ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย รู้สึกไม่ถูกใจกับคำเรียกตนแสนห่างเหินของคนตัวเล็กสักเท่าไหร่
“เรียกพี่ใหญ่สิ ตอนเด็ก ๆ เราก็เคยเรียกพี่อย่างนี้”
นัยน์ตาสวยช้อนมอง ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนตรงหน้าจะรู้จักการเรียกร้อง ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องเล็กน้อย จริงอยู่ที่เธอเคยเรียกเขาว่าพี่เมื่อครั้งยังเด็กมาก แต่นั่นมันก็เรื่องเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
บางทีถ้าเธอเรียกเขาเหมือนเดิม เขาอาจจะยอมปล่อยเธอไปในคืนนี้ก็ได้
“พี่ใหญ่... ปล่อยแพรก่อนได้ไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยขออย่างออดอ้อน ทำตาเป็นประกายเหมือนเด็กกำลังอ้อนอย่างได้ของเล่น เพราะคิดไปเองว่าน่าจะได้ผล แต่กลายเป็นว่าเธอคิดผิดเมื่อแขนแกร่งกอดตัวเธอแน่นขึ้น จนขาของเธอเผลอไปโดนอะไรบางอย่างที่กำลังดุนดันอยู่ที่ต้นขาของเธอ ถึงจะเป็นสัมผัสที่มีอาภรณ์กั้นผ่าน เธอก็พอจะรู้ได้ว่ามันคืออะไร เธอไม่ใช่เด็กประถมที่ยังไม่เคยเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา!
“ถ้าปล่อยเราก็หนีน่ะสิ” จักรภัทรเอ่ยอย่างรู้ทัน จะว่าไปเขาก็ห่างจากเรื่องพวกนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่โหมงานหนักจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ขนาดมีหญิงสาวสวยเย้ายวนเชิญชวนเพียงใด ไฟในกายก็ไม่ได้ติดขึ้นมาอย่างง่ายดายเช่นตอนนี้ อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้ใครมาผูกมัดกระมัง จึงหลีกเลี่ยงด้วยการไม่มีความสัมพันธ์เกินเลยกับหญิงสาวที่ไม่ใช่คนรัก จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีข่าวว่าเขากลายเป็นพวกชื่นชอบไม้ป่าเดียวกัน และนั่นยิ่งทำให้พ่อและแม่ของเขาเร่งรัดเรื่องการแต่งงานกับลูกสาวบ้านอัศวพาณิชให้เร็วขึ้น เมื่อเขาเห็นถึงช่องทางด้านธุรกิจจึงได้ตอบตกลงโดยง่าย แต่กลายเป็นว่าคู่หมายที่เป็นลูกสาวคนโตอย่าง พรรณรายกลับหนีไปเสียแล้ว การแต่งงานจึงไปตกที่พริมพริสาที่เป็นลูกสาวคนเล็กแทน
ถึงแม้ว่าอดีตจะเคยมองเหมือนน้องสาว ทว่าตอนนี้คือเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เขาจะทำหน้าที่ของสามี...
“พี่ใหญ่ แพรยังไม่พร้อม...” เธอพยายามเกลี้ยกล่อมอีกครั้งด้วยเสียงหวานใสหยดย้อย โดยหารู้ไม่ว่าจะยิ่งเป็นการกระตุ้นความเป็นนักล่าในตัวเขา
มือเรียวยาวลูบไล้เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างอ้อยอิ่ง พร้อมกับค่อย ๆ ลากผ่านพวงแก้มเนียนใสซับสีชมพู จนถึงริมฝีปากแดงสดจิ้มลิ้มราวกับลูกเชอร์รี่ พร้อมกับเชยคางขึ้นเพื่อมองหน้าชัด ๆ ถึงห้องจะมืดกลับมีแสงไฟสลัวจากโคมไฟบนหัวเตียง ทำให้เห็นใบหน้าขาวนวลเนียนเกลี้ยงเกลา ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่กำลังโต จะทำให้เขารู้สึกต้องการมากมายแบบนี้ได้ ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง แต่กลับมีความรู้สึกอยากจะครอบครอง
“ไม่ต้องกลัว”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเธอถูกพลิกให้นอนหงายพร้อมกับร่างใหญ่ที่โถมตัวเข้ามา แต่ก็ไม่ได้โถมทับเข้ามาทั้งหมดเพราะกลัวว่าเธอจะเจ็บ ริมฝีปากหยักบางเฉียบประทับลงบนริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มอย่างแผ่วเบา ราวกับต้องการบอกให้เธอได้รับรู้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรที่รุนแรงจนเธอต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอน พริมพริสาเม้มริมฝีปากแน่นเพราะยังไม่เคยชินกับสัมผัสจากคนตรงหน้า ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตของเธอจะต้องมาอยู่ในช่วงเวลาที่วิกฤตเช่นนี้ตั้งแต่คืนแรก ความรู้สึกซาบซ่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกำลังโลดแล่นอยู่ในอก ราวกับมีกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านทุก ๆ ครั้งที่เขาพยายามคลายริมฝีปากที่เม้มแน่นของเธอออก เปลือกตาบางค่อย ๆ ปิดลงเพราะความรู้สึกแปลกใหม่ที่กำลังได้รับอยู่นั้น กำลังทำให้เธอผ่อนคลาย ร่างกายที่เคยเกร็งก็ค่อย ๆ ผ่อนลง รวมถึงริมฝีปากจิ้มลิ้มที่ค่อย ๆ ตอบสนองอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ช่วยไม่ได้ในเมื่อตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกใครจูบมาก่อน
แม้จะเป็นการตอบสนองเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนตัวเล็กใต้ร่าง แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้เขาหัวใจพองโตขึ้นมามากแล้ว เขาพยายามอย่างหนักที่จะไม่จู่โจมด้วยความรวดเร็วหรือรุนแรงเกินไปเพื่อให้สาวเจ้าไม่ตื่นตกใจไปก่อน
“อ้าปากสิ” เสียงทุ้มพึมพำคล้ายจะออกคำสั่ง พร้อมปล่อยลมหายใจอุ่นร้อนประสานกัน
คนกำลังเคลิ้มอย่างพริมพริสา เด็กสาวผู้ไม่ประสีประสาแถมยังถูกชักนำได้ง่ายในสิ่งที่ไม่เคย ทำตามอย่างเก้ ๆ กัง ๆ และทันทีที่เธอเปิดริมฝีปากออก ใบหน้าสวยต้องตื่นตกใจอีกครั้งเมื่อได้รับรู้ถึงความรู้สึกแปลกใหม่ จนรู้สึกเวียนหัวราวกับกำลังดื่มของมึนเมา เรียวลิ้นอุ่นร้อนถูกส่งเบียดเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเกี่ยวลิ้นเล็ก ๆ ของเธอที่พยายามหลบเลี่ยงไม่ให้สัมผัส แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ พยายามไล่ต้อนเธอไปเรื่อย ๆ ราวกับนักล่ากล้ามใหญ่ที่พยายามไล่ต้อนเหยื่อตัวเล็กให้จนมุม และสุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ เธอก็กำลังจนมุมจริง ๆ
“อืมมม...” พริมพริสาครางแผ่วเบาในลำคอหลังจากที่ต้องยอมแพ้ต่อการรุกไล่ของผู้ล่ามากประสบการณ์ เธอรู้สึกเหมือนถูกวางยาจากกลิ่นไวน์รสเลิศจนวิงเวียนไปหมด การจูบของเขาทำให้เธอตัวอ่อนไร้เรี่ยวแรงก็จริง เพราะเพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้ และเมื่อพอจะจับทางได้ตามประสาเด็กน้อยแรกเริ่มเรียนรู้ จึงไม่แปลกที่เธอจะเลียนแบบผู้สอนบ้างในบางครั้ง