4 | จูบ และการเริ่มต้น

1608 คำ
กิน... กินที่เขาหมายถึงคือชนแก้วรึเปล่า ดีจังที่เขาไม่โกรธแถมยังชวนฉันร่วมโต๊ะอีกด้วย "ค่ะ ก็แค่กินแทนคำขอบคุณเมื่อวาน เราจะได้ไม่ติดค้างกันไงคะ" ริมฝีปากสวยเผยยิ้มที่มุมปาก ขณะที่ตายังจดจ้องสำรวจใบหน้าฉัน "ที่นี่ฉันไม่สะดวก" ฉันหันไปมองยัยเพลงเพื่อขอความเห็น แต่เพื่อนสนิทฉันกลับเอนพิงโซฟาและทำตัวเมาแอ๋ไม่มีแรง "เพลงเอาไง เขาไม่สะดวกที่นี่" "งั้นกลับโต๊ะก่อนก็ได้ แต่ช่วยพยุงฉันหน่อยสิ ฉันเมาดีเลย์" เพลงยกมือกวักไวๆ ฉันจึงลุกขึ้นแล้วจับแขนเธอดึงให้ยืน แต่จังหวะที่ร่างเล็กของเพื่อนฉันหยัดลุก หล่อนก็เสียหลักทิ้งน้ำหนักมาหาฉันทั้งตัว "เพลงแกเดินดีๆ" "เมาอ่าาาาาา เมาจังเลยเดวา" "ว้าย ยัยเพลง!" โปรดมอบมงความซวยให้เดวา! เพราะฉันล้มไปนั่งตักเขาเต็มก้นอีกจนได้ แต่มันเป็นฉันคนเดียวไง ยัยเพลงยังยืนอยู่และยกนิ้วชี้ชี้หน้าฉัน "เดวาแกจะนั่งตรงนี้ต่อเหรอ เคร~ งั้นฉันกลับโต๊ะนะ บ้ายบาย!" ฉันถลึงตาใส่ความร้ายกาจของเพื่อน แล้วรีบหยัดลุกจากตัวเขา แต่มือใหญ่ของคนตัวโตกลับโอบเอวฉันไว้ก่อน "เพลงอย่าพึ่งไป! นี่! คุณปล่อยฉันนะคะ" "อยู่กับฉัน" "ไม่!" ฉันปฏิเสธเสียงแข็งและพยายามลุกขึ้น แต่ยิ่งลุกก้นก็โดนอะไรไม่รู้ เข็มขัด ต้องหัวเข็มขัดแน่ๆ แข็งเชียว "คุณมันน่าเกลียดมาก ถ้าอยากให้ฉันนั่งต่อก็ปล่อยฉันลงเถอะค่ะ" ฉันพยายามคุยกับเขาดีๆ แถมยังยกมือไหว้ด้วย แต่มันแปลกที่การ์ดผับนี้เห็นแต่ไม่ทำอะไรเลย ฉันเป็นลูกสาวเจ้าของผับนะ แถมกำลังถูกลวนลาม ทำอะไรสักอย่างสิ! "ไม่ต้องมองหาตัวช่วย..." น้ำเสียงเขาเย็นชาแต่การกระทำสวนทาง มือใหญ่ไม่หยุดโอบเอวฉัน จนฉันตัดสินใจตัดปัญหาเอื้อมหยิบแก้วเหล้าที่มีเหล้าค่อนแก้วส่งให้เขาแทน รับไปสักมือเถอะ...ฉันจะได้ปลีกตัวหนีได้ "คุณดื่มต่อ และปล่อยตัวฉันลงเถอะค่ะ ฉันไม่ไปไหนหรอกแค่จะลงไปนั่งที่โซฟาเอง" ได้ผล...เขารับไปแล้วยกเหล้าดื่ม แต่เมื่อฉันจะฉวยโอกาสลุกขึ้นยืน มือหนาก็โอบเอวดึงลงไปนั่งอีกครั้งและประกบจูบทันที O//O "อื้อ!" แสงสีที่สาดมา ดนตรีเสียงดังอื้อถูกตัดออกไปจากโสตประสาทฉันโดยปริยาย และลืมไปด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังจูบกับคนแปลกหน้า รสขมของวิสกี้อยู่ๆก็หวาน และแทนที่จะยกแขนผลักเขาออกไปห่างๆ แต่ฉัน...กลับยกมือสองข้างขึ้นคล้องคอเขา "เดวา!" ฉันผละออก แล้วหันไปตามเสียงเรียกที่แข่งกับเสียงเพลงด้านล่าง และเมื่อเห็นว่าเป็นแฟรงค์เท่านั้น คำถามว่าเขามาได้ยังไงก็ไม่มีในหัวฉันเลย ฉันตัดสินใจได้ในทันทีว่าต้องทำอะไร รีบหันกลับไปหาชายแปลกหน้าที่แสนน่ากลัวคนนี้อีกครั้ง "ฉันขอจูบคุณอีกได้ไหมคะ อีกแค่ครั้งเดียว" เขามองเข้ามาในตาฉัน ราวกับต้องการคำตอบอะไรบางอย่าง "มันจะไม่ใช่ครั้งเดียว..." "เดวา อย่าทำแบบนั้น!" พอเสียงขอแฟรงค์ดังขึ้นให้ได้ยินอีกครั้ง ฉันก็ไม่รอช้า รีบโอบแก้มขาวแล้วทาบทับริมฝีปากตัวเองลงริมฝีปากเขาทันที มันแปลกแต่จริง... ฉันกระโจนเข้าความรุ่มร้อนที่น่าลุ่มหลงอย่างง่ายดาย แค่ลิ้นอุ่นกรุ่นแอลกอฮอล์เย้าหยอกกัน ฉันก็เคลิบเคลิ้มจนไม่อยากละไปไหน ความคุ้นเคยแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง... จนสุดท้าย...เขาเป็นฝ่ายถอนจูบออกมา และบอกกับฉันเบาๆ "ไปต่อ..." "จะไปไหนคะ พะ พอแล้ว" พอฉันตั้งสติได้ก็รีบลุกขึ้นยืน เพราะแฟรงค์ไม่อยู่แล้ว และที่โต๊ะก็ไม่เห็นด้วย แต่พอยืนให้เขาจ้องฉันอายเป็นบ้าเลย เอาแต่ยืนถูมือกับกระโปรงแล้วมองซ้ายมองขวา จะแก้ตัวยังไงดีนะ... "คือ...เมื่อกี้ฉันขอโทษค่ะ มันจำเป็น อีกอย่างฉันก็เมาด้วย ขอตัวนะคะ" เขาวางแก้ววิสกี้ลง 'กึก' ก่อนจะพูดมาตามหลัง "แต่เธอเริ่ม..." ฉันหยุดเดินแต่ไม่หันไปมองเขา ผู้ชายเย็นชาคนนั้นกำลังจะบอกอะไรฉันอีก เขาลึกลับ น่ากลัว แต่แอบน่าค้นหาอยู่ลึกๆ "จำไว้ ว่าต่อไปนี้...ทางเดียวที่เธอจะหนีฉันได้คือความตาย" ฉันเม้มปากแน่นและตัดสินใจเดินออกมา คำถามมากมายเด้งเข้ามาแต่ไม่อยากถาม เขาแค่ผ่านมาและผ่านไปเท่านั้น เดี๋ยวฉันก็ลืม ทั้งจูบ ทั้งคำพูด และทั้งเขา.... ••• "สมน้ำหน้าอิแฟรงค์ พอมันรู้ว่าแกมาก็รีบแจ้นมาเลยอ่ะ แต่พอเห็นแกอยู่กับผู้ใหม่ นางก็เดินมาคว้าขวดเหล้าและเดินออกไปเลย ก็จูบโชว์ไปเลยสิค้าาาาา" เพลงพูดดี๊ด๊า และทุกคนในโต๊ะคงเห็นหมดว่าฉันนัวกับใครข้างบน เพราะโซนวีไอพีกับโซนนี้มันต่างระดับกันอย่างชัดเจน "เดวา แกจะกินอะไรอีกไหม" เมื่อเห็นฉันเงียบไป ยัยเพลงก็หันมาถาม "ไม่ล่ะ ฉันอยากกลับแล้ว" เพลงมองหน้าฉันงงๆ "ยังไม่เที่ยงคืนเลยนะแก รุ่นพี่บางคนก็ยังไม่มา หรือว่า...." ฉันขึงตาใส่เพื่อนทันที หลายเรื่องแล้วนะ อย่าให้ฉันต้องคิดบัญชี "แกเลิกเชียร์ฉันสักที ฉันไม่อยากคบใครตอนนี้ เมื่อกี้ฉันอยากทำให้แฟรงค์เลิกยุ่งกับฉันเท่านั้นแหละ เรื่องจูบพรุ่งนี้ฉันคงลืม" ฉันมั่นใจว่าฉันจะลืม มั่นใจมาก เพราะก่อนหน้าฉันก็ลืมเขามาแล้ว จนเพลงจับไหล่ฉัน...และมองหน้ากันด้วยสีหน้าจริงจัง "แต่หลังจากนี้...ฉันเชื่อว่าชีวิตแกจะไม่เหมือนเดิม" "หมายความว่าไง?" "ที่ผ่านมาเขาแค่ปล่อยให้แกไปใช้ชีวิตของตัวเอง แต่ตอนนี้...เขาจะไม่ปล่อยแกไปอีกแล้วเดวา" ไม่คิดเลยว่าคำพูดของคนแปลกหน้าคนนั้นจะกวนใจฉันได้ขนาดนี้ ฉันคิดเรื่องเขาอยู่สักพักแต่ฉันสงสัยอยากถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบ ยัยเพลงบอกว่ารู้แค่นี้...แถมบอกให้ความรู้สึกฉันมันเป็นไปเอง เพราะถ้าบอกก็มีค่าเท่าเดิม ฉันจะลืมเขาอีกครั้ง และวนเวียนอย่างนั้นอีกหลายรอบ บางความทรงจำไม่จำเป็นต้องบอก แต่ต้องรู้สึกเอง แต่ที่แน่ๆ....เพลงย้ำกับฉันอย่างหนักแน่น ว่าเขาหวังดีกับฉันที่สุด มหาวิทยาลัย T "วันศุกร์สักที พรุ่งนี้ฉันจะนอนให้อิ่มเลย เอ้อเดวาวันนี้แกไปฟังบรรยายที่ห้องประชุมไหม?" เพลงถามขึ้นมาหลังจากที่เราเรียนคลาสแรกเสร็จ "เข้าสิ แล้วแกล่ะ" "เข้าฟังเหมือนกัน เขาบอกว่านักธุรกิจหนุ่มไฟแรงมาเป็นวิทยากรพิเศษ กว่าจะดึงตัวมาได้รอเกือบปีเลยนะแก" ฉันพยักหน้า ยัยเพลงจะตื่นเต้นทำไมนักหนาก็มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่มหาลัยจะเชิญคนเจ๋งๆมาบรรยายให้ฟัง และหลังจากกินมื้อเที่ยงเติมพลัง ฉันกับยัยเพลงก็ไปซื้อน้ำ และนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นชงโครอเวลา ฉันอ่านเลคเชอร์คาบก่อนแล้วบันทึกเสียงไว้กันลืม ส่วนยัยเพลงนั่งเล่นมือถือเงียบๆ จนถึงเวลาเข้าฟังบรรยายเราสองคนก็เข้าไปจับจองที่นั่งคนแรกๆ แต่ที่แปลกกว่าทุกครั้งคือมีชายใส่สูทคล้ายบอดี้การ์ดเดินเข้ามาตรวจตราก่อน ก่อนที่จะไปยืนตามมุมต่างๆ และคุมเข้มคนเข้าออกที่ประตูหอประชุม จนฉันกระซิบถามยัยเพลงด้วยความสงสัย "เชื้อพระวงศ์เหรอแก" ยัยเพลงอมยิ้ม แล้วหันมาพยักหน้าตอบ "อื้ม คล้ายแบบนั้น... แต่กร้าวใจและเท่มาก" คราวนี้ฉันหันกลับไปมองบนเวทีที่มีสเตเดียมสีดำด้านวางตระหง่าน วันนี้พิเศษกว่าทุกวันจริงๆ คณบดีอาจารย์ก็ดูตื่นเต้นกับการบรรยายครั้งนี้จนเดินวุ่นบนเวที และเช็คทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาเป็นใครกันนะ ฉันชักอยากเห็นแล้วสิ และเมื่อนักศึกษาเข้ามาเต็มห้อง ประตูห้องประชุมที่เปิดสองฝั่งก็ถูกผู้ชายสูทดำที่ประจำการดึงปิดทันที ก่อนที่อีกกลุ่มที่อยู่ด้านใน จะเดินตามแถวนักศึกษาตรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้ฉันต้องชะงักแล้วคว้าแขนเพลงก็คือ ผู้ชายสูทดำที่เดินมามีเข็มกลัดเหมือนเขา! ฉันไม่ลืม ไม่เลย พอเห็นเข็มกลัดสิงโตที่คนพวกนั้นติด ใบหน้าคนคนนั้นก็เด่นหลาอยู่กลางสมองฉันอัตโนมัติ! จูบ คำพูดของเขา บ้าจริง! มันกลับมาหมดรวมไปถึงจังหวะการเต้นของหัวใจ อย่าบอกนะคนที่ถูกเชิญมาเป็นวิทยากรพิเศษคือเขา "แกผู้ชายคนนั้นมาเป็นวิทยากรพิเศษเหรอ" เพลงส่ายหน้าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ "ไม่รู้สิ ฉันไม่รู้อะไรเลย" "เพลง!" ยัยเพลงยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้วจับมือฉันไว้ "ต่อให้เป็นเขาแกก็ทำใจเถอะเดวา ยังไงแกก็ต้องเป็นของเขาอยู่แล้ว..."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม