เมื่อถึงท่าเรือแล้วก็นั่งรอในศาลาเย็นๆได้เลย ถึงแม้ว่าจะไปกันแต่เช้า แต่สังเกตได้ว่ามีนักท่องเที่ยวมาอยู่เรื่อยๆเริ่มตั้งแต่ 8-9 โมงคนก็เริ่มมาเที่ยวกันแล้วค่ะ เมื่อเรือมาจอดที่ท่าแล้ว เราต้องรอให้คนขึ้นจากเรือให้หมดก่อนจากนั้นก็ตรงไปลงเรือกันได้เล้ยยย ...เรือที่นั่งเป็นเรือไม้ดัดแปลง มีเพียงเก้าอี้พลาสติกผูกกับเสาเรือให้นั่งไม่เยอะมากนัก แต่ยืนไปก็ได้ค่ะ.หายใจเข้ายังไม่ทันออกก็ถึงแล้ว นี่ไง.. เลยบอกว่าเกาะใกล้กรุงของจริง อย่าลืมเตรียมเหรียญให้พร้อม คนละ2บาทจ่ายที่ท่าเรือฝั่งเกาะเกร็ด ทั้งขาไป-ขากลับเลยค่ะ
เสน่ห์ของเกาะเกร็ดสำหรับเราอยู่ตรงที่ วิธีการเดินทางไปค่ะ ที่ต้องต่อรถไปลงเรือ จังหวะลมพัดปะทะหน้าตอนอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอารมณ์ที่ฟินสุดๆ และ ความเป็นธรรมชาติที่ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากขนาดนี้ค่ะ อีกทั้งที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเป็นชุมชนไทยที่มีทั้งวิถีชีวิตของชาวพุทธ มุสลิม และชาวมอญ ผสมผสานกันด้วยหลายวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และลงตัวค่ะ ทำให้ที่นี่เป็นที่เที่ยวที่มีเอกลักษณ์ มาเที่ยวไม่ยาก และได้ชิลเต็มที่ สำหรับวิธีเที่ยวเกาะเกร็ดแบบมันส์ๆ ล่ะก็ ขอแนะนำให้ ปั่นจักรยานเที่ยวรอบเกาะ ค่ะ เพราะถ้ามั่วใจอยากจะลองเดินรอบเกาะดู มีหวังขาลากกันแน่ๆ ค่าเช่าจักรยานก็ไม่แพงค่ะ 40-50 บาท ทั้งวันต่อคนเท่านั้นเอง แล้วก็ไม่ต้องกลัวหลงนะคะ เพราะเป็นทางบังคับอยู่แล้ว ปั่นไปทางไหนก็กลับมาหน้าเกาะได้เหมือนเดิมค่ะ แล้วที่สำคัญก็คือ เราไม่ต้องกลัวกลัวรถใหญ่ด้วย เพราะที่นี่เค้าใช้แค่จักรยาน และ มอเตอร์ไซด์ ในการไปไหนมาไหนกันค่ะ