สาวน้อยในชุดเสื้อยืดแขนสั้นตัวจิ๋วจนเห็นทรวงอกมหึมานูนออกมาราวกับแตงโมสองลูก เอวเสื้อลอยนิดหน่อยจนเห็นเอวคอดกิ่ว ก่อนจะผายออกเป็นสะโพกกลมกลึงที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในกางเกงขาสั้นตัวจิ๋ว
ไม่ใช่ว่าคฑาเทพไม่รู้ ว่าระยะหลังหล่อนโตขึ้น สวยขึ้น นมโตขึ้นพรวดพราดอย่างกับไปอัปไซด์กับหมอเกาหลีมา แต่ที่ผ่านมาเขาคิดว่านั่นมันฟองน้ำนี่หว่า ถ้าไม่เห็นหล่อนแก้ผ้า เขาก็ไม่รู้หรอกว่าของจริง!
หล่อนกำลังตากผ้าอยู่ตรงลานข้างบ้าน และหัวเราะหยอกเล่นกับชายหนุ่มวัยไล่เลี่ยกัน
มันชื่อไอ้กอบ! หน็อย ไอ้หมอนี่ปกติก็อยู่แมนชั่น ไม่ค่อยได้กลับมาบ้านนี้เหมือนเขาที่มักจะนอนที่คอนโดมิเนียมมากกว่าเหมือนกัน ทีวันนี้เสือกกลับมาหยอกเย้าอีหนูของเขา ขอย้ำอีกทีว่า ‘ของเขา!’
ไอ้หอกหัก!
“พี่กอบ ลางานกี่วันจ๊ะ”
ดาวเดือนถามและสะบัดผ้าตากไปด้วย กอบชนม์เป็นลูกชายคนเดียวของป้าแช่ม แม่บ้านวัยดึกของคฤหาสน์แห่งนี้
เขาแก่กว่าหล่อนสองสามปี หลังจากเรียนจบ ม.6 กอบชนม์ก็ไปทำงานโรงงาน นานๆ ทีจึงจะกลับมาเยี่ยมแช่มผู้เป็นแม่บ้าง
“ลาแค่วันเสาร์นี่แหละดาว เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นๆ พี่ก็กลับแล้ว เก็บวันลาไว้นอนดูทีวีที่ห้องดีกว่า กลับมาเยี่ยมแม่นานๆ แม่ชอบบ่นเรื่องพี่หาเมียไม่ได้”
กอบชนม์ตอบกลั้วหัวเราะ
ดาวเดือนหัวเราะตาม หล่อนรับผ้าที่เขาหยิบจากตะกร้ามาตากอย่างสนิทสนม ก็โตมาด้วยกัน ย่อมสนิทกันเหมือนพี่น้องเป็นธรรมดา
“ก็แล้วทำไมไม่หาแฟนสักคนล่ะพี่”
“โอ๊ย ใครจะมาเอาพี่ จนก็จน เพิ่งทำงานได้แค่สองสามปี พี่คงต้องเก็บเงินให้ได้สักหน่อยก่อนค่อยคิดเรื่องแฟน แล้วเราล่ะ มีไอ้หนุ่มที่ไหนมาติดบ้างมั้ย”
“ไม่มีหรอกจ้ะ”
ดาวเดือนตอบเสียงกลั้วหัวเราะ
“พี่กอบอย่าลืมสิว่าหนูเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาตั้งแต่เด็ก จะไปเจอใครได้ล่ะ”
เงินทุกบาททุกสตางค์ที่กอบชนม์และดาวเดือนใช้เรียนหนังสือมาจากคุณนายอิงอร เจ้าของบ้านที่ตอนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศ ท่านส่งกอบชนม์เรียนโรงเรียนชายล้วน และส่งดาวเดือนเรียนโรงเรียนหญิงล้วนด้วยความใจดี
“แล้วถ้าเรียนจบปีนี้ดาวจะต่อมหาวิทยาลัยหรือเปล่า”
ดาวเดือนส่ายหน้าระรัวจนผมยาวประบ่าเคลียไหล่บางไปมาอย่างน่ามอง
“ไม่อะ ดาวจะทำเหมือนพี่กอบแหละ จบ ม.6 ก็หางานทำเลย เกรงใจคุณนายท่าน”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ดาวเป็นผู้หญิง เรียนสูงๆ ไว้ดีกว่า พี่เป็นผู้ชายเลยไม่อยากพึ่งพาท่านมาก อยากยืนด้วยขาตัวเองน่ะ อย่าทำตามพี่เลย”
“แต่ว่าหนูไม่อยากรบกวนคุณนาย...”
“ดาวเดือน!”
บ้านนี้ก็มีคนเดียวนั่นแหละที่ชอบเรียกชื่อจริงของสาวน้อยมาตั้งแต่เด็กยันโต เมื่อหล่อนได้ยินก็ถึงกับสะดุ้งโหยง ทำผ้าขนหนูสีขาวเพิ่งซักหมาดๆ ในมือหล่นลงแทบเท้าทันที ใบหน้าอ่อนเยาว์หันไปมองเขาแบบขลาดกลัวจนกอบชนม์งุนงง
คฑาเทพเดินลงมาที่ลานตากผ้าทั้งๆ ชุดนอน ดูเหมือนเขาเพิ่งจะตื่นด้วย ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าตายับยู่ยี่
แถมกอบชนม์ยังเห็นว่าเป้ากางเกงชุดนอนของเจ้านายหนุ่มมันดูตุงๆ เหมือนจะเพิ่งตื่นมาเคารพธงชาติ ผู้ชายด้วยกันดูกันออกว่าตรงนั้นมันคืออะไร
“คุณคฑา...”
เสียงของสาวน้อยสั่น แบบที่กอบชนม์เดาไม่ออกว่าหล่อนดูตื่นเต้นหรือเสียขวัญ แต่ที่แน่ๆ ใบหน้าของดาวเดือนแดงระเรื่อไปหมดลามไปจนถึงลำคอระหงเลย
อื้อฮือ สงสัยงานนี้จะมีการได้เสีย...
“ผ้าขนหนูฉันล่ะ ที่เมื่อวานฉันให้เธอเอาไปใช้ ซักให้ฉันหรือยัง”
คฑาเทพอ้างถึงผ้าขนหนูของเขาแบบด้นสด เพราะเดินตึงตังลงมาด้วยความโกรธ ไม่ทันเตรียมคำพูดอะไรลงมาเลย พอเห็นหล่อนทำผ้าขนหนูร่วงคาตา ชายหนุ่มจึงอ้างถึงมันซะเลย เพื่อดึงตัวสาวน้อยออกมาให้ห่างกอบชนม์ให้มากที่สุด
ผีเห็นผีฉันใด... ผู้ชายด้วยกันก็ดูกันออกฉันนั้น ไอ้นี่มันหวังเคลมอีหนูของเขาแน่ๆ คฑาเทพโคตรมั่นใจว่าเขาไม่ได้มโนไปเอง!
“ขะ ขอโทษค่ะ หนูซักให้แล้ว ตะ แต่ทำร่วง”
สาวน้อยก้มลงหยิบผ้าขนหนูผืนหนาขึ้นมาจากที่ทำตก
แค่ชั่วพริบตาที่หล่อนก้ม คฑาเทพก็เห็นเนินอกอวบอัดแทบจะล้นออกมาจากเสื้อยืดคอกว้างของหล่อน ก่อนที่ภาพสวยงามนั้นจะถูกบดบังด้วยผ้าขนหนูของเขาที่หล่อนกอดมันไว้ด้วยใบหน้าซีดๆ
หน็อย! หล่อนสวมเสื้อคอลึกขนาดนี้เชียวเหรอ
อย่างนี้ไอ้กอบชนม์มันก็แอบดูเนินนมของหล่อนมาตลอดเช้านี้แล้วล่ะสิ ไอ้หน้าหม้อเอ๊ย!
“มานี่ เอามาซักให้ฉัน ฉันจะใช้เดี๋ยวนี้!”
“ตะ แต่ว่า...”
ยังไม่ทันจะอธิบายเลยว่าถ้าซักตอนนี้ก็ยังใช้ไม่ได้อยู่ดี ต้องตากให้แห้งก่อน ข้อมือนุ่มก็ถูกคุณชายคนเดียวของบ้านคว้าหมับ ลากถูลู่ถูกังให้หล่อนเดินตามไปทางลานซักล้างหลังบ้านโดยไม่ฟังอะไรแล้ว
“ฝากตากต่อด้วยนะจ๊ะพี่กอบ”
ดาวเดือนซอยเท้าตามพ่อคนตัวสูงที่เดินอาดๆ ไม่รอขาสั้นๆ ของหล่อนเลย พร้อมกับหันไปฝากฝังให้กอบชนม์ช่วยตากผ้าที่เหลือต่อด้วย พอเขายกมือขึ้นเหมือนจะส่งสัญญาณว่าไม่ต้องห่วง ดาวเดือนจึงหันมาเดินตามคฑาเทพต่อด้วยการสลับเท้าเกือบจะเรียกว่าวิ่ง
แผ่นหลังของเขากว้างจัง...
ท้ายทอยก็กลมสวย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงหล่อไปหมดตั้งแต่ใบหน้าตลอดตัวแบบนี้นะ
สาวน้อยมองเขาเคลิ้มๆ ใจคิดไปเรื่อยเปื่อยถึงร่างกายแสนบึกบึนของเจ้านายหนุ่มที่อายุห่างจากหล่อนไม่กี่ปี
แน่นอนว่าดาวเดือนไม่เคยใกล้ชิดกับเขาขนาดนี้ เพราะตอนเป็นเด็ก พ่อไม่เคยให้หล่อนมาช่วยงาน พ่อกลัวว่ามือของหล่อนจะหยาบกร้าน ต่อไปจะหาผัวยาก
แต่พออายุสักสิบขวบ ดาวเดือนก็ทนอยู่เฉยๆ ไม่ไหว จึงขอพ่อมาช่วยงานป้าแช่มเล็กๆ น้อยๆ อย่างน้อยก็ได้ตอบแทนบุญคุณอิงอรที่ส่งหล่อนเรียนหนังสือ