ตอนที่ 6
คุณหมอท่านหนึ่ง
เสียงดังจากมือถือที่วางทิ้งไว้ยังหัวเตียง ปลุกให้ควีนจำใจต้องเอื้อมมือไปคว้ามันมา ทั้งที่ในตอนนี้สาวน้อยอยากจะพักผ่อนเสียมากกว่า
"นี่นังหนู มันใกล้เวลานัดแล้วนะคะลูก เมื่อไรจะเสด็จมาคะ" เสียงค่อนขอดลอยลิวดังแว้ดๆ มาตามสายทำให้แม่เล้าคนงามต้องยกมือถือออกจากหูพลางลุกขึ้นนั่งทั้งที่ตายังไม่ลืมขึ้นด้วยซ้ำ
"นี่เจ๊! ทำไมไม่ไปกันเองคะ ควีนง่วงมากเลยตอนนี้ "
"ไม่ได้ย่ะ! ถ้าหนูไม่ไป แล้วคุณหมอรูปหล่อนั่นจะให้ส่วนลดพวกเจ๊รึไง "
"ให้สิ เดี๋ยวโทรบอกให้" แม้จะเสนอไปแบบนั้นทว่าปลายสายยังคงไม่พอใจอยู่ดี
"ไม่รู้ล่ะ ถ้าหนูไม่มา พวกเจ๊ไปอยู่สังกัดอื่นนะ!" คำขู่นั้นได้ผล สาวน้อยตำแหน่งสูงรีบร้อนบอกออกไปทันที
"โอเคๆ อีกสิบนาทีเจอกัน อย่าเพิ่งใจน้อยไปล่ะ!"
ไม่รอช้า ร่างบางที่แท้จะผ่านศึกสงครามรักเร่าร้อนยาวนานแทบทั้งคืนรีบกระวีกระวาดลุกขึ้นไปยังจุดนัดหมายทันที
ตัวอาคารสูงใหญ่สีขาวบริสุทธิ์ตัดกับป้ายชื่อสถานที่สีแดงเข้มจนสะดุดตา หากแต่ว่าตอนนี้ที่เหมือนจะสะดุดมากกว่าอื่นใดก็คุณเจ๊ประมาณสามสี่คนที่ยืนทำหน้าบูดอยู่ข้างหน้านั่นแหละ
"ไม่มาพรุ่งนี้เลยละหนู"
สาวทรงโตคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย ทว่าดวงตาราวกับจะฉีกเนื้อแม่สาวที่เพิ่งมาใหม่ให้ขาดเป็นริ้วๆ
"ได้เหรอ!" แม่เล้าคนงามทำท่าจะหันหลังกับทว่าเสียงประสานราวโอเปล่าก็ดังขึ้น
"ประชด!!" แม่เล้าคนสวยหัวเราะร่าพลางเดินนำเด็กๆ ที่มีอายุมากกว่าไม่กี่ปีเข้าตัวอาคารไป
สาวน้อยสวยในชุดฟอร์มแบบเดียวกันตรงเข้ามาหากลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใหม่ทันทีและดูจะมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ
"บริการสาวๆ ให้ดีนะครับคัดแต่สิ่งที่ดีที่สุดเลยนะ เพราะลูกค้าที่มากับคุณควีนก็เหมือนเป็นแขกคนพิเศษของผม"
เสียงนุ่มกระแทกใจดังลอยมาให้ได้ยินใกล้ๆ พร้อมกับเจ้าตัวจะเดินตรงลิ่วเข้ามาหา
ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตและกางเกงผ้าดีขับให้เขาสะดุดตามาแต่ไกล โครงหน้าหล่อละมุนชนิดว่าวัวตายควายล้มส้มยังหยุด ส่งรอยยิ้มเปล่งประกายอวดฟันขาวมาให้ มันช่างเข้ากันดีเหลือเกินกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มีประกายของความอบอุ่นทว่าดึงดูดในคราเดียวกัน นี่ถ้าเขาเดินมาอย่างเชื่องช้ามีลมพัดเบาๆ ล่ะก็สาวๆ คงคิดว่าเขาเป็นโอปป้าแดนกิมจิที่ในซีรีส์ยอดนิยมแน่ๆ
"หมอซานนี่ โค-ตะ-ระ หล่อเลยอ่ะแก ไม่เสียแรงที่ฉันมาที่นี่"
กลุ่มสาวสวยผู้มากับควีนกระซิบกระซาบกันพลางส่งสายตาหวานเชื่อมให้คนมาใหม่ ทว่าเหมือนเขาจะไม่ได้มองสิ่งใดเลยด้วยซ้ำนอกจากแม่เล้าคนงามซึ่งยืนหาววอดๆ อยู่
"สวัสดีครับคุณควีน ดูเหมือนคุณจะยังไม่ตื่นดีนะนั่น"
"พอดีควีนนอนไม่พอน่ะค่ะ เลยเบลอๆ หน่อย"
"งั้นถ้าวันนี้คุณควีนไม่ได้มาทำเอง งั้นไปนั่งพักตรงโซนนู้นกันครับ"
เขาว่าพลางเดินนำเธอไปทันทีด้วยท่าทางสนิทสนมแม้สาวเจ้าจะคงวางท่าทีนางพญาใส่ก็ตาม โดยหมอหนุ่มไม่วายกำชับพนักงานให้ดูแลสาวๆ ของควีนให้ดี
ท่ามกลางความเสียดายของกลุ่มคนงาม ในขณะที่ควีนเองได้แต่ลอบถอนหายใจออกทว่าก้าวตามอีกฝ่ายไปอย่างเสียมิได้ เพราะหากไม่ตามไปคงเป็นอะไรที่เสียมารยาทน่าดู
"แล้วหมอก็ไปกับยัยควีนอีกจนได้"
สาวงามบ่นออกมาอย่างเสียดายแม้จะรู้ว่ามันจะเข้าอีหรอบนี้ก็ตาม ก็เพราะแบบนี้ไงพวกเธอถึงได้เคี่ยวเข็ญให้คุณแม่เล้าคนสวยมาด้วย เพราะถึงหมอซานจะไม่ได้มาพูดคุยกับเธอโดยตรง แต่เขาก็มักจะมาหาควีนเสมอพวกนางเลยได้อาศัยใบบุญไปด้วย เรียกว่าไม่ได้พูดคุยแต่ขอแทะโลมก็เอา
"สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยนะครับ ดูเพลียๆ จนผิวหมองไปเลย"
คนถูกทักเผลอจับหน้าตัวเองอย่างแอบตกใจ พลางนึกโทษคนต้นเหตุที่คงจะไปนอนหลับสบายใจอยู่ไหนสักแห่ง
"ฉันนอนไม่ค่อยพอค่ะ พอดีลูกค้าเยอะ"
"แต่คุณก็น่าจะพยายามพักให้มากในช่วงกลางวันนะครับ ไม่งั้นคุณจะโทรมเอา คือ...ผมเป็นห่วงน่ะครับ เอ่อหมายถึง ในฐานะลูกค้าคนสำคัญ"
คนพูดหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาหน่อย พลางเอามือลูบท้ายทอยไปมาอย่างขวยเขิน
ท่าทีของอีกฝ่ายทำให้ควีนได้แต่ลอบถอนหายใจออกมา ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าคนตรงหน้าคิดกับเธอแบบไหน ทั้งรอยยิ้ม ความใจดี ความสนิทสนมที่อีกฝ่ายพยายามจะส่งมาตลอดเกือบหนึ่งปีที่รู้จักกันมาก็พอจะเป็นหลักฐานชั้นดีบ่งบอกว่าเขาคิดกับเธอมากกว่าลูกค้าประจำอย่างมิต้องสงสัย
หากแต่ควีนกับไม่พร้อมจะรับโอกาสนั้น สาวน้อยคิดเอาเองว่าเธอก็แค่ผู้หญิงทำงานกลางคืนที่ใครเขาจะจริงจังด้วย อีกอย่างหมอซานคนนี้ก็ดูมีอนาคตที่สดใสไม่เหมือนเธอที่มืดดำ นั่นจึงทำให้คนงามขีดเส้นความรู้สึกไว้ด้วยท่าทีเย็นชาและแสดงออกอย่างชัดเจนว่าวางเขาไว้ในฐานะอะไร ไม่ให้อีกฝ่ายก้าวข้ามเลยความสัมพันธ์นั้นมาได้
ในจังหวะนั้นเองเสียงมือถือของควีนก็ดังขึ้นโชว์เบอร์แปลกที่เธอไม่รู้จัก สาวน้อยขอตัวออกไปรับสายทันทีโดยที่มีสายตาของหมอซานที่มองตามตาละห้อยกับท่าทีของเธอ
"ค่ะ ควีนพูดค่ะ"
"นี่ผมเอง เจ้าของร่างกายของคุณ เบอร์นี้เป็นเบอร์ส่วนตัวของผม ช่วยบันทึกไว้เป็นเบอร์ต้นๆ ด้วย"
ปลายสายสั่งเสร็จก็ตัดสัญญาณไปทันที ทิ้งสาวน้อยที่ยังคงทำหน้างุนงงไว้อย่างนั้น
ในห้องทำงานหรูมีระดับของลูเซียโน่ แลเห็นท่อนขาของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงมั่นคง ก่อนจะมาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานที่มาเฟียอิตาลีนั่งอยู่
"เรียบร้อยดีใช่ไหม"
หัวหน้ามาเฟียเอ่ยถามออกไปทั้งที่ยังไม่เงยหน้าด้วยซ้ำ
"ครับ"
ฝ่ายนั้นตอบมาเพียงสั้นๆ ซึ่งลูเซียโน่ก็ได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะยื่นมือไปเอาซองสีน้ำตาลตรงหน้าที่อีกฝ่ายยื่นให้มาดู รอยยิ้มพึงพอใจฉายชัดทันที
"ดีมากโจ นายนี่สมกับเป็นลูกน้องมือขวาฉันจริงๆ นายคงสงสัยสินะว่าฉันทำไปทำไม"
"..."
"โอกาสไง ฉันอยากให้โอกาสคนคนหนึ่งได้เติบโต เพราะฉันเชื่อว่าเธอจะคว้ามันและทำให้ความสำเร็จสูงสุดบังเกิด เหมือนที่ฉันเคยได้รับและทำมันได้"
คนมาใหม่ก้มต่ำเล็กน้อยเป็นเชิงรับคำ ใบหน้าคมสันรับกับจมูกโด่งแบบชาวต่างชาติทำให้เขาดูน่ามองรองลงมาจากผู้เป็นนาย ถ้าหากว่าประกายในแววตาสีน้ำข้าวนั้นจะไม่ให้ความรู้สึกบางอย่างเหมือนที่เป็นอยู่ในบางจังหวะ
***