ฟ้าใสยืนอยู่บริเวณโต๊ะพลูกำลังเล่นด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ เพราะไม่เคยเล่นมาก่อน ส่วนเปรมกับหลินเล่นตู้เกมส์อยู่ไม่ห่างกันนัก เรนกับโซนก็ท้ากันเล่นอยู่อีกโต๊ะ ธันน์ยืนดูทั้งคู่
"ธันน์สอนฟ้าใสหน่อยสิ" โซนกระเซ้าคนที่ยืนปรายตามองฟ้าใสเป็นระยะด้วยสายตาเรียบนิ่งอย่างคนไม่ถูกชะตา
"พี่โซนอยากสอนก็สอนเองสิ"
"พี่แข่งกับไอ้เรนอยู่"
"เล่นไม่เป็นอ่ะดิ" ฟ้าใสยืดตัวตรง ตวัดพาดไม้คิวไว้บนไหล่ตนเอง ว่าค่อนขอด
"เธอมากกว่ามั่งที่เล่นไม่เป็น ตัวก็สูงกว่าโต๊ะแค่นั้น ขาก็ใหญ่อย่างกับขาโต๊ะ ยังจะอยากเล่น" ธันน์สวนกลับทันควัน มองฟ้าใสตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ความสูงของเธอแค่อกเขาเท่านั้น
"ไอ้ธันน์ ฉันไม่ได้เตี้ยนะ ขาก็ไม่ใหญ่ด้วย" ฟ้าใสมองธันน์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อที่บังอาจมาว่าเธอเตี้ย ขาใหญ่เหมือนขาโต๊ะพลู
"เออ...ไม่ทะเลาะกันนะ" โซนห้ามทัพ ฟ้าใสสะบัดหน้าพรืด
"ฉันสอนเธอก็ได้ถือว่าเอาบุญ ดู!" ฟ้าใสเบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้ มองธันน์ถือไม้คิวเดินมาตั้งท่าที่ทะมัดทะแมงก้มลงไปให้สายตาอยู่ที่ตำแหน่งของลูก และค่อยมองไปที่เป้าหมายแทงลูกไปด้านหน้า ตบลูกลงหลุมไปอย่างง่ายดาย
"ก็งั้นๆ ใครก็ทำได้ หมูๆ" ฟ้าใสเบะปากและยักไหล่เล็กน้อย
"งั้นเหรอ" ธันน์แสยะยิ้ม มองคนอวดเก่งตรงหน้า
"คอยดูนะ" ฟ้าใสว่า เธอจะยอมให้ผู้ชายปากร้ายมาสบประมาทแบบนี้ไม่ได้ ถือไม้คิวด้วยความมาดมั่นเดินไปยังตำแหน่งลูกสีขาว จัดตำแหน่งไม้คิวไว้ในมือ จัดตำแหน่งร่างกายที่คิดว่าเหมือนตอนที่ธันน์เล่น เล็งไปที่ลูกสีขาว แล้วจัดการแทง แต่เธอแทงไม่โดนลูก
"หึ" ธันน์หัวเราะหึ ฟ้าใสหน้าแดงทั้งอายทั้งโกรธคนที่หัวเราะเยาะเธอ
"ฉันยังไม่ได้เอาจริงซะหน่อย" ฟ้าใสเชิดหน้าอย่างวางมาด
"ถ้างั้นก็ช่วยเอาจริงให้เป็นบุญตาฉันเสียที"
"ชิ! ไอ้ธันน์บ้า" ฟ้าใสตวาดแหว ก่อนจะตั้งท่าอีกครั้งด้วยความมุ่งมั่น
"เร็วๆ สิ" ธันน์เร่งเมื่อฟ้าใสเอาแต่เล็ง ไม่แทงสักที ฟ้าใสตวัดมองด้วยหางตา ก่อนจะใช้ไม้คิวแทงไปที่ลูกสีขาวให้พุ่งกระทบกับลูกสีแดงลงหลุมไป
"เย่ๆ ลงหลุมแล้ว เห็นม่ะ" ฟ้าใสกระโดดโลดเต้นดีใจที่ทำลูกลงหลุมได้ โซน เรนกลั่นขำกับความไม่ประสาของฟ้าใส
"ฟาล์ว" ธันน์ว่า พร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ย
"อะไร? ฟาล์วอะไร?"
"ลูกขาวลงหลุมไปด้วยไม่เรียกว่าฟาล์วจะให้เรียกว่าอะไร" ฟ้าใสเม้มริมฝีปากเข้าหากัน กัดปากล่างของตัวเองมองค้อนธันน์ตากะหลับกะเหลือกรู้สึกเจ็บใจ และเสียหน้าเป็นที่สุด
"จะกัดปากทำไม เดี๋ยวก็เป็นแผล" คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน รู้สึกไม่ชอบใจที่ฟ้าใสกัดปากตัวเอง ก่อนจะยื่นมือไปใช้นิ้วโป้งเกลี่ยริมฝีปากของฟ้าใสให้เธอเลิกกัดปาก ดวงตาคู่สวยมองอย่างไม่ไว้วางใจ
งั่ม!
"เฮ้ย!!" โซน เรนอุทานด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว
"โอ๊ย! ยัยหมาบ้า" ธันน์ร้องลั่นเมื่อถูกฟ้าใสงับไปที่นิ้วโป้ง ดีนะที่เธองับแล้วปล่อย ไม่ได้ฝังคมเขี้ยวให้จมลึกลงไป
"สมน้ำหน้า ...พี่โซนขา พี่เรนขา สอนฟ้าใสเล่นหน่อยสิคะ" ฟ้าใสกระแทกเสียงใส่ ก่อนจะหันไปออดอ้อนโซนกับเรน โดยไม่สนใจสายตาอาฆาตของธันน์
"เออ...ครับๆ น้องฟ้าใส มาพี่โซนสอน" โซนสอนฟ้าใสเล่นพลู สอนให้รู้กติกาการเล่นก่อนเป็นอันดับแรก พอได้รู้กติกา และวิธีการเล่นที่ถูกต้องก็รู้สึกสนุกไปกับเกม
"ธันน์มาเล่นกับพี่แทนไอ้โซนนี่มา" เรนเอ่ยขึ้น
"ครับ" ธันน์เดินผ่านฟ้าใสไปเล่นกับเรน ทั้งคู่ก็ยังมิวายที่จะแยกเขี้ยวใส่กัน
"จ้องกันเข้าไป ถ้าเป็นปลากัดคงท้องกันไปแล้ว" เปรมว่าอย่างกระแนะกระแหนกับความหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าของคู่บัวกับธาม หลังจากที่เล่นเกมกันจนเหนื่อยก็มานั่งดื่ม นั่งกิน พูดคุยหยอกเย้ากันไป
"มึงนี่เหมือนเด็กขี้อิจฉาวะ" โซนว่า
"ก็กูอิจฉาไง กูถึงพูด ทำไมคนบางคนไม่เห็นรู้สึกสักที" เปรมว่าพลางปรายตามองใบหน้าของหลินที่ยังคงทำเป็นไม่สนใจ
"เห็นพี่บัวมีแฟนแล้วฟ้าใสอยากมีบ้างจัง" ฟ้าใสยิ้มเขินเมื่อเห็นบัวกับธามแสดงความรักต่อกัน
"แก่แดด" ธันน์ว่าลอยหน้าลอยตา
"ไอ้ธันน์" ฟ้าใสหันไปตวาดธันน์เสียงดังลั่น
"ทำไมฟ้าใสเรียกธันน์แบบนั่นล่ะ" บัวเอ่ยปราม
"อายุเท่ากัน เรียกได้ค่ะพี่บัว เหมือนพี่บัวเรียกพี่เปรมว่าไอ้เปรมไง" ฟ้าใสว่าทำเอาบัวหน้าเหวอที่เหมือนถูกย้อนเข้าให้
"ฮ่าๆ" เปรมหัวเราะลั่น ทุกคนก็ยิ้มขำไปด้วย ไม่แม้แต่ธามที่กระตุกยิ้มมุมปากอย่างนึกขบขัน
หลังจากที่งานเลี้ยงฉลองแชมป์จบลง บัวกับธามไปส่งฟ้าใสที่บ้าน เพราะสายฟ้ามีผ่าตัดด่วนเช่นเดียวกับแบม ส่วนธันน์กลับไปพร้อมโซนกับเรน เพราะอยู่คอนโดมิเนียมเดียวกัน แต่คนละห้อง
ธันน์ล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงนอนกว้างในห้องนอนของตนเอง ท่ามกลางความมืดมิด สายตามองไปยังแผ่นพลาสติกเรืองแสงสีเขียวที่เป็นรูปดาว รูปดาวตก รูปพระจันทร์ ที่ติดเต็มเพดาน
"พ่อครับ แม่ครับ วันนี้ธันน์เห็นพี่ธามยิ้มอย่างมีความสุข รอยยิ้มที่ธันน์ไม่เคยเห็นมานานมาก พี่บัวทำให้พี่ธามยิ้มได้ พี่บัวคงเป็นความสุขของพี่ธาม พี่ธามมีพี่บัวแล้ว ธันน์จะได้ไปอยู่หออย่างสบายใจ ธันน์สอบติดหมอครับ ปีหนึ่งต้องอยู่หอใน แต่ธันน์ก็ยังไม่มั่นใจตัวเองสักเท่าไหร่ว่าจะเรียนไหวไหม พ่อกับแม่เป็นกำลังใจให้ธันน์ด้วยนะครับ คิดถึงพ่อกับแม่นะครับ" ธันน์พร่ำบอกกับดาวเดือนบนเพดาน เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่พ่อแม่ของเขาจากไปอยู่บนนั้น
นับตั้งแต่อุบัติเหตุวันนั้น วันที่พรากชีวิตพ่อกับแม่ไปตลอดกาล ก็ทำให้ชีวิตของเขามีเพียงแค่พี่ชาย พี่ชายที่จมอยู่กับความทรงจำเลวร้าย เขาจึงต้องเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับพี่ชายเสมอมา แต่มาวันนี้พี่ชายของเขาได้พบรอยยิ้มใหม่แล้ว ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นที่สุด