Chapter 1 : สวยก่อนตายหรือตายก่อนสวย

1094 คำ
Chapter 1 : สวยก่อนตายหรือตายก่อนสวย หญิงสาวหน้าตางุนงงกับเอกสารที่มีรายละเอียดทั่วไปเกี่ยวกับการทำงาน เธอคิดว่ามันมาจากฝ่ายบุคคล หากไม่ติดว่ามันลงท้ายด้วยคำแปลก ๆ ด้านล่างของกระดาษมีรูปวาดเป็นตุ๊กตาหุ่นฟางบริเวณศีรษะเป็นหัวกะโหลกอมนุษย์หรือตัวอะไรสักอย่าง ถูกเจาะด้วยเข็มหมุด น่ากลัวประหลาด ‘แด่ชีวิตและขุมสมบัติ’ ‘โชคชะตาแลกด้วยเลือดหนึ่งหยด’ ‘จิตวิญญาณที่สูญสิ้น’ ‘ความปรารถนาและอำนาจของปีศาจ’ นี่มันอะไร! หญิงสาวนิ่งอึ้งตะลึงงัน ยามสบนัยน์ตาคมเข้มสีอำพันสวยราวลูกแก้ว ใต้คิ้วเข้มหนาที่เรียงตัวกันเป็นเส้นเฉียง ทรงผมเรียบเสยเปิดหน้าผากรับใบหน้าคมคาย สมเป็นเจ้าของร้านตัดผ้าชื่อดังแนวหน้าของเมืองไทย ‘พันวา ยาซาคอฟ’ ใครกันจะไม่รู้จักเขา! แม้แต่พนักงานใหม่อย่างเธอเองยังรู้ตัวว่าถูกลอบมองด้วยแววตาน่าขนลุกมาร่วมอาทิตย์ หลังเพื่อนร่วมงานกระซิบบอก แต่ยังต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ทำยอดขายให้ได้ตามเป้า “คุณดุลยาหัวหน้าฝ่ายบุคคลฝากไว้ให้ครับ ผมไม่แน่ใจว่าเขาเดินไปไหน” เงียบไป จากนั้นมุมปากหนาก็ยกยิ้มอย่างมีลับลมคมใน “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา ราวกับว่าเขาเพิ่งพูดมันเมื่อสักครู่ เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เพิ่งลอยหายไปหมาด ๆ หากไม่เป็นเพราะเสียงจากหม้อน้ำเดือดปุด เนื้อไก่ล้นทะลักออกมาพร้อมกลิ่นหอมของเครื่องเทศ สาวร่างอวบยกหม้อข้าวหม้อใหญ่มาจากข้างหลัง เรียกสติให้กลับมาสนใจงานตรงหน้าอีกครั้ง “ดาว... ลูก เหม่ออะไร ไก่เละหมดแล้ว” “โทษทีจ้ะแม่ หนูลืม เอ่อ... คิดอะไรเพลิน ๆ ต้มเพลินไปหน่อย” เธอรีบหรี่ไฟปิด ก่อนที่ไก่ทั้งหม้อจะรับประทานไม่ได้หากว่าต้มมันจนเละ แม่จะต้องต่อว่าเธอแน่ ๆ ปกติเธอก็ไม่ใช่คนชอบเหม่อลอย แล้วต่อให้เธอจะเหม่อก็ไม่น่านึกถึงเรื่องของเจ้านายหนุ่ม ที่ไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอเลย หญิงสาวส่ายหน้าไปมา บังคับตัวเองให้เลิกฟุ้งซ่าน ขยับผ้ากันเปื้อนลายดอกไม้ให้เข้าที่ ค่อยหันไปจัดการเขียง มีดปังตอ เพื่อเปิดร้านอาหารให้ทันในเวลาแปดโมง ทว่าทันใดนั้นเอง เจ้าสัตว์ร้ายที่มีขาแหลมเล็กราวเข็มก็ย่างกรายออกมายืนหราข้างมือ แทนที่เธอจะสับมันให้เละกลับส่งเสียงหวีดร้อง “กรี๊ดดดด!” ร่างบางในเดรสสูทกระโดดไปจากหน้าเขียงอย่างรวดเร็ว ยิ่งเสียกว่านักกีฬาวิ่งผลัดทีมชาติ มีดในมือปลิวหล่นลงบนโต๊ะเหล็ก คุณแม่และพี่ชายน้องชายผลัดกันอุทานเสียงหลง ลุกจากเก้าอี้ไปคนละทิศละทางในพื้นที่ของทาวน์โฮมหนึ่งคูหา ไม่ได้มีบริเวณกว้างขวางมากมาย คนหนึ่งอยู่มุมร้าน คุณแม่วิ่งไปด้านหน้าใกล้ริมทางเท้าคนเดิน ส่วนคนต้นเหตุไปหลบอยู่หลังเก้าอี้เหล็ก “อะไรของแกเนี่ย! ยัยดาว มีดจะหล่นใส่หัวอยู่แล้ว แกจะฆ่าแม่รึไง” แม่ตะโกนว่า สองมือเท้าเอวอวบ ท่าทางเอาเรื่องเอาราว “ขอโทษนะแม่ หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูเห็นแมงมุมขาแหลม ๆ โคตรน่ากลัว วันนี้หนูเจอแมงมุมสามตัวแล้ว!” “ไหนวะ... ไม่เห็นจะมีอะไรสักตัว แม่เห็นแต่จิ้งจก” ต่างคนหมุนคอมองไปรอบ ๆ ร้านแต่ก็ไม่เห็นแมงมุมสักตัว คุณแม่กลัวไม่ทันงานจึงเดินไปตักไก่ในหม้อใส่ถาดกลมใบใหญ่ด้วยตัวเอง ปากบ่น “จะไปทำงานก็ไปเถอะ ไม่ต้องมากุเรื่อง ไก่ฉันไม่เสร็จเสียที เดี๋ยวลูกค้ามาเต็มร้าน ขายข้าวมันไก่ไม่ทันอีก” “หนูเคยกุเรื่องที่ไหนเล่าแม่! หนูเห็นแมงมุมจริง ๆ นะ” “แต่ผมไม่เห็นครับ พี่ติ๊กเห็นไหม?” ลูกชายคนเล็กขยับแว่นหน้าเตอะถามพี่ชายคนโต ส่ายหน้าไปมาบอก “ไม่เห็นนะ” ใบหน้านวลขาวซีดด้วยท่าทางตื่นตระหนก เธอแน่ใจว่าเห็นแมงมุมตัวดำเมี่ยม ขาของมันแหลมน่ากลัวมาก แต่กลับไม่มีใครเห็นอะไรเลย คุณแม่ยังเริ่มหงุดหงิด “เอ้อ! ไม่มีใครเขาเห็นแมงมุมสักตัว แม่ว่าสายตาแกมันคงจะมีปัญหาแล้วล่ะ ไปไหนก็ไปปะ แม่ล่ะเบื่อ” บ่นแล้วก็หันไปทางสองหนุ่ม คนหนึ่งก้มหน้ากดจอสี่เหลี่ยม บนเก้าอี้กลมมนสะอาดเอี่ยม ส่วนอีกคนในมือหนามีหนังสือเล่มโต เขาตั้งใจอ่านมันไปพลาง ๆ ระหว่างรอข้าวเช้าฝีมือแม่ “ไอ้นี่ก็เล่นแต่เกม ไอ้นั่นก็อ่านแต่หนังสือ ดีค่ะ... อีกหน่อยแม่ไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้ามาเปิดร้านแล้วสินะ ให้เกมเมอร์ระดับโลกกับหมอเต้เลี้ยงแม่เนอะ” พอคุณแม่เริ่มชื่นชมน้องชายพี่ชาย ทั้งที่เธอน่ะตื่นคนแรกของบ้านมาช่วยแม่ทุกเช้า ตรึงใจคงต้องน้อยใจเป็นธรรมดา หญิงสาวพยายามลืมหน้าตาน่าเกลียดของเจ้าสัตว์ร้าย ไปจับทัพพีที่ทำจากไม้ในหม้อใบใหญ่ คนข้าวให้เข้ากัน อย่างไม่ลืมหน้าที่ตัวเอง “ไม่ต้องรอหมอเลี้ยงหรอกแม่ กว่าหมอจะเรียนจบอีกนาน ป๋าเปย์อยู่นี่ปะ ข้าวสุกแล้วก็ตั้งร้านไปเถอะค่ะ” ควันลอยฉุยจากข้าวมันสีเหลืองส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน หน้าตู้กระจกที่มีไก่ต้มแขวนอยู่ในเวลาแปดโมงตรง ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วเธอจึงล้วงหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ในผ้ากันเปื้อนลายสวยส่งให้ “เอ้านี่หมื่นนึงค่าทำขวัญมีดหล่น เดือนนี้ได้ค่าคอมฯ เยอะ หนูไปแล้วนะ” “ว้ายยตาย! ไปเลยค่ะลูก ขอให้เจริญ ๆ” “สาธุ” พูดพลางยกมือประนม ปลายหัวแม่โป้งจรดหน้าผาก เมื่อเจ้าของร่างอวบในชุดพร้อมทำงานรีบนับเงิน ก่อนเก็บมันลงกระเป๋าหน้า รูดซิปอย่างระวังให้แน่ใจว่าจะไม่ทำหล่น รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าสวยหวานใต้เครื่องสำอางอ่อน ลูกสาวได้ให้สินน้ำใจกับแม่แล้วก็เดินออกจากทาวน์โฮมสามชั้นสองคูหา ที่เป็นทั้งบ้านและร้านข้าวมันไก่ บึ่งรถประจำตำแหน่ง ซีวิคสีดำเพื่อตรงไปทำงานอย่างภาคภูมิใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม