เสียงเรียกชื่อคุ้นหู แต่ไม่ใช่ชื่อของเธอแน่นอนที่แว่วมากระทบใบหูเล็ก ทำให้สติที่หลุดลอยไปแล้วกลับคืนมาแทบจะทันที ‘เธอไม่ใช่ไลลา เธอคืออารียาต่างหาก’ ร่างบางกะพริบตาปริบๆ เพื่อขับไล่ความรู้สึกบางอย่างออกไป และพยายามนึกทบทวนบางอย่างให้ออก
‘หรือเพราะชีคหนุ่มคิดว่าเธอคือไลลา เขาจึงได้จับตัวเธอมาอย่างนั้นหรือ?!’
อาการแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ที่เปลี่ยนไปกะทันหัน ทำให้ชีคหนุ่มรู้สึกได้ แม้ว่าตอนนี้อารมณ์ของพระองค์จะเตลิดไปไกลจนแทบจะกู่ไม่กลับ แต่อารมณ์ที่เปลี่ยนไปแบบปัจจุบันทันด่วนของคนตัวเล็กใต้ร่าง ทำให้พระองค์ต้องขืนพระวรกายเอาไว้ ก่อนที่จะเงยพระพักตร์เข้มจัดด้วยไฟเสน่หา ขึ้นมาทอดพระเนตรมองดวงหน้าเรียวสวยที่กำลังเต็มไปด้วยเลือดฝาดสาวอย่างฉงนในพระทัย
“เจ้าเป็นอะไรไปหรือ ฮาบิบตี้”
“เมื่อกี้ พระองค์ ทรงเรียกหม่อมฉันว่าอะไรนะเพคะ”
“ก็ ฮาบิบตี้ไง เจ้าไม่ชอบหรือ”
“เปล่าเพคะ ชื่อก่อนหน้านั้น”
พระขนงย่นเข้าหากันชั่วครู่ เมื่อทรงนึกถึงชื่อที่พระองค์ทรงเรียกเธอออกไปก่อนหน้านั้น แล้วก็ทรงนึกขึ้นได้
“อ๋อ ไลลา แล้วเจ้าจะมาถามเซ้าซี้ทำไมกันเล่า เราต้องการเจ้านะไลลา เราจะไม่ตอบคำถามอะไรเจ้าอีกแล้ว”
สิ้นรับสั่งก็ทรงประกบริมฝีปากปิดเสียงที่พระองค์ไม่ทรงปรารถนาที่จะรับฟังเสียสิ้น ไม่สนอาการดิ้นรนของอีกฝ่าย ที่พยายามส่ายหน้าไปมาเพื่อให้หลุดพ้นจากการรุกรานของพระองค์
“ตะ...แต่ว่า...หมะ...หม่อมฉันไม่ใช่...ละ...อื้อ...”
ถ้อยคำปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่ไลลา ถูกกลืนลงไปในลำคออีกครั้ง พร้อมกับการรุกรานที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายแบบไร้การผ่อนปรน เพราะพระองค์เสียเวลามามากพอแล้ว คราวนี้พระองค์จะไม่ยอมหยุดอีกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ทุกอย่างจะต้องหยุดลงเมื่อพระองค์ทรงหมดแรงเท่านั้น
พระโอษฐ์หยักสวยได้รูป เลื่อนลงมาดูดกลืนยอดประทุมถันอย่างบ้าคลั่งรุนแรง เพราะชื่อไลลามันมากระตุ้นให้ชีคหนุ่มต้องทำรุนแรงกับเธอ เพราะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ทำให้น้องสาวของพระองค์เสียใจจนเสียสติ
และเวลานี้ถึงเวลาที่ผู้หญิงแพศยาอย่างเธอจะต้องถูกลงโทษด้วยการมาเป็นนางสนมให้พระองค์จนกว่าพระองค์จะเบื่อ หรือจนกว่าพระขนิษฐาของพระองค์จะหายเป็นปกติ เธอจึงจะได้รับอิสรภาพ เพราะถ้าถึงตอนนั้น ชีคกาเล็ดก็คงไม่คิดที่จะเอาเธอขึ้นไปเป็นพระชายาได้อีกแล้ว
ชีคหนุ่มเล้าโลมเชลยสาวด้วยอารมณ์ดิบเถื่อนไร้ความอ่อนโยนจนอารียาตื่นตระหนก จนตัวสั่นระริก นี่เขากำลังโกรธเธออยู่หรือเปล่า โกรธเรื่องอะไร
“อย่าเพคะ ไม่นะ! อ๊ะ”
ดอกบัวคู่งามถูกกระตุ้นเร้าด้วยสองพระหัตถ์และพระโอษฐ์อย่างร้อนแรงไร้ความปรานี แต่มันกลับสร้างความเสียวซ่านให้กับอารียาอย่างมากล้น
เพราะไฟปรารถนาถูกจุดติดนานแล้ว ความรู้สึกที่คั่งค้างเมื่อครู่ที่ผ่านมาจึงลุกฮือขึ้นอีกครั้งด้วยไฟพิศวาสที่ร้อนแรงและลุกโชนมากขึ้นกว่าเดิม จนร่างกายที่เต็มไปด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าที่สวยงามราวกับพระเจ้าเป็นผู้ปั้นมา ดิ้นเร่าไปกับบทรักที่จัดเจนของชีคหนุ่มจนไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป
“ท่านชีค หมะ...หม่อมฉันไม่ใช่...” เมื่อริมฝีปากเป็นอิสระ และสติที่เหลือเพียงน้อยนิดทำให้อารียา เอ่ยประท้วงออกมาอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยจนจบประโยค
“หยุดนะไลลา! ขืนเจ้าพูดออกมาอีกคำเดียวเราจะรุนแรงกับเจ้าให้มากกว่านี้หลายเท่า จนเจ้าร้องไม่ออกเลยคอยดู!”
อารียาทั้งหวาดหวั่น ทั้งกลัวอาญาจึงหยุดชะงักไปชั่วครู่ ขณะที่พระดรรชนีเรียวใหญ่ก็ล้วงลึกลงไปเบื้องล่าง แล้วสะกิดเอาอาภรณ์ผืนสุดท้ายออกไปจากร่างกายงดงามของเธอ แล้วจึงแทรกนิ้วร้ายลงไปในความชุ่มฉ่ำที่คับแน่นในร่างกายสาว พร้อมทั้งขยับเข้าออกเป็นจังหวะที่เร่าร้อนชวนให้เสียวซ่านแทบจะขาดใจ
“อ๊ะ...อา...” ความรู้สึกบางอย่างกำลังเล่นงานเธออย่างทรมานจนต้องเกร็งหน้าท้อง และต้องเกร็งไปทั้งร่าง เมื่อนิ้วใหญ่ขยับรัวเร็วมากยิ่งขึ้น พร้อมกับปลายลิ้นที่ละเลงเลียลงบนเม็ดทับทิมถี่รัว
ร่างบางหอบหายใจกระเส่าด้วยความเสียวกระสันเข้มข้นจนไม่อาจกลั้นเสียงหวานไว้ได้อีกต่อไป เสียงครวญครางด้วยความสุขสมจึงดังออกมาไม่หยุดหย่อนและดังมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างลืมตัว ลืมสิ้นทุกอย่างว่าตอนนี้เธอเป็นใคร
เมื่อรู้สึกว่านิ้วใหญ่ถูกโอบรัดแน่น พระองค์จึงถอดนิ้วร้ายออก พร้อมกับปลดผ้าผืนเล็กที่แปะอยู่บนร่างกายส่วนที่นูนเด่นของพระองค์ออก พระวรกายหนาแทรกเข้าระหว่างเรียวขาขาวผ่อง ก่อนที่จะยกขาเรียวขึ้นพาดบ่า แล้วเบียดแทรกผลักดันความอลังการของพระองค์ที่มันยืดขยายจนสุดความยาวเข้าไปในเรือนกายของหญิงสาวทันทีอย่างจาบจ้วงรุนแรง
“กรี๊ด!!” เสียงหวีดร้องลั่นจนแก้วหูแทบระบม ทำให้ชีคหนุ่มแปลกพระทัยมากที่สุด
“นี่เจ้ายังบริสุทธิ์อยู่หรือ ฮาบิบตี้ โอว...ไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าเรา...”
ชีคหนุ่มกำลังจะบอกว่าพระองค์ไม่อาจจะหยุดยั้งได้อีกต่อไปแล้ว ทรงห้ามพระทัยองค์เองให้หยุดไม่ได้อีกแล้ว ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป และต้องไปแบบต่อเนื่องไม่หยุดด้วย
พระวรกายใหญ่โตเริ่มขยับตัวเนิบช้าได้เพียงชั่วครูเท่านั้น พระองค์ก็หักห้ามพระทัยให้อ่อนโยนต่อไปอีกไม่ไหว เพราะที่ผ่านมาพระองค์หยุดบ่อยจนความรู้สึกมันสะสมพอกพูนกระทั่งมันแทบจะระเบิดออกมาตั้งหลายหลายครา ตั้งนานแล้ว
และพอได้สอดประสานกับร่างกายที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง อารมณ์ของพระองค์ก็ยิ่งพุ่งขึ้นสูงจนน่ากลัว แต่ถึงกระนั้นก็ยังทรงชะลอได้ แต่วินาทีนี้พระองค์ทรงอดกลั้นความสุขสมที่กำลังจะระเบิดต่อไปไม่ไหวแล้ว
“โอว ฮาบิบตี้ เจ้าทำให้เราควบคุมตัวเองไม่ได้เลย เราจะคลั่งตายอยู่แล้วเพราะเจ้า” สิ้นรับสั่ง จังหวะรักเร่าร้อนต่อเนื่องจึงเริ่มขึ้นอย่างดิบเถื่อน แต่เพราะความช่ำชองในเชิงรัก พระองค์จึงมีวิธีที่จะกระตุ้นให้ร่างบางตามพระองค์จนทัน
เมื่อจุดที่ไวต่อความรู้สึกบนร่างกายถูกกระตุ้นพร้อมกันหลายๆ จุดในเวลาไล่เลี่ยกันด้วยความสามารถของผู้ชายที่จัดเจนในสนามรัก ก็ทำให้อารียาเสียวซ่านขึ้นมาอีกครั้ง และความรู้สึกมันก็ทวีสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าใจหายเมื่อความเจ็บผ่านพ้นไป
“ท่านชีค...”
ศีรษะได้รูปสวยสะบัดไปมาบนหมอน เพราะความทรมานที่ร่างกายกำลังต้องการการปลดปล่อยอย่างรุนแรง แต่ไม่รู้จะต้องทำยังไง
“ท่านชีค...”
ไม่รู้จะบอกพระองค์อย่างไรว่าเธอไม่ไหวแล้ว ทรมานมากเหลือเกิน
“ปลดปล่อยตัวเองออกมา ฮาบิบตี้ รู้สึกมากเท่าไหร่ ให้ร้องออกมา ปลดปล่อยออกมาให้หมด เชื่อใจเรา...นะ ฮาบิบตี้ โอวว์”
แล้วพระพักตร์หล่อเหลาที่ชื้นไปด้วยเหงื่อก็ก้มลงมาประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากอิ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ทรงสอดพระชิวหาเกี่ยวกระหวัดรัดเรียวลิ้นเล็กขณะที่สะโพกสอบยังคงถาโถมลงมาราวกับพายุทรายที่โหมกระหน่ำอย่างหนัก
“โอว...” ชีคหนุ่มอยากจะครางออกมาให้ดังลั่นกับความเสียวซ่านที่เข้มข้นจนสุดจะทน
กระทั่งร่างเล็กนิ่งเกร็งพร้อมกับแรงกอดรัดตลอดแก่นกายแข็งขันแน่นขึ้น ชีคหนุ่มก็รู้แล้วว่าหญิงสาวใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว ร่างหนาจึงทรงควบขับด้วยความเร็วและทะยานไปข้างหน้าอย่างหนักหน่วงแบบไม่ออมแรงอีกต่อไป
“กรี๊ดดดด” เสียงกรีดร้องยาวอย่างต่อเนื่อง ดังออกมาพร้อมกับเสียงครางต่ำสลับกันไปมา จนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร
ร่างของทั้งสองเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงเนิ่นนานเกือบจะพร้อมกัน จนกระทั่งสายธารแห่งรักไหลมารวมกันที่แอ่งสวาทจนฉ่ำชื้น พร้อมกับพระวรกายที่ชื้นไปด้วยเหงื่อฟุบลงมาซบอกนุ่ม ไม่เคยมีการร่วมรักครั้งไหนที่พระองค์จะทรงรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและมีความสุขสมมากมายเท่ากับครั้งนี้มาก่อนเลย
แต่ยังไม่ทันที่ชีคหนุ่มจะได้หยุดพักให้หายเหนื่อย เสียงสะอื้นของคนตัวเล็กก็ทำให้พระพักตร์หล่อเหลาต้องผงกศีรษะขึ้นมามอง
“เจ้าเจ็บมากใช่มั้ยไลลา”
“หม่อมฉันไม่ใช่ไลลา หม่อมฉันคืออารียา แฝดน้องของพี่ไลลาต่างหากเพคะ”