หนูเล็กวิ่งเข้ามาในห้องนอนของตัวเองมือเล็กปาดน้ำตาอย่างรู้สึกแย่มากที่เป็นต้นเหตุให้ผู้ชายทั้งสองคนทะเลาะกันโดยทั้งสองคนไม่รู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ ทุกอย่างมันเป็นความผิดของเธอเองที่ไม่ยอมบอกต้นรักแต่แรกเขาถึงได้เสียใจมากขนาดนี้
“ฮึก!”
ภวินที่เดินตามเธอมาหยุดชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ เขาไม่อยากให้หญิงสาวรู้สึกผิดเพราะทุกอย่างมันเป็นความผิดของเขาทั้งนั้น เขาเดินมานั่งลงตรงหน้าเธอก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
“ไม่ร้องนะคะพี่ขอโทษ”
เขายื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาให้หญิงสาวอย่างหวงแหน ถ้าเขาต้องยอมถอยและปล่อยให้เธอคืนไปให้ผู้ชายอีกคนเขาไม่ทำแน่ ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้วและเขายังยืนยันคำเดิมว่าหนูเล็กจะต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
“หนูทำให้ต้นรักเสียใจค่ะ เค้าดีกับหนูเล็กมาโดยตลอดที่ผ่านมา ถ้าตอนนี้ไม่มีคุณหนูเล็กคงจะรับรักเขาไปแล้ว”
เธอสารภาพออกไปตามตรง ทุกอย่างมันเป็นความผิดของเขาคนเดียวเลย ถ้าเขาไม่เอาเรื่องหุ้นมาต่อรองจนได้เธอไปครอบครองป่านนี้คงไม่ต้องมีใครเสียใจ ภวินเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยถามเสียงจริงจัง
“หนูรักผู้ชายคนนั้นเหรอ…”
หนูเล็กเงียบไปทันทีอย่างพูดไม่ออก ความรู้สึกแบบนั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นและถ้าครั้งนี้เธอรับรักต้นรักไปมันก็คือความสงสารและเห็นใจในความพยายามของเขามาโดยตลอด แต่กับเขาที่เพิ่งเจอมันเป็นความรู้สึกในอีกแบบซึ่งถ้าต้องเลือกมันก็เลือกไม่ยากนักหรอก
“ไม่ได้รักค่ะ เค้าคือเพื่อนที่ดีที่สุด”
“แล้วจะรู้สึกผิดทำไมกัน เราไปรับรักเค้าโดยที่ไม่ได้รักเค้าเจ็บมากกว่านี้อีกนะ เราเองก็จะเจ็บไปด้วยไม่มีความสุขหรอก”
ภวินดึงหญิงสาวมาสวมกอดแน่นอย่างปลอบโยน เธอเป็นคนจิตใจดีงามไม่แปลกที่จะรู้สึกแบบนั้น แต่เขาใจชื้นมาหน่อยที่รู้ว่าเธอไม่ได้รักผู้ชายคนอื่นและเขาคนนั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ
“หนูเล็กทำแบบนี้มันดีที่สุดแล้วใช่มั้ยคะ”
“ดีที่สุดแล้วค่ะ วิธีที่ทำให้เขาเจ็บน้อยที่สุดคือหนูเล็กต้องพูดตามความรู้สึกของตัวเองแล้วก็รีบแต่งงานกับพี่ซะตกลงมั้ย”
หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็ตีเขาทันทีอย่างหมั่นไส้ แล้วก็วนมาเรื่องนี้จนได้สินะ อีกอย่างเขาคงไม่เชียร์ให้เธอไปรับรักต้นรักหรอก เพราะเดี๋ยวเขาเองที่จะเป็นฝ่ายเจ็บคนเดียวเนี่ย
“พูดเหมือนจะดีแต่เข้าตัวเองหมดเลยนะคะ”
“ก็พี่รักหนูเล็กนี่นา ใครจะยอมปล่อยหนูไปให้คนอื่นล่ะ”
เขากุมมือเธอเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี หนูเล็กมองสบตากับชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ เธอตัดสินใจไม่ผิดหรอกที่เลือกเขาเพราะเวลาอยู่กับผู้ชายสองคนเธอมีความสุขกับพี่ภวินมากกว่า
“ก็ถ้าพี่ทำอะไรให้หนูเล็กเสียใจขึ้นมาเมื่อไหร่ หนูเล็กจะไปหาต้นรักทันทีเลย”
“ไม่ให้ไปหรอก ฝันไปเถอะ”
เขายิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปบีบแก้มหญิงสาวอย่างหมั่นเขี้ยว แค่รู้ว่าเธอเลือกเขาแค่นี้มันก็ชุ่มชื่นหัวใจและพร้อมจะมอบให้ทุกอย่างที่มีแล้ว จากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะจับมือเธอไว้แบบนี้ตลอดไป หนูเล็กมองชายหนุ่มด้วยแววตาเปลี่ยนไป เธอเคยมองว่าเขาร้ายแต่ความจริงเขาก็เหมือนกับต้นรักอย่างหนึ่งคือพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจเธอแต่ทั้งสองคนใช้วิธีที่แตกต่างกันก็แค่นั้น เธอไม่เคยเชื่อประโยคที่บอกว่าคนที่ใช่มันจะมาในเวลาที่เหมาะสมและไม่ต้องใช้เวลาดูกันมากมายแต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่ามันมีจริง…
ต้นรักเดินทางกลับมาที่บ้านด้วยอารมณ์ไม่จอยเท่าไหร่ใครก็ไม่กล้าทักดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์เสียมาก เขาหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหานักสืบให้ช่วยสืบความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้และผู้ชายที่ร่ำรวยขนาดนั้นจะรักหนูเล็กจริงรึเปล่าหรือแค่คิดจะกินเธอเล่นๆถ้าเป็นแบบนั้นเขาไม่ยอมแน่นอน
“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น..”
หนูเล็กกลับมาที่บ้านของภวินเธอเดินสำรวจทั่วบ้านว่ามีอะไรที่จะต้องปรับเปลี่ยนรึเปล่า ช่วงนี้รู้สึกหงุดหงิดเวลาเห็นอะไรที่ไม่ถูกใจและชอบกินของแปลกที่ไม่เคยกินมาก่อนด้วย
“ตะลิงปลิงที่คุณหนูเล็กอยากได้ค่ะ เปรี้ยวมากเลยนะคะให้พี่ทำพริกน้ำปลาให้มั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะหนูเล็กจะกินแบบนี้แหละ ขอบคุณนะคะที่หามาให้”
หญิงสาวรับมาถือไว้ในมือก่อนจะหยิบกินเปล่าๆอย่างไม่รู้สึกถึงความเปรี้ยวของมัน แม่บ้านเห็นก็กลืนน้ำลายดังอึกอย่างเปรี้ยวแทนสุดๆ ไม่มีใครสามารถกินได้เปล่าๆแบบนั้นได้เลยสักคนก็เห็นแต่คุณผู้หญิงของบ้านเนี่ยแหละที่กินได้
“อร่อยมั้ยคะ”
“อร่อยมากเลยค่ะ เปรี้ยวพอดีเลย”
เธอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะมองไปโดยรอบดูว่ามีตรงไหนควรแก้ไขบ้าง ภวินที่เพิ่งกลับมาจากทำงานก็เดินหาหญิงคนรักเห็นแม่บ้านบอกว่าอยู่ที่ห้องนั่งเล่่น
“หนูเล็กทำอะไรอยู่คะ”
เธอหันไปมองชายหนุ่มก่อนจะชี้นิ้วไปยังกำแพงที่ว่างเพื่อสั่งให้เขาเอาของมาตกแต่งเธอจะได้มองเห็นแล้วสบายตา
“ตรงนี้เอาแจกันใส่ดอกไม้สวยๆมาไว้ได้มั้ยคะ หนูเล็กอยากเห็นดอกไม้สวยๆ”
“ได้สิคะเดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านทำให้เลย”
เขาหันไปหาแม่บ้านเพื่อให้พวกเขาจัดแจกันดอกไม้สวยๆมาตกแต่งตามใจหญิงคนรัก เธอยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหยิบตะลิงปลิงกินต่อ ภวินยิ้มมุมปากเล็กน้อยขยับเข้ามาใกล้หญิงสาวแล้วสวมกอดพร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาอย่างหยอกล้อ หนูเล็กรีบผลักเขาออกก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วอาเจียนออกมาไม่หยุด
“อุ๊บ… แหวะ!”
“หนูเล็กเป็นอะไรคะ”
ภวินตกใจรีบวิ่งไปลูบแผ่นหลังหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง เธอเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะหายใจอย่างเหนื่อยหอบ
“แฮ่ก! แฮ่ก!”
“ไหวมั้ยคะหนูเป็นอะไรไม่สบายเหรอ”
เธอตั้งสติเดินไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นก่อนจะหันไปสวมกอดชายหนุ่มอย่างหมดแรง ภวินมองหญิงสาวอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆเธอถึงอาเจียนเยอะขนาดนี้แถมยังดูเหนื่อยล้ามากเลยด้วย
“ไม่รู้ค่ะอยู่ๆหนูก็เหม็นน้ำหอมคุณค่ะ อุ๊บ!”
เธอทำท่าทางจะอาเจียนอีกรอบก่อนจะถอนหนีเขาเพราะทนกลิ่นไม่ไหว ภวินขยับเข้าไปใกล้แต่ก็ถูกหญิงสาวดันตัวออกห่าง
“ไม่ต้องมาใกล้เลยค่ะ”
“ปกติหนูไม่เหม็นนี่นา”
“ก็ตอนนี้เหม็นนี่คะ ไปอาบน้ำเลยนะไม่งั้นไม่ต้องมาใกล้หนู”
เธอเอ่ยออกมาเสียงดังก่อนจะรีบวิ่งหนีไปที่อื่นจะได้หายใจหายคอสะดวกขึ้น ภวินเกาหัวอย่างมึนงงก่อนจะสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“อะไรของเขาวะเนี่ย”