ตอนที่ 7 ที่ทำงานใหม่

1760 คำ
หลังจากที่ได้สัมภาษณ์งานผ่านและเธอได้เข้ามาทำงานที่โรงแรมนี้อย่างปกติจนผ่านมาสามเดือนของการทดลองงานของเธอ วันนี้วันสุดท้าย น้ำอิงจะได้รับการเซ็นสัญญาบรรจุเป็นพนักงานประจำของโรงแรมนี้ ที่สำคัญที่สุดวันที่น้ำอิงรอคอยไม่ใช่การเลื่อนบรรจุเป็นพนักงาน แต่กลับเป็นวันที่เธอจะได้รับค่าเซอร์วิสชาร์จเต็มเดือนแถมยังได้เลื่อนเงินขึ้นเป็นเดือนละสองหมื่นอีก ก็เท่ากับว่าเดือนๆหนึ่งจะมีเงินไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ แถมยังเหลือเก็บนิดหน่อยโดยที่ไม่ต้องเครียดทุกเดือนเหมือนแต่ก่อนแล้ว “ตรงนี้ค่ะ...น้องน้ำอิง” พนักงานฝ่ายบุคคลชี้ให้เธอเซ็น หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าก่อนที่ปลายปากกาแห่งสัญญาจะได้จรดลงบนกระดาษแผ่นนั้น ศิลารัตน์ได้ขุดหลุมให้เธอเต็มใจเดินลงไปในนรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “โรงแรมของเรายินดีต้อนรับนะคะ แหมทำได้ทุกอย่าง ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สายแบบน้องน้ำอิงเนี้ยพี่ชอบ” หนิงหนิงหัวหน้าฝ่ายบุคคลพูดกับพนักงานใหม่ที่พึ่งผ่านโปรไม่นาน อย่างหน้ายิ้มหน้าชื่นเธอชอบน้ำอิงมากเพราะเป็นคนน่ารักและแล้วยังคอยช่วยเหลือทุกอย่างที่ทุกคนขออีกด้วย “อ้อ น้องน้ำอิงท่านประธานเรียกพบแหนะ ...ไว้อีก20นาทีค่อยขึ้นไปแต่อย่าเลทนะคะ ท่านไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา” “เดี๋ยวค่ะ ท่านประธานเรียกพบอิง พบเรื่องอะไรคะอิงเป็นแค่...พนักงานเล็กๆ” น้ำอิงถามด้วยความแปลกใจ ท่านประธานจะมาเรียกพบเธอทำไม ปกติถ้าเป็นเรื่องงานก็จะสั่งการผ่านหัวหน้าแผนกของเธอไม่ใช่รึไง “เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองแหละ คุณแพทเลขาท่านไม่ได้บอกมาว่าเรียกพบน้ำอิงเรื่องอะไร” “อ๋อค่ะ ให้ขึ้นไปเลยใช่มั้ยคะ” เมื่อออกจากห้องฝ่ายบุคคลได้เธอรีบขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังชั้นบนสุดของโรงแรมทันที 20นาทีที่ว่าคงเผื่อเวลาให้เธอขึ้นไปชั้นบนสุดนี่แหละ เมื่อถึงชั้นที่สูงลิ่วของตึกประตูลิฟต์ได้เปิดออก ร่างบางเดินออกมาก็พบว่ามันเป็นทางเดินโล่งๆ มองไปสุดทางเดินพบว่าที่นี่มีพนักงานสาวสวยสองคนนั่งก้มหน้าง่วนอยู่กับงาน ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง น้ำอิงจึงเดินเข้าไปแนะนำตัวแล้วทวนคำพูดของหัวหน้าฝ่ายบุคคลให้สองคนฟังอีกรอบ “สวัสดีค่ะ น้ำอิงค่ะมาพบท่านประทาน ไม่ทราบว่าเอ่อ...” “ท่านรออยู่แล้วค่ะ เชิญทางนี้” แพทเดินนำน้ำอิงเข้าไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานใหญ่ก่อนจะเอื้อมมือเรียวบางไปเคาะสองสามทีแล้วเปิดประตูเข้าไป น้ำอิงเดินเข้ามาพบว่าภายในห้องชั้นเกือบบนสุดของโรงแรมเป็นห้องที่โอ่อ่ามีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ซ้ำภายในห้องฝั่งซ้ายมือยังมีประตูที่เปิดไปยังอีกห้อง ขณะนั้นได้มีแม่บ้านทำความสะอาดเปิดประตูออกมาพอดี น้ำอิงจึงรู้ว่าประตูนั้นคือประตูที่เปิดไปยังห้องนอน แพทพาน้ำอิงเดินเลี้ยวขวาเข้ามาจนสุดทางเดินสีขาวเป็นห้องทำงานที่มีกระจกบานใหญ่ใสแจ๋วเห็นวิวกรุงเทพฯ ไกลสุดลูกหูลูกตา หญิงสาวที่พึ่งเคยเห็นภาพแบบนี้ก็อดที่จะอ้าปากค้างพลางชื่นชมความสวยงามของวิวตรงหน้านี้ไม่ได้ “โชคดีนะคะ” พอเดินมาส่งแขกของเจ้านายเสร็จ แพทก็บอกให้น้ำอิงยืนรออยู่ตรงนี้ หน้าโต๊ะทำงานอันใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง พบเพียงเก้าอี้ที่หันหลังให้เธอ “สวัสดีค่ะท่านไม่ทราบว่าเรียกฉันมามีธุระ อะ... อะไร หรือปะ...” ยังพูดไม่ทันจะจบดวงตากลมโตเบิกกว้างทันที เมื่อพบว่าคนที่เรียกเธอมาพบนั้นแท้จริงแล้วเป็น เป็นเขาเอง! ปีศาจใจร้ายที่เธอพยายามหนีมาโดยตลอด “คุณศิลา!” เธอร้องเสียงหลง เมื่อพบว่าหัวหน้าคนใหม่ของเธอคือคนที่เธอเกลียดที่สุดในชีวิต “ยินดีต้อนรับ....น้ำอิง” เขาเอ่ยต้อนรับหลังเอนกายพิงไปบนเก้าอี้หลังสีดำเงาทำงานตัวใหญ่ ก่อนยกนิ้วขึ้นลูบไล้ริมฝีปากไปมาพลางใช้สายตากวาดมองบนเรือนร่างที่อยู่ในชุดพนักงานของโรงแรมของเขาแล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มที่คาดเดาไม่ได้ “คุณเองเหรอที่เป็นเจ้าของที่นี่ ก็ไหนว่า...” ก่อนมาเธอหาข้อมูลของโรงแรมนี้แล้ว กระทู้ในเนตมันบอกว่าเจ้าของเป็นชาวต่างชาติที่ชื่อบรู๊คไม่ใช่เหรอ แล้ว...แล้วทำไมถึงกลายเป็นเขาได้ล่ะ “ตกใจอะไร” ศิลารัตน์ถามก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินปรี่เข้าไปหาเธอ “ตัวสั่นเชียว เธอกลัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ...” น้ำเสียงเยือกเย็นท่าทางเย็นชาของศิลารัตน์ทำให้หญิงสาวนึกถึงวันที่เขามาหาเธอที่ร้าน คิดถึงแล้วในใจมันก็หวาดหวั่น ครั้งที่แล้วเขาแค่ใช้อำนาจของหุ้นส่วนบังคับเธอก็ถือว่าแย่พอแล้ว นี่เธอเดินเข้ามาถ้ำเสือ ถิ่นของเขา ที่นี่เขาเป็นเจ้าของ 100 % ไม่รู้ต่อไปเขาจะแกล้งอะไรเธอบ้าง “ถ้าฉันรู้ว่าที่นี่เป็นของคุณฉันจะไม่มาเหยียบที่นี่เด็ดขาด คนเลว!” ศิลาลุกจากเก้าอี้เดินปรี่เข้าไปหาหญิงสาวที่อยู่ในชุดพนักงานห้องอาหารของโรงแรมเขา หญิงสาวถอยห่างทันทีเมื่อพบว่าอีกคนเดินเข้ามาหา ยกมือขึ้นกอดอกป้องกันตัว “ฉันว่าแล้วว่าคนจนที่เห็นแก่เงินแบบเธอคงไปไหนไม่ได้ไกลหรอก...เธออยากได้เงินเท่าไหร่ว่ามา แล้วฉันจะให้เธอได้ขึ้นมาทำงานกับฉัน...บนนี้…ในห้องนั้น” ชายหนุ่มชี้ไปยังห้องนอนที่น้ำอิงพึ่งเดินผ่านมา ตลอดการสนทนาเขาเอาแต่มองเธอด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามไม่หยุด “เงินอะไร ฉันไม่ต้องการ...แค่คุณให้เงินเดือนฉันเท่าที่ฉันควรจะได้รับแบบพนักงานคนอื่นๆและไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก แค่นี้ก็พอแล้วเงินแสนเงินล้านเงินสกปรกของคุณน่ะฉันไม่ต้องการหรอก งานแบบที่คุณว่า...ไปจ้างคนอื่นมาทำเถอะ!” ความหยิ่งผยองของเธอทำเอาเขาตาลุกวาวเขาไม่เคยคิดว่าคนที่กำลังร้อนเงินจะกล้าปฏิเสธข้อเสนองามๆจากเขาได้ “แต่ฉันอยากช่วยเธอ แค่ต้องเปลืองตัวนิดหน่อยมาเป็นนางบำเรอให้ฉัน...ทำทุกอย่างตามที่ฉันต้องการ เธอก็จะได้ทุกอย่างที่เธออยากได้...ปลดหนี้บ่อนให้พ่อ ส่งน้องเรียน แบกหน้ามาของานฉันทำก็ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอกเหรอ” ร่างสูงก้าวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นกัดกรามแน่นเพราะความโกรธที่โดนดูถูก “นางบำเรอเหรอ...หึๆ เดี๋ยวนี้พวกคนรวยๆแบบคุณ มันตัณหากลับจนหน้ามืดตามัวจนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีกันไปหมดแล้วไปแล้วหรือไง ถึงได้เที่ยวเอาเงินมาฟาดหัวใครต่อไปเค้าไปทั่ว... คนโรคจิต ตัณหากลับ! ฉันว่า...ถ้าคุณอยากได้นางบำเรออะไรนี่มากนะคะขอแนะนำให้ไปหาซื้อเอาที่อื่นเถอะนะคะ อย่ามาหวังเอาจากฉันเลยเพราะยังไงฉันก็เอา ไม่ทำ! ไม่เด็ดขาด จะไล่ฉันออกก็เชิญ...คนอย่างฉันจะไม่มีวันให้คุณเอาปืนมาจี้หัวเป็นครั้งที่สองแน่” ด่าจนหนำใจ น้ำอิงจึงคิดจะรีบพาร่างของตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ทว่ากลับต้องหยุดชะงักเมื่อโดนอีกฝ่ายพูดดักไว้ซะก่อน “ครอบครัวเล็กๆของเธอนี่ดูน่ารักดีนะ ฉันคิดว่าเธอคงไม่ต้องการให้พวกเขาอดอยากจนตายใช่มั้ย…คนที่มีแบล็คลิสติดตัว ต่อให้ไปทำอะไรหรือไปสมัครงานที่ไหนก็คงไม่มีใครเค้ารับ ผมพูดถูกมั้ย คุณน้ำอิง” “คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง....หรือว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของคุณ” “ประวัติพนักงานของฉันทุกคนผ่านตาฉันมาทั้งนั้นแหละ... งานไม่มีทำ เงินก็ไม่มี พ่อก็ติดหนี้พนันแถมประวัติยังติดแบล็คลิสอีก ฉันอยากจะรู้นักว่าถ้าเธอออกจากที่นี่ไปเธอจะไปทำอะไรกิน” “อ๋อ ทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะฝีมือคุณนั่นเอง ฉันว่าแล้วเชียว คุณมันคนเลว! เลวมาก เลวไม่มีที่ติจริงๆทำได้แม้กระทั่งคนไม่มีทางสู้อย่างฉัน!!! โอ้ย!” ข้อมือของเธอถูกเขากระชากไปหาเขาอย่างแรงจนร่างของเธอชนเข้ากับแผงอกเขาอย่างแรงสายตาโกรธแค้นที่ถูกไฟสุมอกจนรุ่มร้อนเขาอยากจะลงทัณฑ์คนปากดีที่อยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้เสียจริงๆ ปกติใครที่กล้ามาด่าเขาแม้แต่คำเดียวแบบนี้ป่านนี้คงได้กลายเป็นผีไปแล้ว แต่นี่เธอด่าเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่รักตัวกลัวตายแบบนี้มันดูเร้าใจเขาดีแท้...เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าปากเก่งๆแบบนี้อยู่บนเตียงจะเก่งเหมือนปากหรือเปล่า “อย่ามาปากดีกับฉัน โสเภณีชั้นต่ำ!” เพี้ยะ! เธอใช้ฝ่ามือตบหน้าเขาอย่างแรงจนหันกับคำที่เขาดูถูกเธอ เขาหันมามองเธอด้วยสายตาเกรี้ยวกราดพร้อมจะทำลายคนตัวเล็กให้แหลกคามือไปเลยเดี๋ยวนี้ สันกรามบวมปูดเพราะความโกรธเเค้นที่ถูกเธอต่อว่า “หยุดดูถูกคนอื่นสักที คุณอย่าคิดว่ารวยแล้วจะอยู่สูงกว่าคนอื่นได้นะคะ อย่าคิดว่าคุณจะมองคนอื่นที่ต่ำต้อยกว่าแล้วคุณจะเหยียบพวกเราเหมือนผักเหมือนหญ้าได้ ฉันจะบอกอะไรให้คุณฟังนะคะ ฉันไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จะมีคนเคยสอนคุณหรือยัง...ว่าต่อให้คุณรวยล้นฟ้าแค่ไหนคุณก็แค่คนธรรมดาเดินบนดินคนหนึ่งเหมือนกับทุกคนบนโลกใบนี้!!! เพราะฉะนั้น อึ้ม!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม