แต่สติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด ก็ทำให้วงแขนเล็กค่อยๆ สอดขึ้นไปโอบรอบลำคอใหญ่ แกล้งสอดเรียวลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นร้อนๆ ของเขาบ้างอย่างแสนรู้ เพื่อความเอาตัวรอดเธอจะต้องทำให้เขาตายใจให้เร็วที่สุด ก่อนที่เธอจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน
ชีคหนุ่มรู้สึกพอพระทัยยิ่งนักที่ทำให้แมวสาวแสนพยศสงบลงได้ ดังนั้นขั้นตอนต่อไปคือทำให้แมวสาวร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านใต้ร่างของพระองค์ให้จงได้ แล้วพระโอษฐ์ร้อนผ่าวก็ผละออกเพื่อเคลื่อนเป้าหมายมายังแอ่งชีพจรที่กำลังเต้นอยู่บนลำคอขาวผ่องหอมกรุ่น
อารียารู้สึกวาบหวามจนแทบจะขาดใจ เมื่อริมฝีปากสวยเกินชายและลิ้นอุ่นชื้นระดมจูบและดูดดึงขบเม้มสร้างรอยรักไปทั่วลำคอขาวผ่อง ขนอ่อนๆ ทั่วร่างลุกชูชันด้วยความซ่านสยิวที่ยังไม่เคยพบพาน แม้ว่าร่างกายจะสั่นสะท้านเพียงใด แต่หญิงสาวก็ยังไม่ยอมแพ้
ผู้ชายสูงศักดิ์คนนี้มิได้รักเธอ มีเพียงแค่ความเสน่หาในเรือนร่างของเธอเท่านั้น เขากำลังจะใช้ชั้นเชิงที่เหนือกว่าในประสบการณ์รักอันโชกโชนของเขามาใช้กับเธอ เพื่อให้เธอหลงใหลไปกับมนต์เสน่หาที่เขาหยิบยื่นให้ แต่เมื่อบทรักนี้จบลง เธอยังจะเหลืออะไรอีก
พลั่ก!
มือเล็กทั้งสองข้างที่กำลังโอบรอบลำคอแข็งแรงอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็ลดลงมาออกแรงผลักร่างหนาออกไปจากตัวเธอได้สำเร็จ และรีบลงมายืนข้างเตียงรีบจัดการเสื้อผ้าของตนเองให้เข้าที่ ก่อนที่จะตั้งหลักต่อสู้กับคนตัวโตที่กำลังมองมาทางเธอด้วยท่าทางโกรธจัด
“นี่เจ้า! เจ้าทำอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่า”
“รู้เพคะ หม่อมฉันก็กำลังปกป้องตนเองอยู่ไงล่ะเพคะ”
ต่างคนต่างหอบหายใจ คนหนึ่งก็รู้สึกคาดไม่ถึงอีกครั้งกับความพยศของเชลยสาวที่หลอกล่อพระองค์จนตายใจ อีกคนก็จับจ้องร่างสูงใหญ่ที่กำลังลุกขึ้นลงมาจากเตียงแล้วตรงเข้ามาหาเธอช้าๆ อย่างหวาดหวั่นแต่ใจก็ยังสู้ไม่ถอย
ดวงตากลมโตจ้องเขม็งสบประสานนัยน์ตาสีทรายเข้มจัดไม่กะพริบ ราวกับนางเสือสาวระแวงภัยที่พร้อมจะสู้ตายได้ทุกเมื่อ
ชีควาคิลอยากจะรู้นัก ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ มีแรงเท่ามดแบบนี้จะสู้อะไรพระองค์ได้ ขณะที่ทรงคิดก็เคลื่อนกายเข้ามาใกล้นางเสือสาวมากขึ้น พระองค์รู้สึกขำท่าทางตั้งการ์ดของเชลยสาวยิ่งนัก
“เจ้าคิดจะทำอะไรเราสาวน้อย หืม”
ชีคหนุ่มถามพลางเดินเข้าไปใกล้หมายจะกอด แต่นางเสือสาวก็หลบมุดตัวลอดวงแขนได้ทันท่วงที และเมื่อพระองค์ตั้งใจจะรวบร่างบางเข้ามากอดรัดด้วยความมันเขี้ยวอีกครั้ง บางสิ่งที่ชีคแห่งดาร์บูย่าไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ตุ้บ!!
“อ้ากกก! โอ๊ย! นี่เจ้า?!”
ดรรชนีเรียวยาวชี้มาที่ร่างบางสั่นระริก ทั้งจุกทั้งเจ็บ ไม่คิดเลยว่า เธอจะใช้วิชายูโดล้มเขา ผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่นี้เก่งวิชาการต่อสู้ด้วยหรือ ท่าทางก็แสนจะเรียบร้อยเหนียมอาย ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ พระองค์ปรามาสเธอมากเกินไป
แต่พระเนตรคมกล้ากลับเปล่งประกายความพอพระทัยออกมาไม่น้อย แต่ว่าพระองค์จะพลาดครั้งนี้อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไปอย่าหวังว่าชีคแห่งดาร์บูย่าจะพลาดพลั้งให้แก่สตรีอีกเป็นครั้งที่สาม พลาดพลั้งครั้งแรก ทำให้พระองค์ต้องเจ็บลิ้น พลาดพลั้งครั้งสอง ทำให้พระองค์ต้องเจ็บตัว ถ้าหากพลาดพลั้งครั้งสามพระองค์คงไม่พ้นต้องเจ็บใจตนเองแน่
แต่มันจะไม่เกิดเหตุการณ์น่าอายแบบเมื่อครู่นี้อีก ดีนะที่ไม่มีใครมาเห็นตอนที่พระองค์โดนเธอทุ่มลงมาทั้งตัว รู้ถึงไหนคงได้อายไปถึงนั่น ร่างหนาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคงอีกครั้ง
คราวนี้สายพระเนตรของชีควาคิลดูเปลี่ยนไป จนอารียารู้สึกขนหัวลุก ชีคหนุ่มกำลังจะเอาจริงแล้วใช่ไหม เขาจะเอาเธอตายไหมเนี่ย โทษฐานที่ทำให้พระองค์เจ็บตัวจนแทบจะลุกไม่ขึ้น
ร่างบางถอยไปตั้งหลักเสียไกล เมื่อพระวรกายสูงใหญ่ก้าวเข้ามาช้าๆ
“อย่าเข้ามานะเพคะ ไม่อย่างนั้นพระองค์จะต้องเจ็บตัวมากกว่าเมื่อกี้นี้แน่” แม้ใจจะกลัวแค่ไหน แต่ปากยังกล้าแบบใจดีสู้เสือ
“เจ้ายังคิดว่าเราจะพลาดอีกหรือ คาดหวังเกินไปแล้วมั้ง เมื่อกี้ที่เราพลาด เพราะเราประมาทเจ้าเกินไป แต่ครั้งนี้อย่าหวัง ว่าเจ้าจะทำร้ายเราได้เหมือนเดิมอีก และเราจะไม่ปรานีเจ้าอีกแล้ว!”
สิ้นกระแสรับสั่งที่แสนเกรี้ยวกราด พระวรกายหนาใหญ่ก็ก้าวเข้ามาประชิดร่างเล็กทันทีอย่างปราดเปรียวและรวดเร็วดุจพายุ ราวกับพญาเหยี่ยวบินร่อนลงมาโฉบเหยื่อ โดยที่เหยื่อสาวไม่ทันได้หลบหลีกไปไหน รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่แผ่นหลังบางปะทะเข้ากับฝาผนังกว้างจนไร้ทางไป
“พระ...พระองค์อย่าทรงกริ้ว...หม่อมฉันเลยนะเพคะ”
เมื่อรู้ตัวว่าถึงทางตัน ไม่อาจจะทุ่มคนตัวโตลงพื้นได้อีก อารียาก็เริ่มใช้ไม้อ่อน เปิดการเจรจาดีๆ กับคนตรงหน้าแทนการใช้กำลัง แต่มีหรือที่คนที่เจ็บตัวอย่างหนักไปเมื่อครู่จะยอม
“เราเพิ่งรู้ว่าเจ้าชอบความรุนแรง”
ชีคหนุ่มไม่ได้สนพระทัยในสิ่งที่เชลยสาวพูดสักนิด ตอนนี้สิ่งที่พระองค์กำลังจะทำ ก็คือการปราบพยศเชลยสาวตัวแสบให้อยู่หมัด และให้ร่างบอบบางอรชรนี่หมอบราบคาบแก้วอยู่ใต้ร่างของพระองค์ให้จงได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ใช่ชีควาคิลแห่งดาร์บูย่า! เทพบุตรทะเลทรายประกาศก้องในพระทัย
สองมือเล็กพยายามดันร่างที่แกร่งดุจภูผาออกห่าง แต่ร่างนั้นก็ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย พระวรกายสูงใหญ่ยังคอยแต่จะเคลื่อนเข้ามาแนบชิดมากขึ้นเรื่อยๆ จนอารียาแทบจะไม่มีที่ว่างสำหรับตัวเอง รู้สึกอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
หญิงสาวเพิ่งจะรู้สึกหวาดกลัวชีคจอมเถื่อนคนนี้ก็ตอนนี้เอง สายพระเนตรคมกล้าร้อนแรงที่ส่งมาราวกับจะลงทัณฑ์ มันทำให้อารียารู้สึกเหมือนตนเองเป็นนักโทษประหารที่หมดหนทางอุทธรณ์ลดหย่อนผ่อนโทษให้กับตนเอง ดวงตาวาววับเมื่อครู่จึงไหวระริกไปมาด้วยความหวาดกลัวอสูรทะเลทรายตรงหน้าสุดหัวใจ
ใบหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยเลือดฝาดเมื่อครู่เริ่มซีดเป็นกระดาษขาว มือไม้สั่นไปหมด เมื่อพระหัตถ์ร้อนๆ แตะต้อง และบีบเคล้นตรงหัวไหล่บอบบาง
“จะ...จะทรงทำอะไรหม่อมฉันหรือเพคะ” หญิงสาวพอจะเดาออกหรอกว่าชีคหนุ่มจะทำอะไร แต่เธอก็อยากจะถามเพื่อถ่วงเวลาการโดนลงทัณฑ์ออกไปเท่านั้น
“เจ้าไม่น่าถาม คำถามโง่ๆ นี่เลยนะ แต่ถ้าเจ้าไม่รู้จริงๆ เราก็จะบอกเจ้าเดี๋ยวนี้แหละ ฮาบิบตี้”
จบประโยคน่าสะพรึงกลัว พระพักตร์หล่อเหลาบาดจิตก็โน้มต่ำลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้รวดเร็วราวกับงูพิษที่ฉกวูบเข้ามาหา
ทั้งๆ ที่กลัวชีคหนุ่มจับจิต ทั้งที่คิดหวาดหวั่นคนตัวโตจับหัวใจ แต่ภายในกลับหวั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งที่ความรู้สึกนี้มันน่าจะเกิดกับผู้ชายที่เธอมีใจให้เท่านั้น แต่ทำไมถึงต้องมาเกิดความรู้สึกนี้กับชีคเถื่อนที่จับตัวเธอมาภายในเวลาอันรวดเร็ว หญิงสาวก็ยังไม่เข้าใจ
มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เธอจะตกหลุมรักชีคหนุ่มที่ทำตัวเยี่ยงโจรทะเลทรายที่จับตัวเธอมาเป็นเชลย เพียงเพื่อจะพาเธอเข้ามาสู่ฮาเร็มของเขาในตำแหน่งนางสนมที่บำเรอความใคร่ให้กับเขาเพียงเท่านั้น
ความรักต้องเกิดจากความประทับใจแรกที่ได้เห็นและพบเจอ แต่กับเขา ชีควาคิล บินราอิด อันราอูลผู้นี้ เธอพบเจอเขาด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง บางครั้งก็หวาดกลัวจับจิต