ตัวละครในเรื่อง
ฟ่านอวี้เหยา ลูกสาวของหมอหลวง มีความรู้ด้านการใช้
สมุนไพรและปรุงอาหารเพื่อช่วยแก้พิษ
และรักษาโรคร้าย เสียชีวิตระหว่างทางไปเรือน
นอกของสกุลเซียว และดาราสาวนางร้ายจากโลก
ปัจจุบันไปสวมร่าง
ปู้หว่านถิง แม่ทัพปู้ แม่ทัพฝ่ายเหนือ (ตงเป่ย)
กองอาชาเหินหาว ฮูหยินของเขา(หลิ่วฉู่หลิน)
จากไปเพราะปกป้องคนในสกุล และมีความแค้นต่อ
บิดาฟ่านอวี้เหยา (หมอหลวง)
เซียวเจี้ยนอี้ ชายหนุ่มผู้ที่กำลังจะเดินทางไปรับตำแหน่ง
ผู้ตรวจการขั้นที่ห้า ทางเมืองตอนใต้ เขาคือ
คุณชายรองสกุลเซียว ครอบครัวทำการค้า
ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆ ของแคว้น
องค์หญิงแปด ถี่หลัน ลูกพระสนมเอกของฮ่องเต้ ต้องการ
ได้รับสมรสพระราชทานกับปู้หว่านถิง
จิ่งหรู สาวใช้ส่วนตัวของฟ่านอวี้เหยา
ติงฮั่ว บ่าวรับใช้ปู้หว่านถิง อายุน้อยมากด้วยฝีมือ
ฟางเอ๋อร์ คณิกาในหน่วยของปู้หว่านถิง
สุยมามา แม่บ้าน / แม่เล้าในค่ายทหารปู้หว่านถิง
องค์ชายสี่ ฉางห้าวเฉียว สหายรุ่นน้องของปู้หว่านถิง
*********************
“บัดนี้กลายเจ้ากลายเป็นสตรีที่กินมูมมาม ทั้งตะกละ”
“นั่นเป็นเพราะแม่ทัพปู้ ทำให้ข้านิสัยเสีย คนเลวเช่นท่านย่อมต้องรับผิดชอบในผลการกระทำของตน ท่านสอนให้ข้าบ้าตัณหา และหิวโหยอยู่ตลอด!”
“คุณหนูฟ่าน เรื่องนี้เป็นข้าที่ผิดหรอกรึ” เขาว่า และสัมผัสเนินเนื้อหน้าอกนางไปด้วย ไม่ใช่แค่การสัมผัส หากยังปลุกเร้าให้นางครางเสียงแผ่วๆ ระบายความซาบซ่าน สยิวใจ
“ใช่ ท่านพรากข้ามาจากเจ้าบ่าว และยังทำให้ขายหน้าผู้อื่นด้วยการจับใส่ป้ายแขวนคอ และยกตำแหน่งคณิกาให้ สตรีเช่นข้า ยังหลงเหลือยางอาย และมีศักดิ์ศรีอันใดอีกหรือ”
“เด็กน้อย สิ่งเหล่านั้นเล็กน้อยนัก หากเทียบกับชีวิตใหม่ที่เจ้าได้รับ อีกทั้งได้มีความสุขแสนเร้าใจ เมื่ออยู่ใต้อาณัติของข้า ซึ่งต่อจากนี้ จะไม่มีบุรุษคนใดรังแกหรือหลอกใช้เจ้าได้อีก”
“ฮึ ท่านคิดว่าข้าต้องการความหวังดีเช่นนั้น!”
“ฮ่าๆ ๆ ใต้หล้านี้ จะมีบุรุษใด ทำให้เจ้าขึ้นสวรรค์ติดๆ กัน ได้มากกว่าข้าอีกเล่า เหยาเหยาคนงาม”
****************************
หญิงสาวเคลื่อนไหวร่างกายนุ่มนิ่ม ด้วยท่วงท่าอ่อนหวาน ซึ่งมันเร่งเร้าความปรารถนาให้แก่แม่ทัพหนุ่ม
และก่อนหน้านั้นคลับคล้ายว่า นางถูกเขาไล่ต้อนอย่างหนัก นับแต่ลงจากม้าตัวโต ซึ่งไร้ทางหนี ไม่อาจขัดขืน นางจำต้องตกอยู่ในเงื้อมืออีกฝ่าย แม้ไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่อาจเรียกร้องหรือประท้วงขอให้เขาปล่อยนางเป็นอิสระ
ชีวิตบัดซบเช่นนี้...มองไปทางใด ก็มืดมิดไปหมด
จวบจน ความกลัวกดทับหลังไหล่ จนรับไม่ไหว นางจึงกัดฟันลุกขึ้นสู้
อึดใจต่อมา ฝ่ามือเรียวนุ่มนิ่มตบหน้าอีกฝ่าย ตบอย่างเต็มแรง ตามด้วยการข่วนหน้าเขาจนเป็นรอยแผล ทว่ามันเหมือนจะไม่ระคายผิวเขาสักนิด
เสียงฝ่ามือดังย้ำย้อนในหูนาง ผสานเสียงหัวเราะหึๆ ๆ ราวกับเขาเป็นพวกชอบความรุนแรง
กลิ่นคาวเลือดทำให้นางสะอิดสะเอียน ใบหน้าเขามีเลือดซึม ซึ่งเกิดจากการฟ้อนเล็บของนาง
ไม่นาน ร่างบอบบางก็ถูกเหวี่ยงทิ้งจนเกือบตงลงบนเตียงกว้าง ทว่านางรู้ชะตากรรมตน หากเขาสลัดนางทิ้งในคืนนี้ เส้นทางข้างหน้าคงเลวร้ายราวกับตกขุมนรก นางต้องเข้าไปอยู่ในกระโจมลึกด้านในสุด มีหน้าที่แสนอดสูยิ่ง เป็นคณิกาคอยปรนนิบัติบุรุษในค่ายอาชาเหินหาว
ดวงตากลมโตมองไปยังกายแกร่งซึ่งนอนอย่างผ่อนคลาย อีกฝ่ายจ้องเพดานกระโจมหลังใหญ่ การหายใจเขาคงถี่ และไออุ่นเขาส่งต่อมาถึงนาง
พลอยให้รู้สึกร้อนวูบวาบ ไปทั่งร่าง
หญิงสาวใคร่ครวญอย่างชั่งใจ ก่อนที่ร่างเปลือยเปล่าของนางจะค่อยๆ คลานเข้าไปใกล้อีกฝ่ายทีละนิด แล้วตัดสินใจอย่างแน่วแน่ด้วยการขึ้นไปนั่งแปะบนตัวชายหนุ่ม
โอ้ ร่างกายเขาอุ่นจัด และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ยามแนบเนื้อกันทำให้นางปั่นป่วนไปหมด
“หึๆ ๆ ถ้าใจเสาะ ก็รีบลงจากเตียงซะ ข้าไม่ชอบเห็นน้ำตาสตรี และน้ำเดียวที่อยากเห็นตอนนี้คือ น้ำหวานฉ่ำเยิ้มจากกลีบคับแน่นนั่น รีบปล่อยออกมาให้ไว บางที ข้าอาจจะยกโทษให้เจ้าสักครั้ง”
หญิงสาวนิ่งงัน เรือนรางงดงามและนุ่มนิ่มแข็งทื่อในยามนั้นเอง
ฟ่านอวี้เหยากำหมัดแน่น พยายามระงับความโกรธ และบอกให้ตนเองฝืนใจทำในสิ่งที่บัดซบนี้เสีย ทว่าเป็นเขาที่แสดงอาการหัวเสียออกมา
“ไป รีบไสหัวไป อย่าแสแสร้งทำตัวประชดข้า กลีบเจ้าแม้บริสุทธิ์ แต่มันคงไม่ต่างจากสตรีนางอื่นที่ข้าเคยกระแทกจนฉีกขาดมาอย่างนับไม่ถ้วน”
เขากำลังข่มขู่นาง เมื่อเป็นเช่นนั้น ฟ่านอวี้เหยาจำต้องข่มใจ ปลอบตนเองเพื่อทำในสิ่งที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ อย่างน้อยที่สุด บุรุษผู้นี้ก็เป็นพระเอกของนิยายที่นางทะลุมิติเข้ามา และเรื่องนี้มันไม่อาจเปลี่ยนแปลง!
จากนั้น หน้าอกอวบสวยไหวสะท้านตามการขยับเรือนร่างเย้ายวนที่อยู่ด้านบนกายแกร่ง แม้นางเกลียดขี้หน้าอีกฝ่าย แต่เขาก็หล่อเหลาจัด รูปร่างสูงใหญ่ ผิวที่ไหม้ด้วยแดดทำให้สมเป็นชายชาติทหาร ทว่าแผลหลายแห่งบนร่างกาย ยามเปลื้องผ้า พลอยให้นางใจเสาะ เหนืออื่นใด กลางกายที่อยู่หว่างขาเขายามชูชัน และผงกหัวไหวไปมา คือสิ่งที่ทำให้สตรีผู้นี้มือไม้อ่อน กลัวว่าหากมันเข้าไปอยู่ในปาก หรือแทรกตัวฝังลึกในกลีบงามๆ ของนาง อาจทำให้ทรมาน และบอบช้ำหนัก
ถึงอย่างนั้น นางก็ไม่อาจคิดโง่ๆ ด้วยการตัดสินใจกัดลิ้นตัวเองหรือโหม่งศีรษะกับกำแพง เพื่อหลบเลี่ยงชะตากรรมในการตกเป็นของเล่นของเทพสงคราม ปู้หว่านถิง หากทำเช่นนั้น นางก็คงสิ้นใจตาย ไม่ต่างจากชาติก่อนของตัวละคนที่เข้ามาสวมบทบาทนี้
ซึ่งก่อนหน้านั้น นางถูกลากเข้ากระโจมของอีกฝ่ายที่อยู่กลางป่า กลางเขา โดยถูกจับโยนขึ้นหลังม้า ร่างกายเปลือยเปล่ามีเพียงชุดที่ทำจากขนจิ้งจอกแดงพันเอาไว้