บทที่8

2144 คำ
ตลอดการเดินทางกลับมายังบ้านสุวงศ์ไพศาลไม่มีใครเอ่ยหรือพูดอะไรออกมาอีกเลยจนกระทั่งตัวรถยุโรปราคาแพงเลี้ยวเข้าไปจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้นั้นมีประมุขของบ้านนั้นยืนรอต้อนรับอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับบรรดาสาวใช้น้อยใหญ่ที่ยืนอยู่ขนาบข้างจนเมื่อได้เห็นสภาพของคนในรถเสียงร้องอุทานปนตกใจจึงร้องถามขึ้น… “ตายแล้วหนูเล็ก นี่มันเกิดอะไรขึ้นยัยทิพย์ ตาภพ! บอกย่ามาเดี๋ยวนี้!” ประมุขของบ้านกำชับถามเสียงสั่นทันทีเมื่อได้เห็นความผิดปกติของหลานสะใภ้ซึ่งในตอนนี้นั้นผมเพ่ารุงรังยุ่งเหยิงไม่เป็นทรงเหมือนกับตอนที่ออกไปจากบ้าน แม้เจ้าหล่อนจะพยายามดึงเอาเสื้อคลุมตัวยาวมาปกปิดเอาไว้แต่ก็อาจพ้นเอาสายตาของหญิงชราไปได้ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณย่า” “จะไม่มีได้ยังไงกันคะ มีค่ะคุณย่า มีมากด้วย! ถ้าคุณย่าอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทิพย์แนะนำให้คุณย่าไปถามพี่ภพเอาเองจะดีกว่าค่ะว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้บุกเข้าไปทำร้ายที่หนูเล็กถึงในห้องลองชุดกลางห้างแบบนั้น!!” เป็นทิพย์อักษรเองที่เป็นฝ่ายทนไม่ไหวจำต้องเอ่ยบอกออกไปตามความจริงก่อนจะถูกพี่สะใภ้ดึงชายเสื้อห้ามปามเอาไว้กลางคัน “น้องทิพย์คะ…” “ทำไมล่ะคะพี่หนูเล็ก ก็ทิพย์พูดความจริงนี่คะ ใครทำอะไรใจร้ายเอาไว้ก็ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจตัวเองอยู่แล้ว คนผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิดสิคะ” “เอาล่ะๆ เราแม่ทิพย์เดี๋ยวพาหนูเล็กกลับไปพักที่เรือนริมน้ำก่อน ส่วนเราพ่อภพตามย่าเข้าไปด้านใน มีเรื่องที่เราต้องพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว!” ผู้เป็นย่าเอ่ยกำชับหนักแน่นก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปด้านในบ้านใหญ่โดยมีหลานชายออกเดินตามไปติดๆ เพียงชั่ววูบเท่านั้นที่ตรีภพเริ่มสังเกตเห็นร่องรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นจากน้ำมือตนเองที่ต้นแขนเรียวของรินลดาเข้าโดยบังเอิญ แต่ไม่นานแววตานั้นก็ผ่านเลยไปไม่สนใจมันอีกต่อไป ภายในห้องโถงใหญ่หลังจากเดินตามผู้เป็นย่ามาจนถึงที่หมายตรีภพจึงค่อยๆ หย่อนกายนั่งลงบนโซฟาด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามนิสัย เนิ่นนานจนกระทั่งผู้เป็นย่าอดไม่ไหว จึงได้เอ่ยถามถึงความเป็นมาของเรื่องทั้งหมดขึ้น “เราทำร้ายหนูเล็กจริงตามที่แม่ทิพย์ว่ามารึเปล่าตาภพ!” “จริงครับคุณย่า ผมไม่ขอปฏิเสธในความจริงข้อนี้ ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับครับ!” “แกยังจะมีหน้ามาเรียกตัวเองว่าลูกผู้ชายอีกรึไง! คิดอะไรอยู่ถึงได้ไปทำร้ายเมียในที่สาธารณะแบบนั้น ฉันยังมองไม่เห็นเลยว่าหนูเล็กเขาทำอะไรผิด” ความจริงในข้อนี้ตรีภพเองก็เห็นด้วยกับผู้เป็นย่าและจนถึงตอนนี้ก็ยังหาเหตุผลมาให้ตัวเองไม่ได้อยู่ดีว่าเพราะอะไรเขาถึงโกรธเธอจนหน้ามืดขนาดนั้น อาจเพราะว่าหวง… ที่หล่อนใส่ชุดวาบหวิวโชว์ผิวกายขาวเนียนละเอียดบ้าๆ นั่น บอกตามตรงเขาไม่อยากให้ใครหน้าไหนได้เห็นมันนอกจากเขา อีกอย่างเขาไม่อยากให้หล่อนออกไปไหนไกลบ้าน ไม่อยากให้ใครเห็นเธอเพราะกลัวผู้คนจะเกิดจำขึ้นมาได้ ว่าผู้หญิงคนนี้คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของตัวเขาเองกันแน่ “ผมทำไปทั้งหมดก็เพื่อไม่อยากให้หล่อนขัดคำสั่ง มีอย่างที่ไหนกันจะออกไปไหนมาไหนไม่บอกกันล่วงหน้าแบบนี้ทั้งๆ ที่ผมเป็นสามีของเธอแท้ๆ!” “ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย เหตุผลของแกมันฟังไม่ขึ้นเลยสักนิดตาภพ!! อย่ามาใช้สิทธิ์ของความเป็นสามีของเขาเพื่อตอบคำถามของย่าทั้งๆ ที่แกไม่เคยทำหน้าที่ที่ว่านี้เลยนับตั้งแต่ที่แกแต่งงานกับเขามา ยิ่งขืนถ้ายังแกทำร้ายหนูเล็กแบบนี้ ถ้าย่าตายไปจะเอาหน้าที่ไหนไปพบคุณสายหยุดกับคุณโกสนพ่อแม่ของเขาได้ หนูเล็กต้องดับอนาคตของตัวเองเพื่อแต่งงานกับแกตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ว่าแกจะทำร้ายเขาหนักหนาสาหัสสากันแค่ไหนเขาก็ไม่เคยเลยสักนิดที่จะปริปากบ่น แล้วดูสิว่าวันนี้แกตอบแทนความดีของเมียแกยังไง!” “แต่ผมไม่ได้รักเธอ! คุณย่าเองก็รู้มาตั้งแต่วันที่บังคับให้ผมต้องแต่งงานกับเธออยู่แล้วไม่ใช่หรือครับว่าเรื่องทั้งหมดมันจะกลายเป็นแบบนี้เข้าสักวัน ผมไม่ได้รักเธอจะให้ฝืนหัวใจยังไงไหว” ความเป็นจริงที่ใครๆ ต่างก็รู้ดีถูกหยิบยกขึ้นมาตอบโต้ ความจริงที่แสนเศร้า ความจริงที่ว่าตรีภพนั้นไม่เคยรักอะไรในตัวของรินลดาเลยแม้แต่นิดเดียว สำหรับเขาเธอเป็นเพียงน้องสาวของคนรักเท่านั้น แม้ใจจะรู้ดีว่าหญิงสาวคิดเช่นไรกับเขาก็ตามที แต่มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น เพราะคนที่เขารักและรักตลอดไปมีแต่รันภัทรเพียงคนเดียวเท่านั้น จะไม่มีใครหรือสิ่งไหนมาบั่นทอนจิตใจของเขาให้เปลี่ยนทิศทาง นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องพยายามตีตัวออกห่าง ไม่เข้าใกล้ ไม่สนใจอะไรในตัวของรินลดานับตั้งแต่นั้นมา “ฉันถึงได้เสียใจมาจนถึงทุกๆ วันนี้ยังไงล่ะ ถึงแกจะไม่ได้รักเขาอย่างที่ปากพูด แต่อย่างน้อยๆ แกก็น่าจะดูแลเขาให้ดีบ้าง ให้สมกับที่เขาเป็นน้องสาวของคนที่แกรัก หนูภัทรเขาจะตายตาหลับได้อย่างไรถ้ายังเห็นน้องสาวของเขาต้องช้ำใจครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะความใจร้ายใจดำของแก” คนพูดพูดไปตามที่ใจคิดหากแต่คนฟังถึงกลับรู้สึกผิดเมื่อคิดตามคำที่ได้ยินมา “คุณย่า…” “เรื่องที่ย่าจะพูดกับแกก็มีเพียงเท่านี้ ที่เหลือมันอยู่ที่แกแล้วว่าควรจะทำยังไงต่อไป แต่ย่าขอเตือนอะไรแกเอาไว้สักอย่างนะ คนเราน่ะเกลียดอะไรก็มักที่จะได้อย่างนั้น สักวันแกจะเข้าใจถ้าได้เจอกับตัวแกเอง” ผู้เป็นย่าทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยประโยคที่แสนงงงัน ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นและเดินจากไปในที่สุด “คุณย่าผิดแล้วล่ะครับ เพราะว่าคนอย่างผมถ้าลองได้เกลียดแล้ว…ก็เกลียดเลย!” เนิ่นนานกว่าตรีภพจะย้ำชัดไล่ตามหลังผู้เป็นย่า ไม่มีวันที่เขาจะกลืนน้ำลายของตัวเองเป็นแน่ เกลียดก็คือเกลียด รักก็คือรัก ทั้งสองสิ่งนี้ไม่มีอะไรทั้งนั้นที่จะมาเปลี่ยนแปลงมันไปจากใจได้เลย หรือต่อให้มีจริงๆ ก็ต้องไม่ใช่กับผู้หญิงที่ชื่อ รินลดาอย่างแน่นอน! อีกด้านหนึ่ง “มันอาจจะเจ็บสักหน่อยนะคะพี่หนูเล็ก เอาเป็นว่าน้องทิพย์จะพยายามเบาๆ มือให้ได้มากที่สุดก็แล้วกันนะคะ” ทิพย์อักษรเอ่ยบอกพี่สะใภ้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนในขณะที่ทั้งคู่นั้นกำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่ศาลาท่าน้ำหน้าเรือนกลางที่เป็นดั่งเรือนหอของรินลดาและตรีภพโดยที่อีกฝ่ายนั้นอาสาใช้ยาหม่องนวดคลึงแผลที่ต้นแขนให้ เพราะกลัวว่ามันจะเกิดการอักเสบขึ้นมา “อุ้ย!” รินลดาร้องเสียงหลงเมื่อนิ้วเรียวสวยที่ถูกับยาหม่องเอื้อมเข้ามาสัมผัสบาดแผลที่ต้นแขนของตัวเอง แม้อีกฝ่ายจะพยายามเบามือที่สุดแล้วก็ตามที “ตายจริง! เจ็บมากไหมคะ น้องทิพย์ขอโทษนะคะ” “ไม่หรอกค่ะ มันแค่แสบๆ คันๆ เท่านั้น ขอบคุณน้องทิพย์มากนะคะที่ช่วยทำแผลให้พี่” คนถูกขอบคุณถึงกลับยิ้มได้เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยตอบว่าไม่ได้เจ็บอะไรมากนักไปอย่างที่นึกสงสัย ในสายตาของเธอรินลดาคือพี่สะใภ้ที่ดีที่สุดและอาจจะหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในชีวิตนี้ทั้งชีวิตของพี่ชายเธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนๆ เดียวที่ทุกๆ คนที่นี่ยกเว้นก็แค่ตรีภพพี่ชายให้การยอมรับ เธอไม่ใช่แค่เป็นคนดี ไม่เคยว่าร้ายให้กับใคร แต่ยังคอยเป็นห่วงเป็นใยทุกๆ ราวกับคนในครอบครัวของตัวเองก็ไม่ปาน เพราะเหตุนี้เองถึงทำให้ทุกคนที่นี่รักพี่สะใภ้ของเธออย่างไม่มีเงื่อนไข “พี่หนูเล็กอย่าไปโกรธพี่ภพเขาเลยนะคะ น้องทิพย์ว่าที่พี่ภพทำแบบนั้นก็เพราะว่าเขาคงจะหวงพี่หนูเล็กมากไปหน่อย เขาคงไม่อยากให้ใครมาเห็นพี่หนูเล็กในแบบที่สวยเปรี้ยวเข็ดฟันแบบนั้นแน่ๆ เลยค่ะ” “รู้สึกว่าเราจะรู้ใจพี่ไปเสียทุกเรื่องเลยนะยัยทิพย์ แต่ก็อย่าแน่ใจให้มันมากไป เพราะความจริงแล้วที่พี่ทำไปทั้งหมดมันก็แค่รักษาหน้าของตระกูลเราเอาไว้เท่านั้น” เป็นตรีภพเองที่เอ่ยสมทบก่อนจะจ้องมองน้องสาวและภรรยาสลับกันไปมาทันทีที่เดินมาถึงจุดหมาย “ไม่รู้ล่ะค่ะ น้องทิพย์เชื่อในสิ่งที่ตาเห็นเท่านั้น ไม่ว่าพี่ภพจะพูดจาร้ายกาจแค่ไหนก็การกระทำก็ย่อมที่จะขัดกับคำพูดไปเสียทุกที ตัวหวงเขาก็บอกว่าหวงสิคะไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย” มีหรือที่น้องสาวจะดูพี่ชายของตัวเองไม่ออกในบางครั้งและครั้งนี้มันก็เด่นชัดมากกว่าครั้งไหนๆ ที่ตรีภพนั้นแสดงอาการหึงหวงพี่สะใภ้ของเธอจนแทบจะคุมสติของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ “พูดอะไรของเรายัยทิพย์ไร้สาระไปกันใหญ่!” “ถ้าอย่างนั้นพี่ภพช่วยอธิบายให้น้องฟังหน่อยได้ไหมล่ะคะว่าทำไมถึงได้รีบกลับบ้านทันทีที่ได้เห็นพี่หนูเล็กถ่ายรูปกับพี่ดนัยเมื่อวันก่อน แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ดูโกรธนักกะอีแค่เราสองคนออกไปซื้อชุดสวยๆ เอาไว้ใส่กัน จะว่าไปแล้วก็น่าเสียดายอยู่นะคะ น้องทิพย์กะว่าจะให้พี่หนูเล็กใส่ชุดที่ลองวันนี้ให้พี่ดนัยดูเป็นคนแรกแท้ๆ แต่พี่ภพกลับมาชิงตัดหน้าไปซะได้” “หยุดพูดจาไร้สาระแล้วกลับเรือนใหญ่ของเราได้แล้วยัยทิพย์ก่อนที่เราจะทำให้พี่ต้องหัวเสียไปอีกคน!” ตรีภพสวนกลับน้องสาวอย่างคาดโทษก่อนที่อีกฝ่ายจะยกมือยอมแพ้และเดินหนีจากไปในที่สุด อยากจะให้คนทั้งสองได้มีเวลาสวีทอยู่ด้วยกันบ้างไหนๆ พี่ชายก็อุตส่าห์ทิ้งงานกลับบ้านแต่หัววันแบบนี้หากมีเรื่องดีดีเกิดขึ้นมาทดแทนเรื่องร้ายซะบ้าง มันก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว รินลดาเฝ้ามองทิพย์อักษรที่เดินหายลับไปไกลสุดสายตาก่อนจะหันกลับมาจ้องมองร่างสูงตรงหน้าอีกครั้งอย่างใจเย็น ไม่นานนักหญิงสาวก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินเลี่ยงเบี่ยงตัวเองออกมาจากศาลาทำท่าจะเดินหนีเข้าไปยังตัวบ้านแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะถูกมือหนากระชากต้นแขนเอาไว้ซะก่อน “โอ้ย!” หญิงสาวร้องขึ้นเมื่อตรีภพนั้นกำเอาบาดแผลที่ล้วนเกิดจากน้ำมือของเขาทั้งสิ้นพาลทำให้ความเจ็บปวดที่เพิ่งจะหายไปหวนกลับเข้ามาหาอีกครั้งจนต้องรีบชักมือตัวเองกลับมาแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยหนำซ้ำยังกำแรงขึ้นเสียจนหญิงสาวต้องร้องบอกกลับไปอีกครั้ง “ฉันเจ็บนะคะคุณภพ!” “ก็ทำให้เจ็บ! จะได้ไม่กล้าเดินหนีฉันแบบนี้อีก!” น้ำเสียงไม่พอใจตอบกลับไปก่อนจะค่อยๆ คลายแขนออกอย่างช้าๆ ใจนึงก็นึกสงสารคนตัวเล็กตรงหน้าแต่อีกใจก็ไม่ชอบที่หล่อนกล้าเดินหนีกันทั้งๆ ที่ปกติแล้วไม่เคยทำแบบนี้เลยสักครั้งนอกเสียจากว่าเขาจะเป็นคนเอ่ยปากสั่ง “คุณตรีภพมีอะไรกับฉันคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม