มาเรียม

1656 คำ
บางครั้งความเจ็บปวดมันก็ไม่ได้หมายความว่าเรากำลังทุกข์ เพราะการเจ็บปวดครั้งนี้มันมาพร้อมกับความสุข รถพยาบาลแล่นเข้ามาหน้าตึกทางเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีหญิงท้องแก่นอนปวดท้องอยู่ภายในรถ ก่อนที่เธอจะถูกพยาบาลและบุรุษพยาบาลพาขึ้นรถเข็นเข้าไปยังห้องคลอด ภายในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวเขมิกากำลังนอนรอให้กำเนิดทารกน้อย ความเจ็บปวดและการบีบรัดบวกกับการหดตัวเป็นจังหวะของมดลูกนั้น มันมีความรุนแรงสม่ำเสมอและถี่มากขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้าบวกกับความเจ็บปวดที่บ่งบอกถึงนาทีเป็นนาทีตาย ซึ่งมันเจ็บเกินคำบรรยายใดๆ หากเวลานี้มีบิดาของลูกยืนอยู่ข้างๆ คอยกุมมือให้กำลังใจและซับเหงื่อให้ มันคงจะรู้สึกดีหรืออาจจะบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่เวลานี้เขมิกากำลังเผชิญกับความเจ็บปวดนี้เพียงลำพัง เมื่อความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมดลูกหดรัดตัวดีขึ้นเรื่อยๆ นิการู้สึกเจ็บมากที่สุดที่เคยเจ็บมาในชีวิตนี้ ความรู้สึกครั้งนี้ทำให้เธอนึกถึงใบหน้าของผู้เป็นมารดา ในวันนั้นแม่คงเจ็บปวดไม่ต่างอะไรกับเธอในเวลานี้ แต่มารดาก็ยังมีบิดาที่คอยยืนข้างๆ ให้กำลังใจ แต่เธอไม่มีใครอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายถ้าตายก็คงต้องตายคนเดียว เมื่อความเจ็บปวดเดินทางมาถึงระยะสุดท้ายนั่นคือระยะเบ่ง เขมิการู้สึกเจ็บปวดรุนแรงมากที่สุดกับระยะเกือบชั่วโมงนั้น เมื่อปากมดลูกเริ่มบางและอ่อนนุ่มลงมันหดรัดตัวสม่ำเสมอขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งความหนาของปากมดลูกนั้นหมดไปและเปิดกว้างออกจนถึงสิบเซนติเมตร ศีรษะของทารกน้อยค่อยๆ โผล่ออกมา แต่ทว่าความเจ็บปวดนี้มันมาพร้อมกับความสุขและความปลาบปลื้มปีติยินดี เมื่อหมอที่ทำคลอดบอกว่าเธอได้ลูกสาว น้ำตาแห่งความดีใจก็ไหลออกมาอีกครั้งจากตาก็สวยนั่น ความเจ็บปวดนั้นได้มลายหายไปจนสิ้นเมื่อพยาบาลอุ้มลูกน้อยมาวางที่อกหยดน้ำตาใสๆ ที่ไหลออกมานั้นมันคือน้ำตาแห่งความยินดีมากกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ "ยินดีต้อนรับสู่โลกกว้างนะสาวน้อยของแม่ หนูมาเรียม แม่ขอตั้งชื่อลูกว่ามาเรียมนะ แม่จะเลี้ยงดูลูกให้เติมใหญ่ จะเป็นทั้งพ่อทั้งแม่เป็นทุกอย่างให้หนูเอง แม่คนนี้จะดูแลหนูเป็นอย่างดี แม่รักหนูจังมาเรียมน้อยของแม่" หญิงสาวพร่ำบอกรักทารกน้อยพร้อมกับน้ำตาคลอ เมื่อลูกคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้เธอนั้นอยากอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป เวลาผ่านไปได้สักพัก เขมิกาก็ถูกส่งตัวมายังห้องผู้ป่วย ซึ่งเป็นโซนเด็กและคุณแม่หลังคลอดทั้งหมด ใครเล่าจะรู้ว่าลูกคุณหนูอย่างเธอ จะมาตกระกำลำบากอาศัยรถโรงพยาบาลมาคลอด ซึ่งสถานที่ทำคลอดก็เป็นโรงพยาบาลของรัฐ ห้องพักฟื้นคือห้องรวมที่มีคนหนาตามากพอสมควร นางฟ้าตกสวรรค์อย่างเธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องขอความยุติธรรมใดๆ กับใครทั้งสิ้น สักพักใหญ่ๆ ลัลนาก็ถือของพะรุงพะรังมาเต็มไม้เต็มมือ เดินตรงมาที่เตียง ขณะที่เพื่อนรักอย่างเขมิกากำลังนอนพัก "เป็นยังไงบ้างคะคุณแม่คนเก่ง เสียดายที่ติดธุระ ไม่อย่างนั้นคงได้มาช่วยลุ้นถึงห้องคลอด อุ้ย! น่ารักน่าชังจังเลย ผู้หญิงหรือผู้ชายเขม" "ผู้หญิงจ้ะ เขมตั้งชื่อให้ยัยหนูว่ามาเรียมไพเราะไหม” "ดีจัง น่ารักน่าชังมากหลานฉัน แล้วทำไมถึงตั้งชื่อว่ามาเรียมล่ะ ยังไม่ลืมเขาเหรอ ทำไมต้องตั้งชื่อเหมือนคุณหญิงขวัญเรียมด้วย" ลัลนาเอ่ยถามเพื่อนออกมาด้วยความแปลกใจ "อย่างน้อยคุณหญิงขวัญเรียมท่านก็ดีกับเขมมาก ซึ่งท่านเคยบอกกับเขมเอาไว้ถ้ามีหลานสาวท่านขอให้ตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่ามาเรียม เขมก็แค่อยากจะทำตามคำร้องขอของคุณหญิงก็เท่านั้นเอง" "อืม..ถ้าเขมออกจากโรงพยาบาลย้ายไปอยู่ชั้นบนนะ นาขอเฮียกับเจ๊ไว้แล้ว ซึ่งนาให้เด็กทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วด้วยเขมเข้าไปอยู่ได้เลย" "แต่เขมเกรงใจเขา เราอยู่ฟรีๆ ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย เขาไม่ว่าเหรอนา” เขมิกาเอ่ยถามเพื่อนออกมาด้วยความรู้สึกเกรงใจ "นี่ใคร ตัวแม่ของที่นั่นเลยนะ!” ลัลนาพูดพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เพื่อให้เพื่อนรักสบายใจได้ เพราะเธอคือคนคุมที่นี่มีหน้าที่หาเด็กให้กับแขกตามแต่แขกจะขอมา ซึ่งลัลนาทำงานได้ดีจนเจ้าของที่นี่เกรงใจและให้เกียรติเธอ ในการตัดสินใจเมื่อลัลนาคือผู้จัดการในสถานเริงรมย์แห่งนี้ "ถ้ายัยหนูโตพอจะเข้าโรงเรียนได้ เขมก็จะออกหางานทำทันที "เรื่องนั้นค่อยว่ากันอีกที นาพอมีเงินเก็บอยู่บ้างเดี๋ยวจะเลี้ยงยัยหนูช่วย" "นาเก็บไว้เถอะ ครอบครัวนาก็ตั้งหลายคน เฉพาะพวกเขานาก็รับผิดชอบจะแย่อยู่แล้ว ไหนน้องนาจะเรียนอีก สำหรับยัยหนูมาเรียม เขมพอมีเงินเก็บอยู่บ้างไม่เป็นไรหรอกขอบใจนะ" "ถ้าขาดเหลือยังไงก็บอกแล้วล่ะกัน นาช่วยได้ก็ยินดีช่วยเขมเสมอ เวลานาเดือดร้อนเขมยังไม่เคยทิ้งนาเลย นายังจำได้ดีนะ ตอนที่นาไม่มีเงินไปโรงเรียนไม่มีข้าวกิน เขมเป็นคนเดียวเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือมาช่วยนา” ทั้งสองส่งสายตาให้กันพร้อมกับจับมือแล้วส่งยิ้มบางๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เขมิกาก็ตั้งใจไว้แล้ว สำหรับมาเรียมเธอจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เด็กคนนี้มีชีวิตและอนาคตที่ดีให้ได้ ไม่ว่าเธอจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม บ้านรชนิศภานุพงษ์ หลายเดือนผ่านไปหลังจากที่แชมเปญได้คลอดลูก เธอก็ไม่ได้แยแสหรือดูแลทารกน้อยเลยสักนิด เธอเอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ โดยปล่อยให้แม่นมของชยันต์เป็นผู้เลี้ยงและดูแลแทน "นี่! แชมเปญ! คุณจะออกไปไหน ดูแลลูกบ้างสิ ไม่ใช่ทำตัวอย่างกับสาวๆ เที่ยวไปวันๆ แบบนี้” "โอ๊ย! น่าเบื่อ! จะอะไรกันนักกันหนาก็แค่เด็กคนเดียว แม่บ้านตั้งหลายคนหรือจะจ้างพี่เลี้ยงเพิ่มก็ได้นะ เดี๋ยวแชมเปญจะบอกคุณพ่อให้" หญิงสาวพูดจาโวยวายออกมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่กระฟัดกระเฟียด "มันไม่เกี่ยวกันหรอกแชมเปญ คุณเป็นแม่ ควรจะดูแลให้ความอบอุ่นกับลูกบ้าง ไม่ใช่ออกนอกบ้านทั้งกลางวันและกลางคืนแบบนี้” "คุณไม่ต้องมาสั่งฉัน! ขนาดพ่อของฉันยังไม่เคยว่า หน้าที่ของคุณคืออะไรทำงานหาเงินเข้าบ้านไม่ใช่เหรอ ก็ทำไปสิ! ส่วนเด็กนั่นก็ให้นางพวกนั้นเลี้ยงไป” หลังจากพูดจบประโยค แชมเปญพก็เดินกระทืบเท้าปังๆ ออกจากบ้าน แล้วรีบขับรถออกไปทันทีปล่อยให้ชยันต์ยืนถอนหายใจอยู่ตรงนั้น เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับสิ่งที่เธอทำ เมื่อแชมเปญไม่ให้ลูกดูดนมจากเต้าด้วยซ้ำ เพราะกลัวว่ามันจะเสียทรง แม้ชยันต์รู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขา แต่ก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เมื่อเด็กไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ซึ่งเธอโชคร้ายที่มาเกิดในท้องของแชมเปญ เธอเป็นมารดาที่ไม่เคยแม้แต่จะอุ้มลูกด้วยซ้ำตั้งแต่คลอดออกมา แชมเปญได้ลูกสาวชื่อว่าชนัญ แปลว่าว่าคนที่แตกต่าง เพราะเธอแตกต่างจริงๆ เมื่อมีแชมเปญเป็นแม่และชยันต์เป็นพ่อด้วยเหตุผลที่เขาต้องจำยอม ไม่สามารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบนี้ไปได้ เวลาที่เขามองหน้าเด็กน้อยคนนี้ทีไร ทำให้นึกถึงผู้หญิงอีกคน ถ้าลูกของเขายังอยู่ป่านนี้เธอก็คงจะคลอดแล้ว เมื่อนึกถึงเขมิกาทีไร ชยันต์ก็มักเดินเข้าไปในห้องของชรัญเสมอ เพราะของทุกอย่างเขาเก็บมันเอาไว้ที่นี่เพื่อรอให้เขมิกากลับมาทั้งที่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงไม่มีวันจะเป็นไปได้ แต่เขาก็ยังหลอกตัวเองว่าสักวันเขมิกาจะกลับมาพร้อมกับลูกน้อย เมื่ออยู่ลำพังน้ำตาของลูกผู้ชายอกสามศอกได้ไหลหยดลงมาอีกครั้ง กรอบรูปงานแต่งที่มีเขาเป็นเจ้าบ่าวเขมิกาเป็นเจ้าสาว ใบหน้าอันงดงามที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้ชยันต์นึกถึงวันที่เขาพรากทุกอย่างไปจากเธอ ตั้งแต่วันที่เขาเดินเข้ามาในชีวิตของเขมิกา รอยยิ้มนั่นก็ค่อยๆ จางหายไปพร้อมกับรอยน้ำตาที่เข้ามาแทนที่ ใครจะดูแลเธอเวลาท้องแก่ เดินเหินคงลำบากแย่ โดยเฉพาะเวลาคลอดเธอจะหากำลังใจได้จากที่ไหน ใครจะพาเธอไปทำคลอด ลูกของเขาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ใบหน้าจะเหมือนพ่อหรือแม่กันนะ นั่นคือคำถามที่เขาไม่สามารถหาคำตอบได้ มีเพียงน้ำตาที่เป็นเพื่อนคอยบรรเทาให้กับเขาได้บ้าง แต่ความรู้สึกผิดที่เขาทำไว้กับเขมิกา มันไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลยสักนิด ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากชดใช้ให้เธอด้วยชีวิต
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม