อ้อนรัก 3
(หมูหวาน)
อื้อ ทำไมมันรู้สึกเย็นวาบอะไรอย่างนี้ ฉันพลิกตัวไปมา ดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาห่ม
เดี๋ยวนะ ผ้าห่ม? ผ้าห่มอย่างนั้นหรอ
พรึบ
“เฮ้ย ฉันมาอยู่นี่ได้ไงวะเนี่ย”
หยุดคิดไปไกลหากคิดว่าฉันนอนอยู่ในบ้านรูดหรือโรงแรมอะไรทำน้องนั้น
มันผิดทั้งหมดเพราะฉันนอนอยู่ในห้องตัวเองต่างหาก แล้วฉันมานอนอยู่คอนโดตัวเองได้ไงกัน?
“คิดสิคิด หมูหวานเอ้ย”
ฉันพยายามคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ฉันกำลังเดินไปเอารถเพื่อกลับคอนโดแต่ก็โดนไอมาเฟียนั่นจับโยนใส่รถเขา แล้วก็ >< โธ่โว้ย ไม่อยากคิดเลย
“ไม่เป็นไรนะ คนสวย ไม่เป็นไร”
ไม่ได้มีใครปลอบฉันหรอก ฉันปลอบตัวเองอยู่ แหะๆ
เอาล่ะลองนึกต่ออีกหน่อย ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรเข้ามาใน อืม
“กรี๊ด ไอเลว”
ขอกรี๊ดร้องระบายความแค้นหน่อย แล้วจากนั้นยังไงต่อวะ ทำไมรู้สึกเหมือนเหตุการณ์หลังจากนั้นไม่อยู่ในเมมโมรี่ฉันเลยล่ะ
Line Line
ขณะที่ฉันกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก โทรศัพท์เครื่องบางตรงหัวเตียงก็สั่นขึ้น
Line Line
‘ คานทองประดับคริสตัล ‘ (ฉันไม่เคยเห็นด้วยกับชื่อไลน์กรุ๊ป สาบานได้ -_-)
B : คืนนี้ร้าน xxx กัน
ดาด้า : ร้านเปิดใหม่ใช่มะ ไปไป
B : ไอหมูหวานว่าไง?
ร้านเหล้าอย่างนั้นหรอ น่าสนใจเหมือนกันนะเพราะตอนนี้ฉันอยากลืมเรื่องราวบ้าๆในหัวสักที
หมูหวาน : เจอกันสามทุ่ม
ดาด้า : YEAH!!!
B : เริศค่า
(ด้านภาคิน)
มาเฟียหนุ่มกำลังเดินตรวจงานย่านสถานที่ท่องเที่ยมยามราตรีที่อยู่ในความดูแลของเขา
หลังจากตรวจเสร็จเขาเลยกลับมายังผับตัวเอง ช่วงนี้เขาต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่นานหน่อยเพราะพึ่งเปิดใหม่
“นายครับ คุณไฟว์กับคุณเค้กรออยู่ที่โต๊ะแล้วครับ”
“อืม เดี๋ยวมึงส่งคนไปคุมโซนA เพิ่มหน่อยนะ”
“ได้ครับนาย”
หลังจากสั่งลูกน้องเรียบร้อย ภาคินเลยเดินตรงไปเข้าไปหาเพื่อน
ตลอดเวลาที่เขาเดิน ผู้หญิงต่างส่งสายตาเชิญชวนเขาไม่ขาดสายแต่ภาคินทำเพียงกระตุกยิ้มมุมปากกลับไป
“ทางนี้เพื่อน”
ไฟว์โบกมือเรียกเพื่อนตัวเองเมื่อหันไปเห็น
“ไงคุณภาคิน ร้านมึงงานดีวะ กูชอบ”
เค้กเอ่ยทักทายเพื่อนด้วยน้ำเสียงสดใส ภาคินไม่พูดอะไรเพียงแค่ส่ายหน้าเอือมระอาเท่านั้น
“มึงรู้ยังว่าวันนี้น้องหมูหวานมาร้านมึง”
กึก แก้วในมือที่กำลังจะยกขึ้นดื่มหยุดชะงักเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะยกขึ้นดื่ม ทำทีไม่สนใจสิ่งที่เพื่อนพูดแม้สายตาจะเหลือบดูภาพสาวสวยที่โพสลงไปจีในมือถือไฟว์ก็ตาม
“สวัสดีครับเฮีย ว๊าย เจ๊เค้กสุดสวยของผม”
“น้อยหน่อยเก้า ว๊ายเป็นตุ๊ดเลยนะมึง”
“ฮ่าๆ พวกเฮียเห็นหมูหวานกันบ้างมั๊ยครับ ผมหาทั่วแล้วเนี่ย”
“ไม่วะ มึงไม่โทรอะ กูล่ะอิจฉาจริงๆ กับการมีเพื่อนแสนสวยของมึง”
ไฟว์ว่าพลางเหลือบมอง เค้กเพื่อนตัวเอง เค้กเลยฟาดลงบนไหล่เขาเต็มแรง
“เจ็บนะโว้ย มือหนักเป็นบ้า”
“เออ สมน้ำหน้า”
“ฮ่าๆ ถ้างั้นผมไปหาหมูหวานก่อนนะครับ”
“เดี๋ยว”
“มีไรครับเฮีย”
“กูขอสั่งให้มึงห้ามยุ่งกับผู้หญิงแบบนั้นอีก”
เก้าหันกลับมามองหน้าพี่ชายตรงๆอย่างไม่เข้าใจ
“มึงคงไม่อยากคบชู้กับเด็กเสี่ยแบบนั้นหรอก”
“หือ คบชู้ หมายถึงผมกับหมูหวานนะหรอครับ?”
“เออ”
“เฮียจะบ้าหรอ ผมกับหมูหวานเป็นเพื่อนกัน อีกอย่าง เฮียไปเอาความคิดว่าหมูหวานเป็นเด็กเสี่ยมากจากไหน”
“วันนี้กูเห็น ไอเค้กก็เห็น ใช่มั๊ยเค้ก”
ภาคินตอบพลางหันไปหาแนวร่วม เค้กชี้นิ้วมาที่ตัวเองด้วยสีหน้างงๆ
“ก็ไอเสี่ยกำพลอะไรนั่นไง”
“อ๋อ มึงอย่าบอกนะว่า มึงคิดว่าน้องหมูหวานเป็นเด็กเสี่ยกำพลอะ”
“แล้วไม่ใช่รึไง”
คราวนี้น้ำเสียงดุดันเริ่มแผ่วลง
“ก็ไม่ใช่ไง เขาเป็นพ่อลูกกัน ไอเวร”
“ห๊ะ เวรแล้วไง”
ภาคินสบถเสียงดังทำเอาคนอื่นในโต๊ะถึงกับสะดุ้ง สงสัยในท่าทางของเขาแต่ก็ไม่กล้าถาม
“มีไรรึเปล่าเฮีย อ่ะ หมูหวานโทรมาแล้ว”
“ยาหยีอยู่ไหนครับ”
“....”
“ฮ่าๆ ได้ครับ เดี๋ยวเค้าไปช่วยนะ ยาหยีหลบใต้โต๊ะไปก่อน”
ปิ๊บ
“มีไรวะไอเก้า”
ไฟว์เป็นคนถามขึ้นเมื่อเห็นรุ่นน้องตัวเองหัวเราะ
“หมูหวานอะเฮีย มันหลบผู้ชายที่พยายามตามจีบมันอยู่ เห็นว่าตอนนี้หลบอยู่ใต้โต๊ะฝั่งไหนสักฝั่ง”
“มึงให้ลูกน้องไอภาคินไปช่วยหาสิ”
“เออ เฮียช่วยหน่อยดิ”
“ไม่ใช่ธุระของกู”
ภาคินตอบปัดๆก่อนจะลุกออกจากโต๊ะไป ทิ้งให้คนในโต๊ะนั่งหมอหน้ากันงงๆ อีกครั้ง
(หมูหวาน)
วันนี้มันวันซวยอะไรของฉันวะเนี่ย ตอนบ่ายก็เจอเรื่องเฮงซวย ตกกลางคืนยังต้องมาปวดหัวกับใครก็ไม่รู้ที่ตามตื๊อฉันอยู่ได้อีก
“หาอะไรกินใต้โต๊ะรึไง” เสียงนี้มัน
ขวับ
ฉันเงยหน้ามองร่างสูงด้วยความรวดเร็วและคนที่กำลังยืนยกยิ้มมุมปากอยู่คือคนที่ฉันเกลียดที่สุดณ ตอนนี้จริงด้วย
“นาย โอ๊ย”
“ระวังหน่อยสิ”
เมื่อกี๋เผลอลุกออกจากใต้โต๊ะเร็วไปหน่อย หัวเลยกระแทกกับขอบโต๊ะ
“อย่ามาจับ”
ฉันปัดมือที่ช่วยพยุงแขนออกด้วยท่าทางรังเกียจ
“ทำไม หวงตัวมากรึไง”
เพี๊ยะ!!
ไวกว่าความคิด มือฉันก็ลอยไปกระทบหน้าหล่อของอีกคนแล้ว
“แรงไปรึเปล่าวะ”
เขาใช้หลังมือปากคราบเลือดตรงมุมปาก ฉันยืนกอดอกมองผลงานตัวเองอย่างพึงพอใจ
“คนเลวอย่างนายแค่นี้มันน้อยไปด้วยซ้ำ”
หมับ
ไม่ทันที่ฉันได้ตั้งตัว เขาก็ดึงฉันเข้าหาตัวก่อนจะประกบปากลงบนปากฉัน
“ปล่อยนะ อื้อ”
ในตอนแรกฉันพยายามขัดขืนแต่สุดท้ายร่างกายก็ดันไม่รักดี ดันคล้อยตามจูบเขาไปจนได้
“หึ เธอจูบตอบด้วยหนิ”
“อะ...ไอเลว”
ซ่า
ฉันคว้าแก้วแถวนั้นสาดใส่หน้าเขาก่อนจะผลักเขาให้หลีกทางก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้น
บ้า บ้าที่สุด วันนี้มันวันอะไรวะเนี่ย โอ๊ยยย
พรึบ พรึบ
ไม่ทันที่ฉันจะเดินถึงทางออก ผู้ชายในชุดดำนับสิบคนกรูกันเข้ามาล้อมฉันไว้แถมยังยกปืนขึ้นเล็งมาทางฉันอีกต่างหาก
“ให้ผมฉันการเลยมั๊ยครับนาย”
ฉันหันมองด้านหลัง ดูว่าผู้ชายคนนั้นพูดกับใคร ปรากฎว่าบุคคลที่เขาเรียกว่านาย คือผู้ชายหน้าหล่อที่ยืนนิ่งมีน้ำหยดติ๋ง ติ๋งอยู่ด้านหลัง
“ไม่ต้อง เก็บปืนด้วย”
มาเฟียคนนั้นทำท่าจะเดินเข้ามาหาฉันแต่เรื่องอะไร ฉันจะยืนอยู่ให้โง่ โกยสิโยมมมมม
พรุ่งนี้ฉันควรไปทำบุญเก้าวัดลบล้างความซวยนี้ ไม่ดีกว่า เก้าสิบเก้าวัดไปเลยดีกว่า T-T
———-