ตอนที่ 1

1387 คำ
ธารนาถ ทัพเทวา นึกเซ็ง หงุดหงิดใจ ยิ่งนัก อารมณ์ หลายอย่าง มารวมกัน เกิดความเครียดขึ้น เพราะ ตอนนี้ ผิดหวัง ความรักถูกหักอก เลยเป็นภาพที่เศร้าซึม อย่าง ที่เห็น อารมณ์ ไม่ แจ่มใส ไม่ อยากไปไหน ไม่อยาก พบหน้า ผู้คน อยากจะอยู่ คนเดียว แต่ เขา อยู่ ในสังคม เมืองกรุง ต้อง ทำงาน มีเพื่อนฝูง แล้ว ไอ้ เพื่อนฝูง เหล่านั้น แหละ ที่ มันหัวเราะ เยาะ เขา ให้เจ็บใจ ไม่โดนกับตัวเอง บ้าง ส่วนคุณชีลาพร เมื่อรับรู้อยู่แล้วว่า ลูกชายถูกอกหักดังเป๊าะมาจากสาวๆ ก็นึกอยากจะสมน้ำหน้าอยู่หรอก ทำไม หนอธารนาถ บุตรชายคนนี้ ไม่เหมือน น้องชายที่ชื่อ ศิวันต์นั่นเอง การจะเอามาเปรียบเทียบนั้น จะว่าไปตามความจริง ชีลาพร กลัวเหมือนกัน เพราะลูกเป็นผู้ชายทั้งคู่ กลัวเกิดความรู้สึกลำเอียงถ้าเธอไม่สามารถแบ่งความรักให้ลูกๆเท่ากันได้ ความแตกต่างระหว่างสองชายหนุ่มในบ้านนี้ อยู่ในสายตาของผู้เป็นแม่ ชีลาพร เลี้ยงลูกมาทั้งทะนุถนอม เอาใจใส่ห่วงใย แต่ปัญหาและสาเหตุที่ลึกลงไปกว่านั้น มันเกินที่คนเป็นแม่เช่นเธอจะช่วยได้ อีกทั้งอาการปีนเกลียว หรือความไม่ลงรอยกันของสองพี่น้องอีก แต่ทว่าชีลาพรก็ทำตัวเป็นที่ปรึกษาของลูกได้ดี สอนสั่งลูกไปแล้วนั้น มีแต่สิ่งดี แต่ผลกลับมานั้นคือ ลูกแทบจะไม่ใส่ใจสนใจด้วย จึงทำให้เธอคิดว่า สิ่งที่เธอทุ่มเทไปกับลูกคนโตนั้นมันหมดความหมาย สมองของแกคงจะรับได้เพียงนั้น ผิดไปจากน้องชาย ศิวันต์ ศิวันต์นั้นทั้งฉลาดแกมโกง สมองไว มีปฏิภาณไหวพริบ ชาญฉลาดทั้งด้านการเรียน ถ้าถามว่า ชีลาพร พอใจไหม? กับลูกทั้งสองคน เธอก็ยังตอบว่า พอใจอยู่ดี เพราะลูกยังไงก็เป็นลูก เป็นสมบัติที่ประทานมาจากพระเจ้า ใบหน้าที่ซีดราวกับกระดาษเปล่าบอกถึงภาวะของคนเริ่มจะเป็นไข้ หลังจากที่เดินลงไปขลุกอยู่หลังสวนได้สักพัก ธารนาถก็กลับเข้ามา ดูเหมือนสวนหลังบ้านที่มีแต่ดอกไม้เป็นธรรมชาติและร่มเงาครื้มที่แผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่ ก็ไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกของเขาดีขึ้นมากกว่าเดิมเลย ธารนาถจึงได้ตีโพยตีพายในใจว่า นึกว่าจะช่วยให้ลืมเรื่องราวต่างๆได้สนิท ที่ไหนได้ กลับมีภาพหลอนของหล่อนหลอกวนเวียนอยู่ในหัวสมอง มาณวดี หรือ อรุณชิตา ผู้หญิงสองคนที่ทำให้เขาอกหักได้ในเวลาเดียวกัน จึงไม่แปลกที่ธารนาถจะไม่นึกพูดจาเสวนากับใคร จะมีห่วงก็อยู่ที่คุณชีลาพรผู้เป็นมารดา แต่เรื่องนี้มันหมายถึงความอ่อนแอมากเกินไป บางครั้งเรื่องทำนองนี้ ธารนาถก็นำไปปรึกษามารดาไม่ได้เหมือนกัน มันจึงทำให้เขาต้องเก็บและซ่อนไว้ในใจลึกๆข้างในที่สุด และบาดแผลร้ายเหล่านี้เองมันก็ทิ่มแทงเขาทีละนิดละหน่อย อาการฟุ้งซ่านและครุ่นคิดอย่างหนัก ยังไม่จางหายจากจิตใจ ประตูก็เปิด ผล๊วะออกมาธารนาทจ้องสายตามองคนที่ยืนอยู่มุมประตูยกมือกอดอกยืนยิ้มเยาะอย่างเห็นได้ชัด แต่ธารนาทก็ไม่ได้ก้มหลบสายตามอง กลับจ้องสายตาคมประสาน “ นายมีธุระอะไร ถึงเข้ามาหาฉันถึงในห้อง ” ศิวันต์ น้องชายไหวไหล่เล็กน้อย ไม่ได้หันหน้ามาทางพี่ชายโดยตรง แต่ปากก็ตอบออก “ ผมนึกเซ็ง แต่เมื่อมาเห็นพี่ไข่แล้ว ดูท่าจะเซ็งมากกว่าผมอีก เรื่องผู้หญิง อย่าไปคิดมากเลยน่า เพราะพี่ใส่ใจเก็บเอามาเป็นอารมณ์มากนะ แล้วถ้าพี่ไม่มีเหลี่ยมล่ะก้อ ไอ้หน้าตาซื่อๆนี่ มันดูจืดชืดน่ะพี่ แต่ไอ้หน้าตาร้ายๆแฝงเล่ห์กระเท่นี่ผู้หญิงชอบอย่างที่เขามักจะพูดว่า ผู้หญิงมักจะชอบผู้ชายที่ปากว่ามือถึง ” เมื่อเขานิ่งคิดแล้ว มันมีเหตุผลหนึ่งที่น้องชายคิดจะแดกดันหรือประชดใส่เขากลายๆ อารมณ์ของธารนาทเลยพลันมึนตึงทันที “อ๋อ ต้องมือไวใจกล้า เป็นรถด่วนไฟฟ้าอย่างนายล่ะสิ มันถึงจะทันกิน ใช่ไหม นายวันต์ นายสอนตนเองก่อนถึงคิดจะมาสอนฉัน แล้วผู้หญิงที่ได้ขอให้มันดีอย่างว่าเถอะ ถึงฉันจะซื่อ เซ่อซ่า แต่สิ่งที่มอบให้แก่ผู้หญิงไปคือความบริสุทธิ์ ” “ โถ ความบริสุทธิ์ น่าขันจะตายที่พี่นาถของผมจะมาพูดเรื่องแบบนี้กับผู้หญิงยุคไอที ” ธารนาถมีสีหน้าตึงและเข้มขึ้นมาหน่อยๆ “ นายหาว่าฉัน คร่ำครึ และหัวโบราณไปหน่อยล่ะซี ” ถึงแม้จะไม่ตอบพี่ชายก็สามารถเดาเอาได้แล้ว เขาเลยตัดสินใจไม่พูดเบื่อใครไม่เป็นไง ถ้าเดาไม่ผิดนี่ นายเริ่มนึกเบื่อผู้หญิง แม่คู่ขา ของนายอีกล่ะซิ” “ผม ไม่ถึงกับ ขนาดนั้นหรอก” ศิวันต์ตอบพี่ชายเสียงอ่อยๆ พี่น้องต่อให้โกรธกันยังไง ต้องกลับมาดีเหมือนเคย ช่องว่างระหว่างศิวันต์กับพี่ชายธารนาถ มักเกิดเสมอ ถ้ารู้สึกเบื่อ และอยากจะเอาชนะคะคาน ฝ่ายที่ถือตัวว่าได้เปรียบกว่า ก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากคุยข่ม “ ผู้หญิงคนนั้นคือใครครับ ที่หาญกล้ามาหักอก พี่ชายของผมดังเป๊าะขนาดนี้ รู้แต่ว่า คนแรกชื่อ มาณวดี ใช่ไหมครับ” “ ไหน ว่าไม่สนใจเรื่องของฉัน ยังไงล่ะ ไม่ต้องหรอกแก ไม่ต้องมาสนใจดีแล้ว นี่ขนาดที่แกไม่รู้นะนี่ แกยังพูดชื่อเขาถูก ” ตอบน้องชายแล้ว ธารนาถก็ทำหน้าขรึมเหมือนเคย “เรื่องนี้ เขารู้กันไปทั่วบ้านเลยครับ โทษคุณแม่สิ ผมรู้จากคุณแม่ คิดดูสิ ในบ้าน ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ มีหรือคุณแม่จะไม่รู้ พี่นาท อย่าเถียงเอาความข้างเดียว ว่าผมคิดละลาบละล้วงความคิดของพี่ หรือชีวิตของพี่สิ ” เขานิ่งฟัง พลางถอนหายใจ จะว่าไปแล้ว ที่ศิวันต์พูดมาก็ถูกต้อง เป็นเพราะเขาปล่อย เขาไม่ได้คิดว่ามารดาเป็นคนที่พอจะปิดบังได้ เรื่องความลับ และตัวเขาก็รู้สึกล้า ทั้งเพลียใจอ่อนใจมากที่สุดในระยะนี้ มีอะไรก็เล่าให้มารดาฟังพี่ชายของเขา ธารนาท มักทำให้เขานึกหมั่นไส้เสมอ ศิวันต์รู้สึกไม่พอใจที่พี่ชายนั่งทำใบ้เบื้ออย่างนี้ แต่เมื่อลองมาย้อนนึกถึงตัวเอง ว่าเขาโกรธพี่ชายเรื่องอะไร เมื่อสองพี่น้องทะเลาะกัน คุณชีลาพรรู้ดีว่า คนไหนชอบกลั่นแกล้งหรือชอบหาเรื่อง แต่จะเรียกมาตักเตือนตำหนิเป็นบางครั้ง เมื่อทำท่าจะลามไปกันใหญ่ การที่มีลูกอยู่สองคน และเป็นชายทั้งคู่ คุณชีลาพร ย่อมต้องการให้รักกันเข้าไว้ ถ้าพี่น้องไม่รักกัน พ่อแม่ก็มีความไม่สบายใจ กับคนโตนั้นก็พอจะรู้อยู่ว่า อ่อนแอ ขี้ขลาด ไม่ทันคน แต่กับคนน้องนั่น ร้ายเต็มกระบิ นอกจากการเรียนฉลาดเฉลียว มีปัญญา แต่มักใช้ปัญญาในทางที่ผิด ลูกสองคนนี่ นิสัยผิดกันตรงนี้ แต่อย่างว่านั่นล่ะ นิสัย ทุกคนได้รับมาไม่เหมือนกันอยู่แล้ว คุณชีลาพร พยายามคิดอย่างนี้ ประสาคนเป็นแม่ ถ้าปัญหาเกิดจากผู้หญิง คุณชีลาพร จะแก้ปัญหาได้อย่างไร แม้เธอจะเป็นหญิง เธอจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิงคนนั้นได้อย่างไร แล้วยุคปัจจุบันกับยุคของเธอมันผิดกันไกลด้วย บอกกันตามตรงๆว่า คุณชีลาพรตามไม่ทันบรรดาแม่สาวๆสมัยนี้หรอก เธอเองก็ชักจะปวดหัวเหมือนกัน เพราะว่าจะว่า เมื่อเธอมีลูกชาย ทั้งสองคนต้องรู้จักความรัก และเสาะแสวงหามันด้วยตัวเอง วัยของเขาเป็นสิ่งบ่งบอก ทั้งอารมณ์ความต้องการของวัย เป็นสิ่งกระตุ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม