Game’s part
กำลังใส่ล้อเข้ารถที่จอดอยู่ตรงหน้า อยู่ว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็ถอดเปลี่ยนเล่นแม่งเลย ไอ้เพื่อนรักที่หายหัวไปตั้งแต่ตอนบ่ายโผล่เข้ามาหาถึงอู่ โดยปกติจะไม่ได้เจอหน้ามันที่นี่สักเท่าไหร่ จะเจอกันที่เต็นท์ไอ้ลม
“น้องกูดูเฮิร์ตหนัก”
“แฟนคนแรกมั้ง”
ไอ้เอ็กซ์มันพยักหน้ายืนยันว่าใช่ ไอ้คนนั้นเป็นแฟนคนแรกของน้องสาวมัน
“แล้วไม่อยู่เป็นเพื่อนน้องล่ะ”
“แอลไล่กูออกมาเนี่ย”
ผมหัวเราะเล็กน้อยกับคำตอบของคนที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งไม้ตัวยาว
ที่นี่คืออู่ของผมเอง เปิดมานานละแต่ไม่ค่อยมีรถมาซ่อมหรอก เน้นแต่งเสียมากกว่า ส่วนใหญ่ที่มาก็เพราะตามมาจากการแข่งขันรถในงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วม นักแข่งประจำทีมอย่างไอ้ไฟมันเก่ง แข่งทีไรชนะทุกที ชื่อเสียงของอู่ผมเลยดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นที่สนใจของบรรดาคนรักรถแต่ง
ล้างมือหลังจากที่ใส่ล้อครบทั้ง 4 แล้วเดินกลับมานั่งกับเพื่อนที่ดูท่าจะกลุ้มใจกับการอกหักของน้องสาวเสียเหลือเกิน
“มีไรให้คิดเยอะ?” ผมถาม หน้ามันตึงเครียดอย่างกับเป็นเรื่องใหญ่มากมาย
หรือยายเด็กแสบท้อง!?
“กูสงสัยว่าแฟนแอลคือแฟนคุณน้อยที่ชวนกูหุ้นเปิดร้าน”
โชคดีที่ไม่ถามมันออกไปว่าแอลท้องหรืออย่างไร หากถามไปอย่างนั้นมันคงไล่กระทืบผมแน่ คนละเรื่องกับที่มันคิดเลย
“ยังไง?”
“แอลถามกูว่าขายรถให้ใคร ราคาเท่าไหร่ แล้วก็ซึมไปเลย”
“มึงนี่เอกมโนป้ะ แค่นี้ก็คิดเป็นตุเป็นตะละ”
“ก็คุณน้อยเคยบอกกูว่าสามีของเธอชื่อเจ ชื่อเดียวกับแฟนแอล”
ผมมองหน้าไอ้เอ็กซ์ด้วยอาการตะลึงงัน จากที่มันเล่ามาก็น่าสงสัยจริง ๆ แล้วว่ะ
“มึงลองโทรไปถามคุณน้อยดิ”
“ให้กูถามอะไร” ไอ้เอ็กซ์ย่นหัวคิ้วเข้าหากัน
“ไม่รู้ว่ะ”
“เอ๊า!”
ก็ไม่รู้จริง ๆ นี่หว่าว่าจะใช้คำถามอย่างไรดี ถามตรง ๆ ก็คงจะสงสัยกันไปหมดแน่ หากถามอ้อม ๆ ก็เกรงว่าจะไม่รู้ในสิ่งที่อยากรู้
ไอ้เอ็กซ์ถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนที่มันจะหันไปทางห้องของผม “ห้องมึงมีอะไรที่ทำให้สมองโล่งมะ”
“มี” ผมตอบสั้น ๆ แล้วเดินนำมันเข้ามาภายในห้อง ผมทำเอาไว้สำหรับพักผ่อนเวลาที่ขี้เกียจกลับบ้าน ในห้องนี้ผมก็อัดของใช้ต่าง ๆ ที่คิดว่าจำเป็นไว้
เอาเครื่องดื่มมึนเมามาเปิดดื่มกับเพื่อนรัก ปกติจะดื่มกันยกแก๊ง แต่วันนี้กลับอยู่กันสองคน เหงาแปลก ๆ
“โทรเรียกเด็กเอนดีกว่าว่ะ” อีกคนว่าพลางล้วงเอาสมาร์ตโฟนของตัวเองออกมา ผมรีบลุกไปเบิดกะโหลกมันเบา ๆ ให้มันหยุดความคิดของตัวเองไว้ซะ
“ไรวะ” มันทำหน้าเหมือนเด็กถูกขัดใจ
“เดี๋ยวนุชรู้กูเสียแต้ม”
“โอ๊ยยย ไอ้ควาย!” ไอ้เอ็กซ์ทำหน้าระอาก่อนจะด่าแบบเน้นเสียงอย่างหนักแน่น แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงปกติ “แคร์ไรนักหนาวะ แฟนก็ไม่ใช่”
“มึงก็รู้ว่ากูตามจีบอยู่ กูก็ต้องแคร์ป้ะ”
“มึงจีบมาโคตรนาน หาเมียใหม่เหอะ”
เคยมีความคิดอย่างที่มันบอกเป็นบางครั้ง…แต่สุดท้ายก็เดินหน้าต่อ ไม่ยอมถอยเสียที ก็แค่อยากลุยในสิ่งที่ตัวเองต้องการให้เต็มที่ ผลที่ได้กลับมาจะเป็นไงก็ช่างแม่ง
หลังจากที่มันพูดผมก็เงียบ ไม่ส่งเสียงใด ๆ กลับไป ส่วนเพื่อนรักคงรู้ตัวว่าพูดแทงใจผม มันถึงได้เปิดคลิปแข่งรถจากสนามอื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมให้ผมดูเพลิน ๆ และก็เพลินจริง เอาแต่ดูไม่ดื่ม ส่วนคนเปิดคลิปมันดื่มแต่ไม่ดู! แล้วตอนนี้มันก็คอพับไปเรียบร้อยแล้วด้วย
นี่ก็ภาระ!
พี่น้องคู่นี้นี่มันยังไงวะ
พูดถึงยายแอลก็นึกถึงตอนเด็ก ๆ ยายนี่เป็นคู่ปรับผมมาแต่ไหนแต่ไร พวกเพื่อนคนอื่นยอมให้ ยกเว้นผม! เธอก็เลยหาเรื่องแกล้งผมเป็นว่าเล่น แต่เมื่อเติบโตขึ้นเราต่างแยกย้ายกันเรียน ผมก็เลยไม่ได้ไปให้แอลแกล้งสักเท่าไหร่ นี่ถ้าเห็นหน้าผมแล้วก็ไม่รู้ว่าจะจำกันได้หรือไม่
ทางที่ดีอย่าให้เห็นจะดีกว่า ขี้เกียจต้องมาตามใจ ต้องยอมให้แกล้ง รำคาญ!
เสียงนาฬิกาปลุกจากสมาร์ตโฟนดังลั่นสนั่นห้อง ผมปรือตาขึ้นมาด้วยความงัวเงียแล้วเดินไปหาต้นตอของเสียง
“เอ็กซ์!!! มึงตั้งปลุกไว้ทำไม” ผมเรียกเจ้าของสมาร์ตโฟนแล้วกดปิดเสียงปลุก “เอ็กซ์มึงตื่นดิ มึงตั้งปลุกทำไม”
“อื้อ”
“ตื่นแล้วก็ลุก”
“อื้อ”
“อื้อพ่อง” ตอบแม่งแต่อื้อ ๆ ปล่อยแม่งนอนไปเลย มีธุระอะไรก็ช่างหัวมันแล้วกัน
“อื้อ ไปรับแอลแทนหน่อย” โดนด่าไปทีมันพูดยาว ๆ ได้เลยแฮะ แต่…ไปรับแอลงั้นเหรอ
“รับทำไม”
“น้องกูปวดข้อเท้าอยู่ไง”
“เออ อันนั้นกูรู้” ผมเป็นคนมาบอกมันเองว่าน้องมันมัวแต่เล่นโทรศัพท์แล้วก้าวตกรถ จะว่าไปผมก็บังเอิญเจอแอลมา 2-3ครั้งแล้วนะ ได้เจอกันทีไรมีเรื่องต้องมาฟ้องไอ้เอ็กซ์ทุกที
“กูไปรับเองไม่ไหวว่ะ ปวดหัวฉิบหาย เหล้าเหี้ยไรของมึงโคตรแรง”
“มึงซัดไม่ยั้งเอง”
“ไปรับแทนหน่อย กูขอร้องล่ะ สงสารน้อง”
“เออ เอารถมึงไปนะ เปลืองน้ำมันรถกู”
มันพยักหน้าส่ง ๆ แล้วหลับต่อทันที ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วปลุกให้มันตื่นมาบอกที่อยู่ของน้องมัน อีกทั้งยังเอาโทรศัพท์ของไอ้เอ็กซ์ติดมาด้วย
ใช้เวลาไม่นานก็มาจอดที่หน้าหอของแอลตามที่ไอ้เอ็กซ์บอก ผมคาดไม่ถึงเลยนะว่าน้องมันจะมาอยู่ที่นี่ คิดว่าอยู่คอนโดเดียวกันกับไอ้เอ็กซ์เสียอีก
ระหว่างที่คอยมองเข้าไปในตึก มือของผมก็ทำหน้าที่ต่อสายหาแอลไปด้วย สัญญาณเรียกจนเกือบตัดปลายสายก็รับขึ้นมา
“(ว่าไงพี่เอ็กซ์)”
ผมกระแอมกระไอเพื่อปรับน้ำเสียงให้ใกล้เคียงกับไอ้เอ็กซ์ให้มากที่สุด
“มารับไปเรียน”
“(เสียงเป็นไรอะ)” ผมกะพริบตาปริบ ๆ อุตส่าห์ดัดเสียงยังทักแบบนี้อีก ผมเงียบเพราะหาคำตอบให้ไม่ได้ ปลายสายจึงพูดต่อ “(รอแป๊บ ยังไม่ได้แต่งตัว เพิ่งอาบน้ำเสร็จ)”
ผมก็ไม่ตอบอีกเหมือนเดิม กดตัดสายไปในทันที นั่งรออยู่ในรถราวสิบนาที คนตัวเล็กก็เดินออกมาจากตึก ขายังกะเผลกอยู่บ้างแต่ก็ไม่เท่าเมื่อวาน
“ใส่แมสก์ด้วยแฮะ ไม่สบายเหรอ”
ผมพยักหน้าเตรียมพร้อมที่จะเหยียบคันเร่ง แต่คนข้าง ๆ เงียบผิดปกติ ผมจึงหันไปมอง เธอเองก็กำลังมองผมอยู่ อีกทั้งยังทำหน้าสงสัย
มือเล็กกระชากแมสก์ออกด้วยความรวดเร็ว เราทั้งคู่ต่างเบิกตาโตด้วยความตกใจ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตกใจมากกว่าหลายเท่า วัดจากดวงตาที่แทบถลนออกมานั่นแหละ
“พ พ พี่เกมส์!”
“ไง เด็กแสบ!”