หึงหวง

1599 คำ
อิงฟ้าอยู่ข้างบน เชิญเข้ามาก่อนสิครับ” เขาเปิดประตูกว้างและผายมือเชื้อเชิญให้เสือเข้ามาในตัวบ้าน ก่อนจะปิดประตู แล้วเดินนำเขาขึ้นด้านบน                 เมื่อไปถึงชั้นสองที่เป็นห้องโถงกว้าง สำหรับนั่งเล่นเป็นห้องรับแขกไปในตัว และมีห้องครัวขนาดกะทัดรัด ติดกระจกโดยรอบ เห็นวิวทะเลสวย ๆ ของทั้งอ่าวปอ                 สิ่งที่เสือเห็น คือ อิงฟ้ากับเวนย์กำลังนั่งเอาหัวพิงกัน กำลังดูรูปในมือถือของเวนย์ที่เป็นรูปต่าง ๆ ที่พวกเขาเคยออกไปทริปเที่ยวด้วยกัน เสือหน้าแดงก่ำ ความโกรธพุ่งปรี๊ดขึ้นมาเต็มพิกัด ก้าวขายาว ๆ ถึงโซฟาที่ทั้งสองนั่ง เดฟคว้าร่างของเขาไว้แต่ไม่ทัน รู้ว่าต้องเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นสักอย่างหลังจากนี้แน่ ๆ และคนที่ซวย ก็น่าจะเป็นเวนย์คู่ขาของเขา                 “เฮ้ย...” เสียงเรียกของเสือดังขึ้น พร้อมกับเสียงของเดฟที่ดังขึ้นมาพร้อม ๆ กัน                 “เวนย์ระวัง อิง...” ทั้งสองหันหน้ามาตามเสียง แต่เสือก็ถึงตัวเวนย์เสียแล้วเขาคว้าคอเสื้อเวนย์กระชากขึ้น ก่อนจะส่งหมัดตะบันเต็มใบหน้าของเวนย์ อิงฟ้าถึงกับร้องกรี๊ดออกมา ตามด้วยร่างเดฟที่เข้ามาขวางและพยายามช่วยจับร่างของเสือ                 “หยุดนะ พี่เสือ” เสียงอิงฟ้าร้องห้าม มีเสียงโวยของเดฟผสมโรงร้องห้ามมาด้วย                 “คุณเสือครับ หยุด...อย่าทำอะไรเวนย์” เวนย์ฝรั่งตัวใหญ่แต่หัวใจสาว รั้งรัดร่างเสือที่เข้ามาตะบันหน้าเขา จนเลือดออกปาก สามคนล้มฟุบลงตะลุมบอนกลิ้งไปบนพื้นห้อง                    อิงฟ้ารีบวิ่งเข้าครัวฉวยเหยือกน้ำที่มีทั้งน้ำและน้ำแข็งอยู่ในนั้นจากบนโต๊ะอาหาร วิ่งกลับออกมาแล้วสาดไปที่หน้าของเสือโครมใหญ่ ทำให้ทั้งสามต้องแยกออกจากกันโดยปริยาย                 เดฟรีบเข้าไปประคองเวนย์ ใช้สองมือจับใบหน้าของเวนย์ดูร่องรอยที่ถูกทำร้าย และเช็ดเลือดที่มุมปากให้กับเขา                 “เป็นหมาบ้าหรือไง” เสียงอิงฟ้าตะโกนดังขึ้น จ้องหน้าเสืออย่างเอาเรื่องแบบมาดร้าย รีบวิ่งเข้าไปประคองเวนย์อีกคนให้ลุกขึ้นนั่งบนโซฟา เสือขยับเสื้อที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่ ใช้นิ้วโป้งเช็ดเลือดที่มุมปากของตัวเองเหมือนกัน                 เดฟหันมาจ้องหน้าอิงฟ้า สลับกลับไปมองหน้าเสือ ก่อนจะพูดกับเธอ “อิง ยูไปเคลียร์กับสามียูก่อนไป” แล้วเดฟก็หันหน้าเข้าหาเวนย์แบบขัดใจ                 “เจ็บไหม...” สองคนจ้องหน้ากัน เดฟทำหน้าแดงเหมือนจะร้องเมื่อเห็นร่องรอยบาดเจ็บของคู่ขา อิงฟ้าลุกขึ้นยืน ก่อนจะเอ่ยขอโทษทั้งคู่ พร้อมสายตาที่รู้สึกผิดจริง ๆ                 “เดฟ เวนย์ ไอขอโทษนะ” สิ้นเสียง เสือตรงเข้ามากระชากแขนของร่างสวยตัวปลิว เดินอย่างเร็วโดยไม่เอ่ยขอโทษทั้งสองคนสักคำ                 อิงฟ้าพยายามแกะมือของเขาที่ยึดอยู่กับข้อมือเธอไว้แน่นให้ปล่อยคลายออก แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของเขาได้ เพราะตอนนี้อารมณ์ของพี่เสือมีทั้งโกรธและเต็มไปด้วยพิษลมหึง                   “แหม...ผัวไม่อยู่ไม่กี่ชั่วโมง มาระเริงชู้ ประเคนให้เขาถึงที่เลยนะ” คำพูดเสียดแทงที่จงใจพูดใส่หน้าคนข้าง ๆ                 “ต่อไปห้ามมาที่นี่อีก แล้วถ้าขัดคำสั่ง อย่าหาว่าพี่เสือไม่เตือน” เขาเปิดประตูบ้านออกไปและกระแทกประตูปิดอย่างแรง                 “โครม” จนสองคนที่อยู่บนชั้นสองถึงกับสะดุ้ง หันหน้าเข้ากอดกันกลม                 “Oh my god!” สองหนุ่มคู่ขาอุทานขึ้นพร้อมกัน                 เสือลากเธอไปขึ้นรถของเขาที่จอดอยู่หน้าประตูรั้ว ใช้มือชี้หน้าเธอ ก่อนจะปิดประตูใส่หน้าหนูอิงดัง                 “ปั้ง...” เลี้ยวตัวเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับกระชากตัวรถออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วบรรยากาศในรถเหมือนมีควันมาคุเต็มไปหมด                 อิงฟ้านั่งคอแข็งตามองไปข้างหน้า เห็นว่าเขาไม่ได้เลี้ยวรถเข้าเมือง แต่กลับหักเลี้ยวหัวรถออกนอกเมือง แต่เมื่อใกล้ถึงสะพานสารสินเพื่อข้ามทะเลไปยังจังหวัดพังงา เธอจึงอดรนทนไม่ได้ถามคำถามออกไป                 “จะไปไหนกันคะ อิงจะกลับบ้าน” น้ำเสียงที่ออกมาฟังแล้วดูห้วน ๆ พร้อมตวัดสายตาจ้องมองคนที่นั่งขับรถอยู่ข้าง ๆ อย่างมีอารมณ์                 เขาไม่ตอบได้แค่ปรายตาดูเธอแค่นิดเดียวและกระทืบฝีเท้าส่งแรงเหยียบคันเร่ง กระชากเครื่องยนต์ให้แรงขึ้น ด้วยอารมณ์โมโหที่ยังกรุ่น ๆ อยู่ อิงฟ้าถึงกับอึ้งไปนิดหนึ่งนั่งหันหน้ามองถนนด้วยความเสียววาบ สองมือกระชับจับเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น                 “จะบ้าหรือไง ทำไมขับรถแบบนี้” แต่ไม่วายส่งเสียงแว้ดใส่เขาออกไปอีกด้วยเขาไม่ได้สนใจและยังคงความเร็วไว้ที่จุดเดิม อิงฟ้าได้แต่ลอบหายใจ ปกติพี่เสือโกรธเธอขนาดไหนก็ไม่เคยแสดงกิริยา และความโมโหออกมาแบบนี้                 “กริ้ง กริ้ง กริ้ง” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเอื้อมมือไปกดรับสาย และเสียบหูบลูทูท                 “อืม คุณวินัย” เขาเรียกชื่อคนที่ปลายสาย                 “ฝากดูแลดิสโกและจัดการทุกอย่างแทนผมด้วยนะครับ จะไปต่างจังหวัดสักสี่ห้าวันและคุณวินัยผมฝากช่วยมาม่าแอนนี่ดูแลแขกวีไอพีด้วยนะครับ อย่าให้มีเรื่องเหมือนเมื่อเช้านี้” เสียงเขาสั่งงานไปตามสาย ก่อนจะวางสาย จ้องมองถนนตรงหน้าไม่วางตา                 “จะไปไหนตั้งสี่ห้าวัน อิงไม่มีเสื้อผ้ามาสักชิ้น แล้วไหนจะของใช้ส่วนตัวและเครื่องสำอางของอิงอีก” เธอตวัดน้ำเสียงไม่พอใจ และแสดงความหงุดหงิดออกมา                 “ไม่มีเสื้อผ้าก็ไม่ต้องใส่ อีกอย่างมาฮันนีมูนหลังแต่งงาน คนส่วนใหญ่นอนกันเขาก็ไม่ใส่เสื้อผ้าอยู่แล้ว” เขาจงใจพูดแดกดันเธอ ในเมื่อเขายอมมามากแล้ว จะปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเองก็ไม่มี ต้องดัดสันดานสักหน่อย อีกอย่างยังนึกเคืองที่คลอเคลียกับไอ้ฝรั่งนั่นไม่หายเธอทำท่าจะส่งเสียงกรี๊ดออกมา ใช้มือข้างซ้ายที่อยู่ฝั่งกระจกซัดไปที่กระจกรถด้านข้างเสียงดัง                   “ไม่ต้องกรี๊ดเลยนะ ไม่มีประโยชน์ แล้วที่ทำไปเมื่อกี้ รถมันไม่เจ็บหรอกนะ แต่มือนั้นน่ะเจ็บจริงไหม?” เขาหันไปพูดกับเธอแบบกระแทกเสียง แล้วหันหน้ากลับไปมองถนนเหมือนเดิม                 อิงฟ้าได้แต่นั่งขุ่นมัว หูเริ่มอื้อไปด้วยความโมโห ตาจ้องมองข้างหน้าและสองข้างทางตลอดเวลา                 “ไม่ต้องคิดกระโดดลงด้วย พี่เสือดับเบิลล็อกไว้แล้ว” เขาพูดออกมาเหมือนรู้ใจเธอไปหมด เธอได้แต่นั่งกำหมัดในมือแน่น                   เสือขับรถด้วยความเร็วผ่านช่องเขาลัดเลาะ เข้าทางลัดเพื่อจะเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งใจว่าจะพาเธอไปสงบสติอารมณ์และตกลงอะไรบางอย่างที่นั่น ที่ ๆ เขาและเธอเคยขับรถมาเมื่อตอนที่เสือสอบได้ใบขับขี่เมื่ออายุสิบแปดปี และขับพาเธอมาเที่ยวสองต่อสอง ซึ่งตอนนั้น อิงฟ้า มีอายุแค่สิบสามปีเท่านั้นเอง                 ความผูกพันรักใคร่เหมือนเป็นพี่น้อง ปรัญช์ เพชรรัชตะ และเพชร โรจนกรณ์ คุณพ่อของเสือ เพชรเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณปรัญช์ ทำงานด้วยกันตั้งแต่คุณปรัญช์เริ่มบุกเบิกธุรกิจสถานบันเทิงที่หาดป่าตอง ยังไม่มีทรัพย์สินมากมายเหมือนตอนนี้                 ความที่ซอยบางลาเป็นที่หมายตาของนักธุรกิจหลายต่อหลายคนและวงการมาเฟียหรือวงการเจ้าพ่อต่างชิงดีชิงเด่น แก่งแย่งกันเพื่อความเป็นหนึ่งด้วยความเป็นหนุ่มไฟแรง กล้าชนทุกคนเพื่อความเป็นหนึ่งของปรัญช์ ทำให้เป็นการสร้างศัตรูโดยแท้จริงและก็ได้เพชรอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ เป็นเวลากว่าสิบ ๆ ปี จนถึงเมื่อคราวที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป                 วันนั้นคุณปรัญช์และเพชร เดินทางไปดูที่ดินที่จะสร้างตึกเลี้ยงนกนางแอ่นแถวอำเภอโคลกกลอย จังหวัดพังงา เขาสองคนอยู่คุยธุรกิจกันจนค่ำ ขากลับวันนั้นเพชรไม่สบาย     มากและได้ทานยาแก้หวัดก่อนขึ้นรถ เพราะกะว่ามาถึงป่าตองจะได้เข้าทำงานดูแลดิสโกแทนคุณปรัญช์เลย เจ้านายจึงเป็นผู้อาสาขับรถให้เอง                 เมื่อทั้งสองคนกลับข้ามฝั่งมายังภูเก็ต ยังไม่พ้นหมู่บ้านท่าเรือ แถวอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี มีรถยนต์ตามประกบด้านข้างฝั่งของเพชร คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้กระหน่ำยิงคนที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับมากกว่าสิบนัด ทำให้เพชรเสียชีวิตคาที่ทันที คุณปรัญช์ได้หักหลบวิถีกระสุนจนรถตกข้างทาง แต่โชคยังดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากวิถีกระสุน แค่เฉียดผิวหนังไปบางส่วนของหัวไหล่และหน้าท้อง แต่ต้องนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวัน เพราะศีรษะแตก แขนและไหปลาร้าหัก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม