“มันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเขา... ที่บ้านคุณลุงก็ไม่ได้สนใจด้วยว่าฉันจะทำอะไรที่ไหนกับใคร”
“เพราะคิดแบบนี้สินะ ถึงเนรคุณได้อย่างเลือดเย็น เขาให้ที่ซุกหัวนอน ให้ข้าวแดงแกงร้อนราดหัวมาตั้งเท่าไหร่ พ่อกับแม่ของสรวงไม่เอามาเลี้ยง เธอก็คงกลายเป็นหมาข้างถนนตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยไปแล้ว!”
“ฉันไม่ได้ทำ! จะให้ทำยังไงคุณถึงจะเชื่อสักทีว่าฉันไม่รู้เรื่องด้วยเลย ต่อให้ถูกทรมานจนตายหรือฆ่าทิ้งตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์” เธอเอ่ยน้ำเสียงสั่นปนหอบ คนตัวใหญ่ที่อยู่เหนือร่างมองเห็นได้เพียงเงาตะคุ่มๆ จากแสงสว่างน้อยนิดทางด้านนอก ที่ลอดผ่านประตูซึ่งยังคงเปิดค้างอยู่
“ไม่ดีกว่า... ความตายมันง่ายเกินไป ต่อให้ตายซ้ำตายซากสักร้อยครั้งพันครั้ง น้ำหน้าอย่างเธอก็ชดใช้สิ่งที่ฉันสูญเสียไปไม่ได้หรอก วาปี ถ้าอยากตายนัก... ก็มีลูกให้ฉันก่อนเถอะ!!” พูดจบ เขาก็โน้มใบหน้าเข้าหา
วาปีพยายามเบี่ยงหลบ ดิ้นรนทุกอย่าง แต่กลับยิ่งทำให้เธอเจ็บปวดมากขึ้นจากแรงกดรัดของเขา
“อย่านะคุณกันต์!! คุณเกลียดฉัน รังเกียจฉันมาก แล้วกล้าทำอะไรบ้าๆ แบบนี้กับฉันได้ยังไง!”
“ฉันเป็นผู้ชาย...” เขาชะงัก ลมหายใจหอบแรงยิ่งกว่าเก่า น้ำเสียงทุ้มนั้นเย็นเยียบ “เวลาผู้ชายจะนอนกับผู้หญิงสักคน... มันไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้สึกดีๆ ด้วยสักหน่อยนี่ ก็แค่อยากแล้วก็ทำให้หายอยากมันก็จบ!”
“อื้อ!!”
น้ำเสียงของเธอถูกกลืนกลบในทันควัน เมื่อริมกลีบปากบางเฉียบที่กำลังขยับประท้วงความเป็นธรรมถูกประกบจูบ รุนแรงจนรู้สึกเหมือนกำลังถูกบดให้แตกยับ เธอดิ้นพราดๆ พยายามเด้งตัว ดันคนเหนือร่างให้หลุดพ้นออกไป แต่ยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่... ก็ยิ่งเหนื่อย ยิ่งเจ็บปวดมากเท่ากัน
แต่ยังหรอก มันยังไม่ใช่ความร้าวร้านที่แท้จริง...
“มีแรงเท่าไหร่ก็ดิ้นไป วาปี... ดิ้นเยอะๆ เพราะฉันชอบ มันตื่นเต้นกว่าการที่เธอนอนเฉยเป็นท่อนไม้เป็นไหนๆ”
“คุณกันต์... ฉันไม่ได้รับข้อเสนอคุณสักหน่อย ปล่อยฉันนะ!”
“ฉันแค่บอกข้อเสนอ... ไม่ได้ต้องการคำตอบจากเธอ...” ว่าแล้วรวบมือเล็กทั้งสองข้างตรึงไว้เหนือศีรษะของเธอ
ริมฝีปากหยักหนา อุ่นระอุไปทุกๆ สัมผัสในยามที่แตะถูกผิวเนื้อ หญิงสาวน้ำตาริน แต่กัดฟันข่มเสียงสะอื้นเอาไว้ หัวใจเต้นระส่ำด้วยความหวาดกลัว ตกใจ และปวดร้าวไปทุกตารางนิ้วที่ถูกเขาคุกคาม การันต์ยิ่งฮึกเหิม เรี่ยวแรงของเขามหาศาลเหลือเกิน ร่างเล็กทำได้เพียงนอนหายใจหอบ จำยอมอดสูโดยไม่ปริปากร้องขอความเมตตาใดๆ เพราะรู้ว่าคนอย่างเขามันไร้จิตสำนึกสิ้นดี การันต์ซุกไซ้ไปตามซอกคอระหง กลิ่นสาบสาวจางๆ ปะปนกับกลิ่นของแอลกอฮอล์ยิ่งทำให้เขาฟุ้งซ่าน การดื่มเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องปกติ
สำหรับชายหนุ่ม และเขาไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเมามายถึงขั้นหัวราน้ำมาก่อน ถึงอย่างไรก็ยังคุมสติได้อยู่เสมอ ต่างจากตอนนี้ การกระทำของเขาราวกับไร้สัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง
นั่นอาจเป็นเพราะความโกรธ ความเกลียด พิษร้ายจากการสูญเสีย มันซึมลึก เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นสัตว์ร้ายไปเสียแล้ว...
เสื้อผ้าชุดใหม่หลุดลุ่ยออกจากเรือนร่าง คงเหลือไว้แต่กายเปลือยเปล่า ส่วนสัดโค้งเว้าถูกชายหนุ่มลูบคลำ สำรวจทั่วทุกตารางนิ้ว
ข้อมือเล็กทั้งสองข้างได้รับการปลดปล่อย แต่ในตอนนี้... เธอก็อ่อนเปลี้ยเกินกว่าจะทัดทานอำนาจเขาได้ ริมฝีปากอุ่นซ่านพรมจูบไปทั่วใบหน้า เลื่อนลากลงมามอบจุมพิตหนักหน่วงตรงกลีบปากบอบช้ำ สอดลิ้นร้ายล่วงล้ำ ควานหาความหอมหวานภายใน เหมือนไม่รู้จักความอิ่มเอม
มือใหญ่รุกราน กอบกุมทรวงอกงามขนาดเกินตัว ส่งเสียงครางฮือในลำคอเป็นระยะ ราวกับว่ากำลังมอมเมาวาปีให้หลงลืมไปกับรสชาติที่กำลังเพียรป้อนอย่างไม่บันยะบันยัง ชายหนุ่มละริมฝีปากจากบทจูบอันเร่าร้อน ทำให้เธอหายใจหายคอคล่องขึ้น แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งจนตัวโยน เมื่อปากอุ่นชื้นงาบงับ ครอบครองทรวงอกอวบงามเสียแทน “หยุดนะ! หยุดเถอะ... ฉันขอร้อง อย่าทำอีกเลย” น้ำเสียงของเธอสั่นพร่า แต่ก็ทำให้เขาหยุดการกระทำไม่ได้
“ปากบอกให้หยุด แต่ร่างกายของเธอมันตอบสนองฉันอย่างกับอะไรดี รู้งานเหมือนกันนี่...” เขาว่า ก่อนจะแกล้งใช้เรียวลิ้นปาดเลียตรงยอดอกชูชัน ทำให้ร่างเล็กดีดเด้งหนีราวกับโดนของร้อน เต้าอวบอีกข้างถูกมือใหญ่กำเคล้นไม่ออมแรง เธอแอ่นหยัด บิดส่ายตามจังหวะไปโดยอัตโนมัติ หวังจะหนีจากเงื้อมมือมัจจุราช แต่กลับกลายเป็นว่า... ได้เชื้อเชิญให้เขาดื่มด่ำ สูบกลืนตัวเธอหนักหน่วงกว่าเดิม
การันต์ละปากจากอกตูมอีกข้างไปยังอีกข้าง สลับกับใช้มือนวดเฟ้น หญิงสาวพยายามผลักไสเขาด้วยแรงอันน้อยนิด ร่างใหญ่ก็ไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด เขาผละจากภารกิจสวาท ลุกนั่งทั้งที่ยังคร่อมเธออยู่ แล้วจัดการถอดเสื้อออกจากตัวด้วยความรีบร้อน ขณะที่ร่างเล็กได้แต่ยกมือขึ้นกอด ปกปิดตัวเอง แล้วพลิกหนีตัวที แม้จะอยู่ในความมืดสลัว แต่ก็ยังรู้สึกกระดากอาย
“มานี่!”
“ปล่อย!”
เขาคว้าตัวเธอมาจับขึงพืด ร่างใหญ่เปลือยท่อนบนมองเธอผ่านความมืด แต่วาปีก็รับรู้ได้ว่าเขาน่ากลัวแค่ไหน ลมหายใจของเขาร้อนผ่าว หอบแรงด้วยความกระหาย ยืนยันคำพูดว่าเขาไม่มีวันปล่อยเธอให้อยู่อย่างเป็นสุขอีกต่อไป
“บอกมาสิว่าพี่ชายเธอมันอยู่ที่ไหน... แล้ววันนี้จะยอมปล่อยไปสักวัน”
“ฉันไม่รู้ คุณกันต์... ไม่รู้จริงๆ อย่าทำแบบนี้เลย” เธออ้อนวอนอีกครั้งเมื่อได้โอกาส หวังจะกระตุ้นให้เขารับรู้ผิดชอบชั่วดี แม้ความหวังจะเหลือเพียงน้อยนิดก็ตาม
สองแก้มเปื้อนน้ำตาที่รินไหลอย่างสุดจะเก็บกลั้น ความเจ็บปวดไม่ได้เกาะกินแต่เพียงเรือนร่าง หากยังจุกแค้นแน่นอยู่ในอก เกิดมาก็กำพร้าพ่อแม่ ไร้คนปกป้อง เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ค่า ไร้ความหมาย ใครจะทำดีทำชั่วกับเธออย่างไรก็ได้ ราวกับไม่ใช่คนด้วยกัน...
“งั้นก็รีบมีลูกซะ ฉันจะได้รีบไสหัวไปให้พ้นๆ หึ...” น้ำเสียงของเขาเหี้ยมเกรียมขึ้นในทันที ออกแรงบีบแขนเล็กที่จับกดเอาไว้แรงขึ้นจนเธอร้องครวญ แต่คนใจดำไม่นึกแยแส... เขาทาบตัวลง มอบทัณฑ์บาปหนา ที่เธอจะไม่มีวันชะล้างให้สะอาดบริสุทธิ์ดังเดิมได้ตลอดกาล
ริมฝีปากอุ่นร้อน ซุกไซ้พรมจูบไปทั่วเพื่อกระตุ้นความเร่าร้อนในตัวให้เดือดพล่านอีกครั้ง สองมือใหญ่ตะปบกำ เคล้นไปตามส่วนสัดได้รูป จมูกกดซุก สูดเอากลิ่นสาบสาวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยไม่ต้องมีน้ำหอมน้ำปรุงมาแต่งเติม ยิ่งคลุกเคล้ากับกลิ่นวิสกี้ชั้นหนึ่ง ยิ่งเร้าอารมณ์...
วาปีได้แต่กระซิกสะอื้นเบาๆ เพราะยามใดที่เธอประท้วงขอความปรานี เขาจะจูบ บดขยี้จนกลีบปากเจ็บร้าว แตกยับ คนตัวใหญ่ผละห่างอีกครั้งเมื่อสามารถกำราบเธอให้สงบลงได้ แล้วรีบถอดกางเกงยีนและชั้นในออกจากตัว เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าสมบูรณ์แบบ แสงสลัวสาดส่องให้มองเห็นส่วนสัดรางๆ ร่างเล็กยังไม่ละความพยายามกระเถิบหนี ก็ถูกกระชากลากดึงกลับมานอนแผ่หลาเช่นเดิม แล้วซุกใบหน้าไซ้ซบผิวกายสาวแรกแย้ม ราวจะตีตราประทับบาปฝังไว้ในทุกอณูเนื้อ
หญิงสาวยังพยายามปัดป่าย ทั้งทุบทั้งหยิกข่วนผู้มีกำลังเหนือกว่า แต่เขาก็ทนทานเหมือนอิฐเหมือนหิน นอกจากจะไม่สะทกสะท้านแล้วยังส่งเสียงครางฮือเป็นระยะ และจับจูบลูบคลำเธอหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่ข้างหนึ่งขยำกำเคล้นเต้าอวบ อีกข้าง... ก็เลื้อยลงไปฟอนเฟ้นอยู่ตรงท้องน้อย แล้วไล่ต่ำลงมา
“อื้อ! คุณกันต์ อย่า!”
“อย่าช้า... หรืออย่าหยุดดีล่ะ” เขาเย้ยหยันด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ตะปบฝ่ามือลงบนเนินอวบอูม แล้วครางกระหึ่มในลำคอ ซบใบหน้าลงตรงกลางระหว่างสองปทุมมาลย์ แล้วกดปลายนิ้วแทรกสู่ความอุ่นชื้นของเธอ...
วาปียกสะโพกหนี... หัวใจของเธอที่เต้นระทึกอยู่แล้วยิ่งแปลบปลาบวูบไหวมากกว่าเดิม หวีดร้องเสียงหลงด้วยความตื่นตระหนก สิ่งที่ไม่เคยพบพาน ไม่เคยมีบุรุษเพศคนใดได้ล่วงเกินมาก่อน กำลังจะเกิดขึ้นกับคนไม่ถูกไม่ควร
ร่างเล็กยิ่งสั่นไหว เขาก็ยิ่งกรีดนิ้วเสียดสี แล้วกดลึกสู่ความหฤหรรษ์ เมื่อนั้นเธอก็เกร็งจนตัวแข็ง ไม่กล้ากระดิกตัว ไม่กล้าส่งเสียง แม้แต่ลมหายใจก็ยังชะงักงัน
“อย่าบอกนะว่ายังไม่เคย...” เขาถามด้วยน้ำเสียงกระเส่า เป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบแต่อย่างใด เพราะเขากำลังลงมือพิสูจน์ด้วยตัวเองอยู่แล้ว และบัดนี้วาปีก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะสนทนากับเขาได้อย่างรู้ความ
เธอสับสนไปหมด เมื่อร่างกายและสติสัมปชัญญะกำลังทำงานสวนทางกัน ธรรมชาติอันดิบเถื่อนของมนุษย์ กระตุ้นให้เธอเตลิดไปกับสัมผัสที่ชักนำไปในทางมิชอบ สะโพกผายแอ่นย้าย หลบหนีนิ้วร้ายที่กำลังจาบจ้วงลึกสุดกำลัง แต่ยิ่งขยับ... ความรู้สึกก็ยิ่งดำดิ่ง จากที่เคยพยายามถอยห่าง กลับกลายเป็นโหยหาอย่างน่าละอาย เหมือนจะหลุดลอยอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ แต่แล้วเขาก็หยุดมัน... ทำให้ร่างเล็กหล่นวูบลงบนที่นอนนุ่ม หายใจหอบ ครวญครางคล้ายปวดร้าวเสียยิ่งกว่าในยามที่ถูกล่วงละเมิด
“ใจเย็นๆ... มันยังไม่จบง่ายๆ หรอกวาปี...” เขาว่า แต่คู่สนทนาไม่ได้มีใจจะรับฟัง เธอพลิกตัว เอียงซบใบหน้าลงกับที่นอน ในขณะที่เขากำลังยกขาเรียวเล็กข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่า แล้วกดเอวสอบเข้าหากลางลำตัว
“คุณกันต์!” ร่างเล็กหวีดร้อง เธอดิ้นหนีเมื่อความเจ็บปวดคืบคลานเข้าฉีกทึ้งทุกความดีงาม
มือใหญ่ของเขากลับกดตรึงสะโพกผายเอาไว้ ให้จำนนต่อความสูญเสียโดยดุษณี... เสียงครางกระหึ่มประกาศความเป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์ ไม่ยี่หระแม้ร่างเล็กจะเกร็งเครียดจนสั่นระริก “เยี่ยมยอด...” เขาเอ่ยชมเสียงพร่า ตามด้วยถ้อยคำสบถที่จับใจความไม่ได้ ขณะกดฝังตัวเองอยู่ในกายเธอจนสุดทางเสน่หา แล้วหยุดนิ่งชั่วครู่ จนร่างเล็กผ่อนคลาย แล้วจึงเริ่มขยับอย่างใจเย็น “ทำให้เธอเจ็บมันง่าย...
แต่ฉันจะทำให้เธอสมยอมมันสะใจกว่า” ไม่วายที่เขาจะยังคงพูดพร่ำส่อเสียดให้ใจเจ็บ
“คุณมันเลว!” เธอออกแรงด่าทอ แต่น้ำเสียงเล็ดลอดออกมากระท่อนกระแท่นเต็มที
เขาไม่โต้ตอบ แต่จับใบหน้าของเธอพลิกกลับมา แล้วก้มลงบดจูบนัวเนีย พลางสอดลิ้นพัวพัน ริมฝีปากดูดเม้ม ขบเลีย เหมือนเป็นการทำโทษ ทั้งที่คำว่า ‘เลว’ มันยังเล็กน้อยนัก เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาทำ!
กว่าการันต์จะยอมรามือ หญิงสาวก็แทบขาดอากาศหายใจ มือเล็กที่ดึงทึ้งผ้าปูที่นอน เปลี่ยนทิศทางมาเกาะกอดร่างแข็งแกร่งของเขาไว้ แล้วจิกคมเล็บลงสู่ผิวเนื้อกระด้าง เมื่อเขาเร่งจังหวะขยับโยกรุนแรงขึ้น
ไม่รู้สวรรค์หรือนรกที่เขากำลังนำพาเธอไป... แต่วาปีก็ไม่อาจต้านทานต่อเพศรสได้ ยิ่งถูกเขาเล้าโลมไปพร้อมๆ กับการรุกรานล้ำลึก ความเจ็บร้าวก่อนหน้าก็เลือนหายไปจากความรู้สึกจนหมดสิ้น มวลคลื่นแปลบปลาบบางอย่างแทรกซ้อนเข้ามาแทนที่ ชักนำให้เธอตอบสนองอย่างไม่ประสีประสา โดยไม่รู้ตัว...
“เธอว่าฉันเลว ฉันก็จะเลวให้เธอประทับใจ วาปี...”
ผู้ชายที่ผ่านโลก ผ่านประสบการณ์มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำอย่างเขา มีหรือจะไม่รับรู้อาการของเธอ แม้จะเอ่ยปากเย้ยหยัน แต่ก็ยอมปลดปล่อยให้เธอล่องลอยสู่ความหฤหรรษ์แต่โดยดี เพียงกระหน่ำเข้าหา แนบแน่น ถี่ยิบ ไม่กี่ครั้ง แล้วดันลึกสุดกำลังในจังหวะสุดท้าย ทุกอย่างก็จบสิ้น...
สองมือเล็กที่เคยกอดรัดเขาไว้ ราวจะหลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วงหลุดลงบนที่นอนด้วยความอ่อนเปลี้ย หญิงสาวแผ่หลา หายใจหอบอยู่ใต้ร่างใหญ่ แต่ก็ถูกเขายกรวบเอาร่างระทวยมาไว้ในอ้อมกอด รัดแน่น... แล้วเริ่มบทรักอันเร่าร้อนครั้งสุดท้าย กระแทกกระทั้นตัวตนสุดกำลัง เพื่อให้ตัวเองได้สุขสมบ้าง
วาปีโยกคลอนไปตามแรงเพราะตัวเล็กกว่าเขาเป็นไหนๆ แต่เธอก็ไม่เหลือสติจะต่อต้าน เพียงไม่นาน ปรารถนาอุ่นร้อนทุกหยาดหยดก็ถูกฝากฝังเอาไว้ในตัวเธอ ตอกย้ำความตั้งใจอันแน่วแน่ของเขา...