“นั่นคือหน้าที่ของคนเป็นพ่อ แล้วคุณพ่อคนเดียวบนโลกใบนี้หรือครับที่มีสิทธิ์เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง”
“ไอ้หัส!”
“นี่!” แขไขแม้จะตกใจและเสียใจกับสถานการณ์ในตอนนี้ แต่ลูกชายเพียงคนเดียวก็ยังคงสำคัญที่สุดยิ่งกว่าชีวิตของเธอ เธอขวางสามีที่กำลังจะเข้าทำร้ายลูกชายอีกครั้ง
“ตกลงคุณอยากให้มันทำตามที่มันต้องการอย่างงั้นเหรอ”
“ไม่! แต่ฉันไม่ยอมให้คุณทำร้ายลูกเด็ดขาด” หาญรัชพยักหน้าถี่ๆ เพราะภายในใจเขาก็ยังมีพวกอยู่
“ถ้าฉันไม่เซ็นต์ แกก็ไม่สมหวัง”
“ถ้าคุณพ่อไม่เซ็นต์ ผมก็จะปลอมลายเซ็นต์คุณพ่อแต่ถ้าหากในวันข้างหน้าทางโรงเรียนทราบ ในตอนนั้นผมก็ยินดีรับโทษทัณฑ์ทางกฎหมาย ผมก็ขออภัยคุณพ่อล่วงหน้าที่จะต้องอับอายขายหน้า”
“คุณได้ยินมั้ย...” หาญรัชโกรธจนตัวสั่นเสียงสั่น เมื่อไหร่กันเขาก็จำไม่ได้แล้วที่จู่ๆ ลูกชายที่เขารักและรักเขากลับกลายเป็นดั่งน้ำกับไฟที่ไม่อาจอยู่ใกล้กันได้ “ฉันจะตัดแกออกจากกองมรดก” เสียงคำรามบ่งบอกถึงที่สุดของทุกอย่าง สองคนที่ได้ยินจะต้องเกรงกลัวคำประกาศิตนี้ แต่หาญรัชถูกแค่ครึ่งเดียว เพราะผู้ที่เกรงกลัว
กรี๊ดดดด แขไขกรีดร้องเสียงดังลั่น “คุณหาญรัช!” พร้อมเสียงตะโกนดังลั่น “คุณมันสารเลว คุณมันชั่ว คุณรอโอกาสนี้มาตลอดใช่มั้ย เอาสิ! ถ้าคุณกล้าทำร้ายลูก ฉันจะฟ้องคุณให้คุณสูญเสียทุกอย่าง” หาญรัชเม้มปากแน่น เมียเขาทำไมถึงโง่งี่เง่าขนาด ซึ่งถ้าเธอไม่โง่ไม่งี่เง่าสถานการณ์วันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
“ก็ได้!” หาญรัชคล้านจะเอ่ยอะไรทั้งสิ้น เขาดึงปากกาออกมาจากกระเป๋าด้านในของเสื้อสูทและดึงเอกสารในมือภรรยาคืนมา เขาจรดปากกาเซ็นต์ชื่อยินยอมในเอกสารที่ถือมาในทันที “ขอให้ลูกบังเกิดเกล้าของคุณจงเจริญ!” สิ้นคำประชดประชันเอกสารดังกล่าวก็ปลิวว่อนและค่อยๆ ล่วงหล่นสู่พื้น ความเงียบบังเกิดขึ้นโดยรอบโดยทันที
เป็นหัสวีร์ที่ก้มลงหยิบเอกสารขึ้นมาเขาเก็บใส่ซองด้วยใบหน้าราบเรียบ และเขาก็หันไปยิ้มให้คุณแขไข แม่ผู้ที่รักและปกป้องเขาอย่างไร้ข้อจำกัด
“หัส! ทำไมลูกถึงทำแบบนี้...” หัสวีร์ก็ยังคงยิ้มอบอุ่น แต่คำพูดที่เอ่ยออกมากลับทำให้คุณแขไขอยากจะเป็นลม
“เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต” พูดจบเขาก็โอบกอดร่างผู้เป็นแม่ที่แข็งทื่อทีหนึ่งก่อน ก่อนที่จะกล่าวขอตัวและเดินกลับขึ้นห้องนอนของตัวเองไปอย่างสงบ