รักสุดร้ายท้ายสุดรัก EP.2 อ่อยหรือเปล่า...?

1470 คำ
ใบหน้าอันหล่อเหลากระตุกรอยยิ้มอันร้ายกาจ ผมหล่อมากจนยัยนี้จะวูบ เลยงั้นเหรอ หึ...! “หล่อจะวูบ งั้นเหรอ จะเป็นลม ก็เป็นไปสิใครสน อ่อย...ฉันนิหว่า ไม่มีวิธีอื่น จะอ่อยฉันแล้วหรือไง เดิมๆ แบบนี้มันไม่ตื่นเต้น” สายตาสำรวจคนตัวเล็ก มอสไม่เปล่าพร้อมและในจังหวะนั้น “หน้าแบบเธอไม่ต้องอ่อยให้เหนื่อย” สายตาสำรวจคนในอ้อมแขน “เพราะเธอ ไม่ใช่สเปคฉัน... หน้าแบบนี้ไม่ทำใจฉันสั่น ไม่เอา” เชอเนมที่มอสเอ่ยมาเช่นนั้น ใบหน้าสวยยิ้มกริ่มเมื่อครู่ ถึงกับหุบยิ้มลง ร่างบางถึงกับหน้าเหว๋อ !! พรึบ !! มือหนาก็ปล่อยแขนลง ก้นเล็กกระแทกลงบนพื้น !! ตุบ !! “โอ้ย...อ่า...ปล่อยมาได้ นี้เจ็บนะ” มือเรียวลูบเข้าที่ก้น พร้อมกับต่อว่าคนที่ปล่อยเธอลง ที่เขาปล่อยฉันลงเจ็บก้นไม่เท่าไหร่หรอก แต่คำพูดของเขา มันเจ็บมันจี๊ดๆ ที่ใจฉันนี้ หล่อแต่ หวยสินะ “เห้ย...หล่อแล้วไง ใจร้ายชะมัด” เชอเนมได้แต่มองคลาดโทษมอสที่เดินหนีออกไป เมื่อครู่ ด้านมอสที่กำลังเดินผ่านเข้าซุ้มนั้น ทว่ากับมีผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เดินเซมาชนผม ผมจึงผยุงเธอขึ้นไว้ในอ้อมแขวนของผม ใบหน้าอันหล่อเหลาสบตากับใบหน้าเรียวใต้กรอบแว่นตา ปกติชินละคับที่สาวๆ เข้าหาผมด้วยวิธีแบบนี้ ถ้าสวยมากก็จะช่วย แต่พอมองคนที่ตั้งใจชนผมแล้วนั้น มอสได้หงุดหงิดและหัวเสีย สุดๆ ไม่เล่นคับ แบบนี้เสียเวลาผมชิบหาย มอสใบหน้าอันหล่อเหลา ร่างสูงเดินหงุดหงิดออกมาออกมานั้น เขาไม่ชอบวิธีที่พวกสาวๆ ใช้เขาหาตนเพราะมันเจ็บตัวและเสียเวลาผมชิบหาย “ยัยบ้านั้นชนมาได้ตัวเล็กนิดเดียว แต่กระแทกทีเกือบตัวกู ปลิ้ว ” สาวๆ ส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีนี้เข้าหาจับเขา แกล้งชนเพื่อสานความสัมพันธ์ต่อ “หน้าแบบนั้นใคร มันจะเอา ไปต่อลงละวะ” มอสได้แต่พึมพำออกมา แต่นั้นกับลืมไปว่าตนไม่ได้มาคนเดียว “น้องเขาตั้งใจเข้าหาขนาดนั้น มึงก็น่าจะสานต่อให้เธอชื่นใจหน่อย” แทคิณว่าให้กับแทคิณ “กูไม่สานต่อ ให้มึง เป็งมึงจะเอายัยนั้นปะละ” มอสถาม “ไม่วะ ของกูมีเยอะแล้ว” ที่แทคิณที่ผมเอ่ยมาเช่นนั้นเพราะเห็นว่าช่วงนี้ไอ้เชี่ยมอสมันของขาด ด้านเชอเนมหลังจากที่มอสปล่อยเธอล้มลงก้นกระแทกพื้นนั้น “หว่า...ยัยเนม แกเป็นไงบ้าง” นับดาวและเพื่อนคนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับตกใจไปตามๆ กัน นับดาวพยุ่งเพื่อรของเธอขึ้นมา “ก็เจ็บ ก้นนะสิ ถามได้” เชอเนมเอ่ยหน้ามุ้ย ก้นไม่เท่าไหร่ และเจ็บใจนี้สิ “ไหนบอกไม่สนไงเนม เห็นชื่อๆ แบบนี้ไว้ใจได้ที่ไหน อ่อยพี่มอส เหมือนกันนะเนี้ย” ฟ้าครามเอ่ยด้วนสีหน้ายิ้มกริ่ม ใครจะคิดว่ายัยเชอเนมจะใช้วิธีนี้เข้าหาพี่มอสของฉัน ซื่อๆ นิ่งๆ แบบนี้ แผนสูงไม่เบา “ฉันเนี้ยนะ อ่อยนายนั้น มันเป็นอุบัติเหตุพวกเธอก็เห็น ละใครกันที่มันอยากได้ภาพสวยๆ มุมนี้ที มุมนั้นก็เอา” เชอเนมตอกกลับเพื่อนร่วมชมรมอย่างไม่ยอม “ไม่ได้อ่อย เธอจะร้อนตัวไปทำไม” ฟ้าครามเอ่ยพร้อมกับเบื้องหน้าหนี “แต่อย่างเธอไม่ต้องอ่อยให้เหนื่อย พี่มอสก็คงไม่ลงมาเสียเวลามาเล่นด้วยหรอกนะ เพราะเมื่อกี้ก็ชัดแล้วนิ” ฟ้าครามยังเอ่ยต่ออย่างสนุกปาก “พอๆ กันเถอะ เด็กๆ อย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาทำให้งานกล่อยกันเลยนะ” พี่ปูเป้ที่เห็นเหตุการณ์ เอ่ยห้ามปรามพวกฉัน ยัยฟ้าครามยัยบ้านี้ จริงๆ เลย เมื่อเป็นเช่นนั้นฉันจึงเดินออกจากซุ้ม ถ้าขืนอยู่ตรงหน้าต่อฉันคงจะกัดกับยัยฟ้าครามมากกว่านี้ “เนม นั้นแกจะไปไหนอะ” ยัยนับดาวหันมาถามฉัน “จะไปห้องน้ำ ไปด้วยปะ” “ไม่อะ ฝากหน่อยได้ไหม ฉันผสมสีไว้ในถังที่ห้อง 108 ไหนๆ แกก็ผ่านทางนั้นช่วยหยิบมาให้ได้ปะ เพราะฉันติดงานปั้นนะ” ยับนับดาวหันมาเอ่ยกับฉัน “ได้สิ” “ขอบใจมาก” เอ่ยจบร่างบางก็เดินมาที่ตึกอาคารเรียน พอเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วนั้น ก็ไม่ลืมแวะไปเอาถังสีที่ยัยนับดาวเตรียมไว้ มาแนะนำตัวหน่อย ฉันชื่อเชอเนม เชอลิตา คณะศิลปกรรมศาสตร์ปี 2 และที่ฉันมาจัดนิทรรศการวันนี้ไม่ใช่วิชาเอกฉันหรอกคะ แต่เป็นงานของทางชมรมนั้นเอง ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่ 3 คน ยัยนับดาว และยัยวาววา ที่ฉันเข้ามาเรียนที่มหาลัยนี้เพราะมีพี่สาวลูกพี่ลูกน้องฉันเป็นคนส่งเรียน ลำพังครอบครัวฉันคงส่งเรียนมหาลัยแพงๆ แบบนี้ไม่ได้หรอก ขณะที่เชอเนมเดินไปเอาถังสีให้นับดาวนั้น สายตากับสะดุดเข้ากับร้านซุ้มน้ำที่เห็นเหล่าสาวๆ นักศึกษาต่างมุงกัน “หูย...แก้วสวยมาก ถ่ายรูปสวย น่ากินแฮะ” เมื่อเป็นเช่นนั้น เชอเนมก็ไม่รอช้า คนเยอะต้องอร่อยมากแน่เลย ลืมบอกไปว่าที่งานวันนี้ไม่ได้มีแค่งานนิทรรศการนะ มีตลาดนัดของกินขายอีกมากมายเมื่อมาถึงร้าน 20 คิวเลยเหรอ ยัยนับดาวคงไม่รีบเอาสีหรอกรอไปก่อนละกัน 10 นาทีต่อมา เชอเนมหลังจากที่ยืนต่อคิวนานถึง 10 นาที ฉันก็ได้ชานมไข่มุกที่แสนอร่อย อากาศร้อนๆ แบบนี้ ดูดแล้ว ชื่นใจไปอีกแบบ ร่างกายต้องการชานม ใบหน้าสวยระบายรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ทวาขณะที่เดินดูดชานมอยู่นั้น เสียงสมาร์ทโฟนฉันกับสั่นขึ้นมา Rrrrrrrrr นับดาว หึ...ยัยนี้คงโทรตามถังสีกับฉันแล้วสินะ [ว่า] [โอ้ย นางงาม นี้แกอยู่ไหน ฉันคิดว่าแกตกส้วมตายแล้วซะอีก] [เป็นหวง] ฉันถาม [ตามถังสีคะ เขาจะเริ่มงานกันแล้ว] [ไม่เกิน 5 นาที] [ฉันตั้งไว้หลังห้อง ถังไม่ได้ใหญ่มาก เป็นกล่องสีขาว เทาๆ กล่อง เคเอฟชี มีกระดาษสีขาวปิดอยู่] ยัยนับดาวเอ่ยกับฉัน [เค แค่นี้ก่อนนะแก] ไม่กี่นาทีคนตัวเล็กก็มาถึงห้องเก็บสี โอ้...มีตั้งหลายถังแหนะ แต่สะดุดเข้ากับถังขนาดเล็กอันนึ่ง “หึ...นี้อย่าบอกนะว่า ถังนี้” ฝาปิดไม่มีแล้วฉันจะถือไปยังไงละเนี้ย ให้คนซุ่มซ้ามแบบฉันนี้นะมาเอาของแบบนี้ แค่เดินตัวเปล่ายังสะดุดล้ม !! เห้ย...!! เชอเนมได้แต่ถอนหายใจยาว แต่นั้นก็ถือถังสีไปให้เพื่อนอยู่ดี ทว่าขณะที่เดินออกจากตัวอาคารลัดเลาะออกมายังทางลานจอดรถนั้น เสียงสมาร์ทโฟนกับสั่นขึ้นมา มืออีกข้างหิ้วถึงสีมีไม่มีฝาปิด ส่วนมืออีกข้างกับถือแก้วชานมขึ้นมาดูด และไหนจะสมาร์ทโฟนที่ดังขึ้นมาอีกนั้น โอ้ย...ไม่รู้จะตั้งถังสี ชาไข่มุก หรือรับสายก่อนดี แต่นั้นเชอเนมกับเรียกรับสาย ทว่าขณะที่มือวุ่นวายหยิบสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงอยู่นั้น ขาเล็กกับเหยียบเข้ากับกระป๋องน้ำตรงหน้า ทำให้น้ำถังสีที่อยู่ในมือกระจายไปโดนรถที่จอดอยู่บริเวรนั้น !! ซ่า...!! “อ่า...เต็มๆ สียัยนับดาว หมดถังเลยนะสิ ฝีมือคนสวยอย่างฉันเอง” อ่า ดีนะที่ฉันเบรกไว้ทัน ไม่งั้นคงล้มรอบที่ 2 ของวัน เสื้อยืดสีขาวของฉันเลอะเป็นรอดจุดเล็ก ทว่าขณะที่คนตัวเล็กวุ่นวายกับการเช็ดคราบสีเลอะออกจากเสื้อของตนนั้น ใบหน้าสวยละขึ้นมา ภาพที่เห็นน้ำสีเขียวสาดกระจาย ใส่รถลัมโบกินี่คันสีแดงเป็นหย่อมๆ กระจายเป็นจุดๆ “ห๊ะ.....” สภาพของรถที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้น ดวงตาเบิกกว้าง ขาที่จะก้าวเดินไปเช็ดคราบสีนั้นแทบช็อค หัวใจกระตุกวูบลงที่ปลายเท้า จะวายตาย ลมแทบจับ จะล้มตัวไปกองกับพื้น “โอ้...” สีชนิดพิเศษของยัยคนนับดาว คนตัวเล็กนั้นแทบจะร้องไห้ กับสภาพรถตรงหน้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม