ช่วงดึก... ในที่สุดการรอคอยก็จบลง เธอนั่งอยู่บนเตียง และยืนขึ้นมองไปยังประตูห้องทันทีเมื่อได้ยินเสียง แต่พอเห็นว่าเป็นใครก็ทรุดตัวลงบนเตียงดังเดิมพลางถอนหายใจ
“ป้าแมวยังไม่นอนเหรอคะ” เธอถามแม่บ้านที่เป็นคนไทย ซึ่งการสนทนาจะเป็นลักษณะถามคำตอบคำ แต่ก็เป็นคนที่คุยด้วยกับเธอมากที่สุดแล้ว
“นายให้เอานี่มาให้คุณค่ะ...” แกยื่นไอแพดในมือส่งให้โดยไม่มองหน้า
“แล้ว... คุณกันต์ไปไหน คืนนี้เขาจะไม่มาเหรอ”
“ไม่ทราบค่ะ” พูดจบป้าแมวก็ก้มหน้าเล็กน้อย แล้วรีบหันหลังเดินออกไปจากห้อง โดยไม่ลืมปิดประตูให้เรียบร้อย
ไอแพดไม่ได้ล็อกหน้าจอ และเปิดแอปพลิเคชันวิดีโอค้างเอาไว้ เธอจึงไม่รีรอที่จะเปิดเล่นคลิปนั้น เมื่อมันโชว์ภาพพี่ชายของเธอในลักษณะที่กำลังถูกควบคุมตัวโดยผู้ชายสามสี่คน และส่งตัวเขาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
โพธิ์ทองก้มหน้ารับชะตากรรมเมื่อถูกสวมกุญแจมือ ตามตัวเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ แม้เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้ว แต่ก็ยังมีคราบเลือดซึมติดอยู่ประปราย คลิปวิดีโอถ่ายทอดตั้งแต่ตอนพาตัวลงจากรถขึ้นไปบนโรงพัก แล้วถูกพาไปนั่งตรงโต๊ะของร้อยเวรเพื่อสอบสวน จากนั้นจึงตัดไป เพียงเท่านี้ก็ยืนยันความมั่นใจได้เกินพอแล้ว
โล่งอก... และเป็นความรู้สึกแรกที่ทำให้ยิ้มได้ ต่อให้สภาพของพี่ชายจะสะบักสะบอมจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ก็ได้แค่คิดว่านั่นเป็นผลกรรมที่เขาต้องรับ บุญเท่าไหร่แล้วที่คนสูญเสียไม่คิดเอาให้ถึงตาย
“คุณแม่พี่โพธิ์รู้เรื่องหรือยังนะ ถ้าติดต่อกันไม่ได้คงเป็นห่วงแย่...” ไม่วายเป็นห่วงครอบครัวที่แคนาดาของพี่ชาย ทั้งที่ตัวเองก็ตกที่นั่งลำบากไม่ต่างกัน
วาปีพยายามเปิดใช้แอปพลิเคชันอื่นๆ ในไอแพด แต่ไร้ผล เครื่องไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต การันต์ตั้งใจส่งมันมาเพื่อให้เธอดูคลิปพี่ชายเท่านั้น เธอจึงนำมันไปวางไว้บนหัวเตียง แล้วเตรียมตัวเข้านอน เพราะดึกมากแล้ว และเธอก็ไม่ได้พักผ่อนเลยตั้งแต่คืนวาน เพียงแค่ศีรษะวางถึงหมอน หญิงสาวก็หลับลึกแทบจะในทันทีด้วยความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ แต่กลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์ และการเคลื่อนไหวรุนแรงทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่น มันเหมือนฝันร้ายซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็ไม่ชินสักที
“คุณ...” ลึกๆ ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเขา การันต์มักล่วงล้ำเข้ามาในยามที่เธอกำลังหลับใหลเสมอ จนตอนนี้การนอนได้กลายเป็นเรื่องอันตรายอันดับต้นๆ สำหรับเธอแล้ว เมื่อต้องอยู่ในเงื้อมมือของเขา “พี่ชายเธอ... มันยังไม่ตาย...”
วาปียันตัวนั่ง แล้วขยับหนีร่างใหญ่ที่อยู่บนเตียง และกำลังคลานเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ กลิ่นเหล้าฟุ้งจนต้องเบือนหน้าหนี น้ำเสียงและท่าทีบ่งบอกว่าชายหนุ่มอยู่ในอาการเมาหัวราน้ำเลยทีเดียว
“ฉันเห็นแล้ว... แต่คุณเมามาก คุณควรไปพักผ่อน”
“ฉันตั้งใจให้เมา... เพราะถ้าไม่เมา ก็เอาเธอไม่ลง!!” เขาโถมตัวเข้าหาแล้วจับเธอกดไว้ใต้ร่างอย่างง่ายดาย
ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าจุดจบมันจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ได้รู้เหตุผลเพิ่มเติมว่าทำไมเมื่อคืนวานเขาถึงไม่ทำอะไรเธอ
“คุณกันต์! ฉัน... ขอเวลาฉันหน่อยได้ไหม ขอร้องล่ะ ไม่ว่ายังไงฉันก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว”
“ทำให้ทุกอย่างมันจบเร็วๆ ไม่ดีกว่าเหรอ...”
“แต่...”
“เลิกอ้างโน่นอ้างนี่เสียที น่ารำคาญ”
ริมฝีปากอุ่นหนาประกบจูบอย่างไม่รีรอ บดเบียดนัวเนียราวกับต้องการจะกลืนกินเธอเสีย หญิงสาวดิ้นรนต่อต้าน ไม่ได้คิดสมยอม แต่เมื่อถูกกดตัวแรงขึ้นก็นิ่งไป ด้วยรู้ตัวดีว่าต่อให้ดิ้นจนขาดใจตายอยู่ตรงนี้ เขาก็ยังทำทารุณเธอได้โดยไม่ใส่ใจหรือนึกเวทนา...
เมื่ออาการต่อต้านอ่อนลง เขาก็ผ่อนแรงในการรุกเร้าตามไปด้วย ในขณะที่มือไม้ก็สาละวนอยู่กับการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอจนเหลือแต่ตัว การันต์ไม่ละเลยที่จะสำรวจทุกส่วนสัดความสาว ริมฝีปากฉกชิมผิวเนื้อละเอียดอ่อนด้วยความหิวหื่น
ร่างเล็กบิดส่ายอย่างไม่ประสา เธอหายใจแรงขึ้นทุกขณะ สองมือเล็กเกาะไหล่ของเขาไว้แน่นในขณะที่ถูกชายหนุ่มโลมเลียไปทั้งตัว ความรู้สึกแปลกใหม่ค่อยๆ ซึมซับเข้ามา ทั้งที่จิตใต้สำนึกพยายามฝืนไม่ยอมรับ แต่ธรรมชาติของเพศรสไม่ใช่สิ่งที่ใครจะหยุดยั้งกันได้ง่ายๆ เด็กสาวที่อ่อนต่อประสบการณ์อย่างเธอ ไม่ได้เข้มแข็งพอที่จะเอาชนะอารมณ์อันอ่อนไหวนี้
การันต์ครอบงำเธอ... ชักจูง นำพาด้วยเล่ห์เหลี่ยมที่เธอไม่เท่าทัน เขาช่ำชองจนเธอแทบสำลักในบทสังวาส หลงลืมความเป็นตัวตนไปหมดสิ้น กว่าจะรู้ตัวอีกที... เขาก็ชำแรกแทรกตัว กลายเป็นหนึ่งเดียวกันเสียแล้ว
“ชักจะติดใจเธอแล้วสิ... วาปี” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า กระท่อนกระแท่น ขณะขยับโยกเป็นจังหวะอยู่ด้านบน สองขาเรียวเล็กถูกยกขึ้นพาดบ่า และเขาโน้มลงมากอดรัด จนหน้าขาของเธอเกือบจะแนบถึงอกสะพรั่งของตัวเอง
วาปีหายใจหอบถี่ จิกดึงผ้าปูที่นอนจนหลุดลุ่ยออกจากฟูก เสียงเนื้อกระทบกันในยามที่เขากระแทกกระทั้นตัวเข้าหา ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ
มันเจ็บปวด... หนักหน่วง กระนั้นเธอก็ยังรู้สึกขาดหาย และแอ่นสะโพกรับการโรมรัน กระหายการเติมเต็มจากเขาที่เคยได้พบพานมาแล้วครั้งหนึ่ง หญิงสาวไม่แน่ใจว่าแอลกอฮอล์ในตัวเขามันซึมผ่านมาถึงเธอได้หรืออย่างไร จึงได้หลงใหลมัวเมาไปกับเรื่องน่าบัดสีนี้ราวกับคนเสียสติ
“คุณกันต์...”
“มันไม่จบง่ายๆ หรอกแม่ตัวดี” เขาว่าอย่างรู้ทัน ขณะที่หญิงสาวเกร็งตัวและส่งเสียงครางแหบพร่า
“ฉัน...” เธอมองผู้กำชัยเหนือกว่าท่ามกลางความมืดสลัว เมื่อเขาหยุดราวจะกลั่นแกล้งให้ทรมาน ร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผาอยู่อย่างนั้น
“เป็นอะไร... บอกสิว่าเป็นอะไร...” กลิ่นน้ำเมายังไม่เจือจาง ยังคงปนเปื้อนอยู่ในลมหายใจอุ่นร้อนของเขา มันสะกดให้เธอเคลิบเคลิ้ม งงงวย ดังต้องมนตรา
ทุกรายละเอียดเกี่ยวกับบุรุษเพศ... เธอไม่เคยรู้มากไปกว่าการอ่านในตำราหรือหนังสือทั่วไป แต่เขาสอนเธอ เขายัดเยียดให้เธอได้ซาบซึ้งในความทรมานอันแสนหอมหวาน ไม่อาจหักห้ามใจได้เลย...
“บ้าเอ๊ย...” เสียงสบถไม่ได้ดั่งใจดังกระหึ่มอยู่ในลำคอ เพราะเธอไม่ยอมเอ่ยปากเว้าวอนอย่างที่ต้องการ
“เจ็บ... คุณกันต์!”
ร่างเล็กถูกพลิกให้นอนตะแคงข้าง เขายกขาเรียวสวยข้างหนึ่งขึ้นสูง แล้วนั่งคร่อมขาอีกข้างเอาไว้ ท่วงท่าใหม่ส่งผลให้การละเมิดล้ำลึก หนักหน่วงขึ้น วาปีกรีดร้อง ระบายอาการปวดหนึบและความเสียวซ่านที่เล่นงานให้เลือดในตัวร้อนฉ่า หัวใจเต้นเร็ว ร่างสะท้าน โยกคลอนไปตามแรงกระแทก
เธอซุกหน้าลงกัดผ้าปูนี่นอนไว้แน่นในจังหวะสุดท้าย ร่างเล็กชื้นเหงื่อ เกร็งเครียด บิดร่อนอย่างเต็มใจให้เขากระทำอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงผ่อนคลาย ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างคนหมดเรี่ยวแรง ในขณะที่ชายหนุ่มยังคงขับเคลื่อนตัวตนไม่บันยะบันยัง
ไม่กี่วินาที... เขาก็ฟุบลงบนร่างเหนื่อยอ่อนของเธอ หายใจถี่แรงเพราะเสียกำลังวังชาไปมากมาย วาปีรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนที่หลั่งไหลเปรอะเปื้อนอยู่ตรงโคนขา เธอพยายามขยับให้เขาหลุดพ้นไปลำตัว แต่
ไม่ได้ผล... การันต์ยิ่งกอดกดไว้แน่น เมื่อลมหายใจเข้าสู่ภาวะปกติ เขาก็เริ่มขยับตัวใส่เธอเบาๆ อีกครั้ง...
“คุณกันต์!!”
วาปีรีบพลิกตัวเมื่อรู้ว่าเขาจะไม่จบง่ายๆ เพียงเท่านี้ สองมือจึงถูกการันต์จับไว้แน่นแล้วรวบกอดร่างเล็กไว้ทั้งตัว บงการให้เธอตกอยู่ในอาณัติโดยไม่มีทางปฏิเสธ
“ครั้งเดียวมันจะไปถึงไหนกัน วาปี... ฉันตั้งใจทำขนาดนี้ก็เพราะอยากให้เธอมีลูกเร็วๆ หรอกนะ” น้ำเสียงเยือกเย็นแว่วผ่านอยู่ในอากาศยามค่ำคืน ที่พระจันทร์แผ่ละอองแสงสาดส่องเข้ามา ละมุนละไม... งดงาม ต่างจากเรือนกายของเธอที่บัดนี้เต็มเปื้อนไปด้วยราคี ไม่มีวันกลับไปบริสุทธิ์ดั่งแสงจันทร์ได้อีก
“แต่เริ่มจะไม่อยากให้ท้องง่ายๆ แล้วสิ...”
ผ่านไปอีกสองสัปดาห์ หลังจากโพธิ์ทองถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่รู้ข่าวพี่ชายอีกเลยว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร แม่และพ่อเลี้ยงของเขาที่แคนาดาจะทราบเรื่องหรือยัง คดีความคืบหน้าไปถึงไหน เป็นห่วงว่าเข้าไปอยู่ในห้องขังแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เธออยากกลับบ้านเกิดเมืองนอนใจจะขาด แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปาก
การันต์มาหาเธอทุกคืน แต่ก็ใช้เวลาทั้งหมดอยู่แค่บนเตียง พอรุ่งสางเขาก็จากไป เป็นเช่นนั้นจนเกือบจะครบเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่เธอมาใช้ชีวิตอยู่แต่ในวิลล่าหลังนี้
บางครั้งก็นึกอยากปลิดชีพตัวเองไปเสียให้พ้นๆ แต่เมื่อนึกถึง พ่อ แม่ และพี่ชาย ก็จำต้องเข้มแข็ง อย่างน้อยถ้ายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ร่วมสายเลือดอีกคน เธอคงจากไปอย่างไม่เป็นสุข
“นายสั่งมาบอกคุณว่าให้แต่งตัวรอค่ะ...” จู่ๆ เสียงป้าแม่บ้านก็เอ่ยขึ้น โดยที่เธอไม่ทันสังเกตว่าเจ้าของร่างท้วมในวัยกลางคนนั้น เข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่
“รอ... รอไปไหนคะ”
“ดิฉันไม่ทราบ”
เป็นอันรู้กัน... ป้าแมวหันหลังเดินออกไปจากห้องทันที ปล่อยให้หญิงสาวนั่งถอนหายใจอมทุกข์อยู่เพียงลำพังเช่นเคย ก่อนจะรีบอาบน้ำ แต่งตัวด้วยชุดจัมป์สูทสั้น คอวี แขนยาว สีน้ำเงินเข้ม เนื้อผ้าชีฟองพลิ้วๆ ซิปหลังยาว มีเชือกผูกเอว
ซึ่งเสื้อผ้าพวกนี้ลูกน้องของการันต์เป็นคนจัดหามาให้ เธอก็ใส่วนไปซ้ำๆ อย่างไม่ค่อยยี่หระ เพราะถึงอย่างไรก็ไม่เคยได้ออกจากบ้านอยู่ดี แต่เมื่อมีคำสั่งให้ ‘แต่งตัวรอ’ ก็อยากให้ตัวเองดูเรียบร้อยในระดับหนึ่ง เธอจึงถักผมเป็นทรงเปียน้ำตกวนรอบศีรษะ และแต่งหน้าอ่อนๆ ด้วยเครื่องสำอางที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้น
หากไม่นึกว่าถูกจับตัวมากักขังเอาไว้ ชีวิตเธอในวิลล่าหลังนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก มีคนคอยดูแล มีอาหารการกินสมบูรณ์ เครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง ยกเว้นการสื่อสารกับโลกภายนอก ไม่ได้ทนตรากตรำทำงานหนัก หรือถูกล่ามโซ่ หน่วงเหนี่ยว อย่างในละครหรือหนังสือนิยายหลายๆ เรื่อง
แต่ในสายตาของการันต์... เธอก็ไม่ได้ต่างจากนักโทษที่เขาต้องการลงทัณฑ์ให้ทรมานที่สุด
มากกว่าความเจ็บปวดทางกาย... ก็คือความร้าวร้านทางใจ