู้จัดการวันนี้จะกลับห้องรึเปล่า)
“กลับสิยะถามได้ ฉันแค่มาทานข้าวเฉยๆไม่ได้มั่วเหมือนนายที่จะไปค้างห้องผู้หญิง อย่ามาเปรียบเทียบกับฉัน”
(งั้นเหรอ…)
เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ภาดารู้สึกแปลกใจที่เขาโทรมาถามแบบนี้แสดงว่าต้องคิดที่จะทำอะไรแน่นอนถึงพูดแบบนั้น
“คิดจะทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงพูดแบบนี้”
(ก็ไม่มีอะไรมากนึกว่าเธอจะไม่กลับห้องพัก ว่าจะชวนพี่โดนัทมาเดทที่ห้องนะ เธอคงไม่ว่าอะไรนะ)
“กรี๊ดดดด นายจะพาผู้หญิงเข้ามามั่วในโรงแรมของฉันไม่ได้นะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องแม่นาย”
ภาดาดูร้อนรนมากจนกีต้าร์ที่อยู่ปลายสายรู้สึกได้และก็เป็นแผนของเขาเองที่ตั้งใจยั่วโมโหเธอแบบนั้นเพื่อดึงให้เธอกลับมาที่โรงแรมในตอนนี้
(ฟ้องเลยสิ คราวนี้แม่ฉันจับแต่งงานแน่ ได้พี่โดนัทเป็นเมียก็ไม่ติดนะเธอว่าพี่เค้าเป็นคนนิสัยดีมั้ย)
“ไอ้บ้า! นายอยากจะมีเรื่องกับฉันใช่มั้ย”
(เธอจะสนใจทำไมอ่ะไปเดทกับผู้จัดการแล้วไม่ใช่เหรอ เธอก็ไปมีความสุขทำไมไม่ปล่อยให้ฉันหาความสุขให้ตัวเองบ้างอ่ะ)
“ความสุขด้วยการพาผู้หญิงมานอนที่ห้องเนี่ยนะ นายมันไอ้คนเจ้าชู้ เลวมาก พ่อแม่ผิดหวังในตัวของนายแน่นอน”
ภาดาตะโกนด่าใส่เขาเป็นชุดทำไมถึงรู้สึกไม่ชอบและหงุดหงิดมากก็ไม่รู้ และนั่นทำให้กีต้าร์รู้สึกว่าเขามาถูกทางแล้ว เพราะฉะนั้นไม่อยากพูดอะไรมากล่ะตัดบทไปเลยจบๆ
(ไม่อยากให้พาผู้หญิงมาเหรอ ทำไมอ่ะหวงเหรอ)
“อี้ ใครจะไปหวงนายไอ้คนหลงตัวเอง”
(งั้นก็ตามนั้น ฉันวางก่อนจะโทรไปหาพี่โดนัทไหนจะต้องโทรไปสั่งเมนูหรูๆที่ห้องอาหารอีก กำลังคิดว่าเอาแบบบรรยากาศใต้แสงเทียนน่าจะโรแมนติกมากน่าดู)
เขาเอ่ยออกมาเสียงสดใสพูดยั่วโมโหคนปากแข็งมันก็สนุกดีไปอีกแบบ ยิ่งเธอดิ้นไปมาแบบนี้เขายิ่งชอบใจใหญ่
“นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ที่นี่โรงแรมไม่ใช่ซ่องยะ”
(อะไรก็ไม่ได้เธอนี่มันยังไงกัน ถ้าไม่ให้ฉันพาผู้หญิงมางั้นเธอก็มาหาสิ ให้เวลาครึ่งชั่วโมงถ้าไม่มาหาถือว่าฉันไม่ฟังที่เธอพูดแล้วนะ แค่นี้แหละ)
เขากดวางสายก่อนจะโทรไปสั่งของอร่อยที่ห้องอาหารให้มาจัดโต๊ะให้เขาหน่อย เอาแบบที่พูดไว้เมื่อกี้เลยเพราถ้าภายในครึ่งชั่วโมงภาดาไม่มาที่นี่เขาอย่างที่พูดไว้แน่นอน
หญิงสาวกำโทรศัพท์แน่นอย่างคิดหนัก ทำไมเธอถึงรู้สึกแปลกกับตัวเองมากขนาดนี้ เธอหวงเขาเหรอ… หรือว่าเธอรู้สึกอะไรทำไมเมื่อก่อนถึงไม่รู้สึกอะไรเฉยๆด้วยซ้ำแล้วตอนนี้ทำไมถึง….
“อเมริกาโนเย็นของน้องภาดาครับ ไปกันเลยมั้ยเราหิวหรือยัง”
เธอมองหน้าผู้จัดการอย่างลังเล ใจเธอตอนนี้อยู่ที่โรงแรมแล้วมันไม่ได้อยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรก และเธอจะต้องไปหาคำตอบเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ ว่ามันคืออะไรกันแน่…
“มีอะไรรึเปล่าหน้าเครียดเชียว”
“คือหนูมีธุระด่วนเลยค่ะ พ่อกับแม่มาหาคงไปกับผู้จัดการไม่ได้แล้วค่ะ”
เธอหาเรื่องมาแถแก้ตัวเพื่อจะต้องไม่ไปกับเขาในวันนี้ และที่คิดได้เรื่องเดียวก็คือเรื่องนี้แหละ
“อ้าวเหรอ… ยังไงดีไปหาพ่อกับแม่ก่อนมั้ย รับมาทานข้าวด้วยกันหรือว่าค่อยไปวันหลัง”
“วันหลังก็ได้ค่ะพอดีว่าต้องไปทำธุระต่อ ถ้าผู้จัดการไปด้วยเกรงว่าจะรอนาน”
เขาเงียบไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา ถ้าเธอติดธุระก็ไม่เป็นไรค่อยไปวันอื่นก็ได้เขารอได้อยู่แล้ว
“งั้นก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่พักแล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ”
เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะรีบไปขึ้นรถแล้วให้ผู้จัดการพาไปส่งที่โรงแรมของเธอ และเมื่อมาถึงเขาก็นิ่วหน้าเล็กน้อยอย่างแปลกใจ เธอนัดครอบครัวที่โรมแรมเหรอทำไมถึงมาที่นี่
“ให้พี่ส่งที่นี่เหรอ พ่อกับแม่จองที่นี่ไว้เหรอ”
“เปล่าค่ะหนูพักที่นี่ งั้นขอตัวก่อนนะคะเจอกันพรุ่งนี้ค่ะสวัสดีค่ะ”
ภาดาหลุดปากออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอรีบจนไม่ได้กลั่นกรองคำพูดออกมาเพราะใจกังวลมัวแต่จะไปจัดการกีต้าร์ที่ห้อง บังอาจมายั่วโมโหเธอแถมมาต่อรองด้วยมันต้องเจอดีแน่!
“ครับ สวัสดีครับ”
เขาปล่อยให้หญิงสาวลงไปมองตามเธอวิ่งเข้าไปในล็อบบี้และที่แปลกคือตั้งแต่รปภและพนักงานทำความสะอาดยกมือไหว้ทักทายเธอกันทุกคน
“พักที่นี่เหรอ… โรงแรมนี้แพงมากเลยนะนักศึกษาฝึกงานเช่าโรงแรมอยู่เป็นเดือนต้องมีเงินขนาดไหนกัน…”
เขาเก็บความสงสัยเอาไว้และจะลองสืบดูเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ เพราะจากที่ดูก็เป็นเด็กธรรมดานั่งรถไปทำงานไม่มีอะไรพิเศษ แต่ความรู้สึกของเขามันบอกว่าเธอพิเศษกว่าคนทั่วไป…
‘และเขาต้องรู้ให้ได้ว่าเธอเป็นใคร’