บทนำ

700 คำ
            เอี๊ยดดดดดด               เสียงรถยนต์ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงแล้วดันเบรกกะทันหันจนเกิดกลิ่นไหม้จากล้อที่เสียดสีกับพื้นถนนลากเป็นทางยาว คนขับรถหักพวงมาลัยฉับพลันหวังหลบสาวน้อยปริศนาที่วิ่งข้ามฝั่งไม่ดูตาม้าตาเรือ ขณะเดียวกันนั้นเอง ตัวรถพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าอย่างจังเสียงดังสนั่นวั่นไหว             โครมมมมม “ว้ายยยย”               ผู้คนร้องตกใจเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที กรวลัยยืนนิ่งอึ้งงันอ้าปากค้างหวอตัวสั่นเทาอยู่บนเกาะกลางถนน มองภาพตรงหน้าที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อของเธอเอง  เมื่อตั้งสติได้หญิงสาวรีบกดมือถือโทรแจ้งโรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายที่อยู่ในรถคันเกิดเหตุ สภาพรถพังยับเยินเสาไฟฟ้าหักลงมาทาบทับตัวรถเอาไว้ จนแถบนั้นไฟดับลงทันควัน ลุงคนขับรถคลานออกมาเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างทุลักทุเล ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือกันจ้าระหวั่น ร่างบางเดินขาสั่นเชื่องช้าเพื่อเข้าไปช่วยเหลืออย่างกล้าๆกลัวๆ “คุณ ...คุณ โฉมฉาย” กรวลัยสะดุ้งเฮือกเมื่อมองเข้าไปภายในรถพบคุณโฉมฉาย อัศวดิลกกุล เจ้าของไร่เลอสรร หมดสติอยู่ข้างใน ใบหน้าแนบชิดกระจกด้านข้างมีเลือดไหลออกมามากมาย  มีหญิงสาวร่างเล็กนอนอยู่ข้างๆใบหน้าซีดเผือดซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวของท่าน             “ว้ายย!!! มีคนกระเด็นออกมาข้างนอกด้วย” เสียงแม่ค้าที่ตั้งแผงลอยติดถนนตะโกนร้องบอกเมื่อพบหญิงสาวอีกหนึ่งรายนอนแน่นิ่งคอพับอยู่ข้างๆเสาไฟฟ้าคาดว่าเธอคงจะกระเด็นออกมานอกรถนอนทับเศษกระจกเกลื่อนกลาดปนลิ่มเลือดจำนวนมาก                 กรวลัยช็อคสุดขีดเผลออุทานออกมาไม่เป็นศัพท์ปนเสียงร้องไห้ด้วยความเสียใจเกินจะกลั้น ขาเรียวอ่อนยวบทรุดลงกับพื้นฟุตบาทมองภาพความโกลาหลบนท้องถนน  พลเมืองดีช่วยพยาบาลลำเลียงผู้บาดเจ็บขึ้นรถเพื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เสียงไซเรนบวกกับแสงไฟวิบวับอีกทั้งผู้คนมากมายที่วิ่งมาดูจุดเกิดเหตุทำให้เธอนั่งตัวลีบสมองเบลอไม่รู้จะเริ่มทำอย่างไรก่อน            แน่นอน เธอไม่หนีไปไหน พร้อมให้ปากคำแก่ตำรวจเจ้าของคดีด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ผู้คนมากมายต่างมุงดูตัวต้นเหตุอย่างเธอพร้อมเสียงก่นด่าประนามดังอื้ออึง “แล้วนั่นลูกเต้าเหล่าใครนะ” ... “ก็นังกำไลลูกคนงานในไร่คุณภูผาไง” .. “อ๋อ ..เห้ออ ไม่น่าเล้ยย มันจะชดใช้คุณเค้ายังไงล่ะเนี่ย” ... “ซุ่มซ่ามจนได้เรื่องใหญ่โตเลยมั้ยล่ะมึง” ... นาทีนี้เธอไม่ได้รู้สึกอะไรจากเสียงเหล่านั้นนัก  นอกจากเกลียดตัวเองไม่ต่างจากพวกเขา เธอทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้มากมายขนาดนี้เชียวหรือ?!! เธอฝันไปใช่ไหม ...คุณพระคุณเจ้า โปรดช่วยให้ทุกคนพ้นขีดอันตรายทีเถิด.. หญิงสาวเว้าวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะโทรไปบอกแม่ก็ยังไม่กล้าได้แต่ก้มมองดูเบอร์ในมือถืออย่างคิดไม่ตก              “ท่านไปโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม?!!”               เลอสรรรีบวิ่งเข้ามาที่เกิดเหตุอย่างร้อนรนพร้อมถามอย่างกระวนกระวายปนหอบ กรวลัยหันไปมองเสียงเข้มของผู้มาใหม่ ร่างสูงใหญ่ยืนเท้าสะเอวมองดูจุดเกิดเหตุด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด ลูกน้องและแม่ค้ายืนข้างๆกายล่ำสันเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้ฟัง แล้วชี้มาที่เธอ              ดวงตาคมปราดมามองเธอจนหัวใจดวงน้อยๆกระตุกวูบสั่น นับจากวินานั้น เธอหมดสติทันทีที่ได้สบตาเขา คุณเลอสรร อัศวดิลกกุล ฟุ่บบบ “ว้าย นังกำไลมันเป็นลมแล้วนั่น” ..... กรวลัยเป็นลมล้มฮวบในทันที ใบหน้าซีดเซียวแนบกับพื้นถนนที่ถูกปิดการสัญจรชั่วคราว เลอสรรที่รีบบึ่งไปยังรถเพื่อไปหามารดาที่โรงพยาบาล เห็นหล่อนเป็นลมลงพอดี ร่างสูงใหญ่ย่างกรายเท้าเดินเฉียดอย่างไม่แยแส หนำซ้ำริมฝีปากหยักเหยียดเย้ย  รองเท้าราคาแพงเผลอเหยียบปลายเส้นผมนุ่มผ่านเลยไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม