เรานั่งกินอาหารของตัวเองได้แบบไม่มีปัญหาอะไรถึงจะเป็นอาหารคนล่ะอย่าง แล้วเมื่ออิ่มก็ต้องต่อด้วยขนมที่ซื้อมากินเมื่อวานนี้แล้วดูเหมือนว่าชอบมาก
เธอออกมานั่งริมระเบียงห้องโดยที่มีแวมไพร์นั่งอยู่ใกล้ๆ เขาไม่ได้เล่าเรื่องธุระวันนี้ให้ฟัง แต่เขาเล่าถึงงานในคืนวันพรุ่งนี้ที่จะต้องสนุกแน่นอน ที่งานจะมีการจุดดอกไม้ไฟขนาดใหญ่อย่างสวยงาม ตลอดทั้งงานเต็มไปด้วยขนมสารพัดอย่างและอาหารที่เยอะแยะเต็มไปหมด การแสดงที่จัดขึ้นหลายพื้นที่ แสงสีที่ประดับ มุมถ่ายรูปต่างๆ แล้วสิ่งที่คนทำเป็นประจำคือการไหว้ศาลเจ้าประจำเมืองพร้อมทั้งซื้อด้ายสีแดงเพราะเชื่อในเรื่องความรักแท้ที่กำลังจะตามมา
“คิดว่าหนูจะมีแฟนแบบไหนคะ?”
“แบบที่ซื้อขนมให้กินตลอดชีวิตเลยดีไหม?”
“ดีสิคะ! แต่ว่าหนูก็ไม่ได้มีเงินเยอะมากพอจะเลี้ยงใครกลับตลอดนี่สิ ถ้าสมมุติว่ามีแฟนแบบนั้นจริงๆเขาอาจจะมองว่าหนูเป็นภาระก็ได้ ถึงยังไงความรักมันก็ไม่สามารถไปกันรอดถ้ามีแค่ความรักอย่างเดียว หนูก็เอาใจใครไม่เป็น งานการก็ไม่ได้มีอะไรมั่นคง แถมยังเรียนจบแค่ชั้นธรรมดาในโรงเรียนประจำอีกด้วย คนแบบนี้หนูไม่น่าจะมีใครชอบ”
“ไม่เห็นต้องคิดมากเลย หนูก็หาคนที่รวยกว่าแค่นั้นเอง”
“แล้วใครที่รวยกว่าหนูบ้างละคะ?”
“...ใคร!?”
“อื้อ ใครจะกล้าคบกับหนูละ”
“ฉันว่าแค่ค่าขนมไม่ได้ทำให้ล้มละลายหรอก แล้วอีกอย่างหนูก็ไม่ค่อยได้ใช้อะไรมากเกินไปด้วยซ้ำ บางทีเรื่องเงินมันน่าจะเป็นเรื่องเล็กไปเลยถ้าเทียบกับความรู็สึกที่มี”
“หวังว่าหนูจะได้เจอคนแบบนั้นนะคะ”
เด็กโง่เอ้ย!
เขานี่ไง…หันมามองกันบ้างสิ!
ค่ำวันต่อมาควินน์ขับรถไปยังหอพักเพื่อรับเด็กน้อยออกไปเที่ยวด้วยกันในคืนนี้ เขารู้ว่าเธอชอบกินขนมมากขนาดไหนเลยเตรียมพร้อมที่จะถือทุกอย่างให้ตามต้องการ วันนี้เสื้อผ้าที่ใส่ก็ค่อนข้างเบาสบายและไม่โดดเด่นจนเกินไป น้ำหอมกลิ่นไม้ให้ความรู้สึกสดชื่นคงจะเรียกความสนใจได้บ้างแหละ
นับว่านี่คือการเดตได้ไหมนะ?
"นึกว่าฉันจะถูกเบี้ยวนัดซะแล้ว"
"หนูแค่มีปัญหานิดหน่อยเฉยๆ ไม่ได้มาช้ามากขนาดนั้นซะหน่อย"
"แล้วทำไมใส่กางเกงขาสั้นนักละ?"
"ก็เผื่อร้อนไงคะ"
"ห้ามอยู่ห่างจากฉันเด็ดขาดนะฮานะ ถ้าหนูอยากเล่น อยากได้ หรืออยากกินอะไรให้บอกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ แต่อย่าเดินไปไหนคนเดียวเข้าใจไหม?"
"แล้วถ้าหนูอยากเข้าห้องน้ำละ?"
"ฉันก็จะยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ"
"ทำเหมือนว่าหนูเป็นเด็กๆไปได้ หนูไม่หลงทางหรอกน่าไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แล้วอีกอย่างคุณควินน์ก็มีเบอร์โทรของหนูอยู่นะ ถ้าหากพลัดหลงกันจริงๆก็โทรตามได้ จริงไหมคะ?"
"มันก็จริง แต่ว่าฉันแค่ไม่อยากให้หนูใกล้ใครมากกว่าฉันเท่านั้นเอง ไปกันเถอะฮานะ"
ทำไมละ?
เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำเลย
คุณควินน์เข้ามาในชีวิตของเธอเร็วมากแล้วยังชอบสั่งนู้นสั่งนี่ไม่หยุด เขาเป็นแวมไพร์ที่ชอบคลุกคลีกับคนอย่างนั้นเหรอ แต่เท่าที่จำได้ก็ไม่เคยเห็นเขาพูดคุยกับคนธรรมดาเกินความจำเป็นเลยด้วยซ้ำนะ เธอนั่งรถคันหรูแล้วมองไฟข้างทางที่ส่องสว่างอย่างสวยงามด้วยความตื่นเต้น
ที่เมืองนี้มีผืนป่าเยอะมากกว่าที่อยู่คนซะอีกนะ
อยากลองตั้งแคมป์บ้างจัง
เธอนั่งคิดอะไรเพลินๆเกี่ยวกับการเดินป่าแล้วตั้งแคมป์ค้างคืน แต่ปัญหาคือมีกฏข้อห้ามหนึ่งอย่างของที่นี่คือห้ามทำคนเดียวเด็ดขาดแถมยังมีโทษร้ายแรงอีกด้วย ทุกอย่างที่อยู่ในเขตป่าต้องมีตั้งแต่สองคนขึ้นไปและอยู่แค่ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เธอเคยได้ยินเพื่อนร่วมงานเล่าให้ฟังว่าเคยไปแล้วสนุกมาก ที่นั่นมีทะเลสาบแถมยังมีน้ำตกอีกด้วย
แล้วเธอจะชวนใครไปดีละ
เพื่อนก็ไม่มี แฟนก็ไม่มี ครอบครัวก็ไม่มี
"คิดอะไรอยู่?"
"ถึงแล้วเหรอคะ?"
"ฉันจอดรถได้ห้านาทีแล้วมั้ง หนูคิดอะไรอยู่ถึงได้เหม่อลอยขนาดนี้"
"เรื่องไร้สาระน่ะค่ะ"
"ไปกันเถอะ"
"งานใหญ่จังเลย"
เราเดินเล่นกันภายในงานประจำปีที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ผู้คนมาค่อนข้างเยอะมาก แล้วนี่ก็ผ่านมาเก้าปีได้มั้งที่เขาไม่เคยมา ร้านขนมแทบทุกร้านที่เดินผ่านเด็กประหลาดที่มีกระเพาะเหมือนหลุมอวกาศไม่เคยพลาดเลย เขาซื้อแต่เธอเป็นคนกินที่ล่ะคำสองคำเท่านั้นเอง ร้านอาหารก็มีมาขายแล้วเด็กน้อยก็ไม่เคยที่จะพักท้องเลย ปากเล็กๆเคี้ยวไม่หยุด มือก็ถือน้ำดื่มเผื่อติดคอ ในขณะเดียวกันที่มือของเขาเต็มไปด้วยถุงนับสิบแล้วมืออีกข้างก็กุมมือเธอเอาไว้
แค่ฮานะมีความสุขเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
เขาพาเธอเดินไปเข้าแถวไหว้ศาลเจ้าที่ตัวเองไม่ได้นับถือแต่เด็กน้อยน่าจะชอบ เราฝากของทั้งหมดไว้กับเจ้าหน้าที่แล้วเดินเข้าไปแถวตามคนอื่นไป กลิ่นควันธูปลอยฟุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ แล้วคนธรรมดากับคนไม่ธรรมดาก็เดินไปอย่างปรกติ
"คุณควินน์ขอพรอะไรเหรอคะ?"
"ถ้าบอกแล้วจะสมหวังเหรอ?"
"นั่นสิ! อืม…เราต้องซื้อด้ายสีแดงนั่นด้วยรึเปล่าคะ?"
"ซื้อสิ ฉันจะได้ใส่คู่กับหนูด้วยไง"
"ทำแบบนี้เราก็จะมีแฟนพร้อมกันใช่ไหมคะ?"
"ใช่ เราจะมีคนรักพร้อมกัน"
เมื่อไหว้เรียบร้อยแล้วคุณควินน์พาเธอมารับด้ายแดงแถมยังเป็นคนใส่ให้อีกด้วย เขาบอกว่าไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้แต่กลับห้ามเธอถอดออกซะอย่างนั้น เธอก็งงนะแต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้วเพราะด้ายแดงที่ว่าน่ะมีจี้เล็กๆอยู่อย่างสวยจนสามารถใช้เป็นเครื่องประดับได้ เธอเดินไปจับมือเขาบ้างแล้วพาไปขึ้นชิงช้าสวรรค์เพื่อที่จำได้ดูดอกไม้ไฟโดยไม่มีใครมายืนบัง
เธอเล็งเอาไว้ตั้งแต่เข้ามาแต่ไม่เคยว่างสักที
ตอนนี้คือโอกาสจะช้าไม่ได้!
"ปีหน้าจัดอีกไหมคะ?"
"จัดขึ้นทุกปี งั้นปีหน้าหนูมากับฉันอีกนะ"
"แล้วถ้าคุณมีแฟนละ?"
"ถ้ามีง่ายๆก็คงดีสิ"
"ทำไมละคะ?"
"คนที่ฉันชอบน่ะโง่มาก แถมยังซื่อบื้อเกินไปเลยด้วย แต่ว่าน่ารักมากนะแถมยังกินขนมเก่งสุดๆเลยแหละ" ทุกอย่างมันคือฮานะแต่ว่าเธอคงไม่คิดว่าเป็นตัวเองหรอก ดูจากสีหน้ามึนงงเหมือนว่ากำลังใช้สมองทุกรอยยักเพื่อประมวลผลก่อนจะยิ้มแหย่ๆให้เพราะว่าคิดไม่ออกว่าเป็นใคร เด็กประหลาดตัวน้อยที่ฉลาดแค่บางเรื่องเท่านั้นเองทำให้เขารู้สึกหนักใจ แถมยังทำท่าเหมือนไม่รู้ว่าผู้คนบนโลกใบนี้เป็นยังไงอีกด้วย
ถ้าไม่สารภาพรักออกไป
ต่อให้จีบไปอีกสามชาติก็ไม่ได้คบกันหรอก!
"ฮานะ…"
"หนูไม่เคยเห็นดอกไม้ไฟสวยขนาดนี้มาก่อนเลย ขอบคุณนะที่ชวนมาแล้วยังใจดีเลี้ยงขนมตลอดเวลาอีกด้วย คุณควินน์ใจดีกับหนูที่สุดเลยนะคะ"
"แค่หนูมีความสุขก็พอแล้ว" ทุกคำที่ตั้งใจพูดถูกกลืนลงคอไปหมดแล้ว เขามองเธอเงียบๆพร้อมกับรอยยิ้มกว้างรู้สึกว่ามีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แสงสีจากดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ประดับท้องฟ้าที่ว่างเปล่าให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม แล้วเด็กน้อยคนนี้ก็ทำให้ที่นี่สวยยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมหลายร้อยเท่า
อยู่ๆก็เขินรอยยิ้มหวานนั้นของเธอ