Nongnoo Talk
“ทิ…ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้นะคะ น้องหนูไม่ชอบเลย” คุณไทเกอร์เป็นอะไรของเขากัน มาทำแบบนี้กับน้องหนูทำไม
“ต้องชอบนะ เพราะจะทำทุกวัน เป็นผัวมีสิทธิ์ทำ”
“…” น้องหนูเลิกคุยด้วย จบปัญหานี้ด้วยการเปิดประตูลงจากรถ ผง ผัวอะไรกัน คุณไทนี่ชักจะอาการหนัก
“เด็กอ้วนอย่าลืมส่งตารางเรียนมา” คุณไทเกอร์ตะโกนออกมาจากรถ น้องหนูหันไปขมวดคิ้วใส่ก่อนจะเดินเข้าโรงเรียน และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งตารางเรียนไปให้คุณไท
เมื่อคืนยังดุน้องหนูอยู่เลย เช้านี้มาทำดีด้วยมันยังไงกัน อาการวัยทองหรือต้องการอะไรจากน้องหนู
“ใครมาส่งอะ” เสียงผู้หญิงดังมาจากทางด้านหลัง เธอค่อย ๆ เดินมาเทียบข้างน้องหนู เธอคือเพื่อนร่วมชั้นที่ชอบทำให้น้องหนูเป็นตัวตลกอยู่เป็นประจำ น่าแปลกที่เธอมาคนเดียว ปกติจะมีเพื่อนเกาะกลุ่มมา
“ผู้ปกครอง” ถึงอย่างนั้นน้องหนูก็ไม่ชอบเป็นศัตรูกับใคร ใครคุยด้วยก็คุยกลับ ส่วนคนอื่นจะมองยังไงนั้น ก็เรื่องของคนอื่น น้องหนูไม่สน ขอแค่เราทำตัวเองให้ดีก็พอ
“นึกว่าแฟนของน้องหนู แต่ลืมไปว่าน้องหนูคงไม่มีคนเอาเพราะกินเยอะ ตัวก็เตี้ยแล้วยังอ้วนอีก ใครจะมาชอบอ่าเนอะ” เพื่อนร่วมชั้นเธอพูดเสียงดังขณะที่กลุ่มนักเรียนหลาย ๆ กลุ่มหันมามอง มันเป็นช่วงเวลาใกล้จะเข้าแถวนักเรียนหลาย ๆ คนจึงมายืนรอนั่งรอบริเวณหน้าเสาธง
“บ้านเธอเลี้ยงให้เธอมีปมเหรอ ถึงได้ต้องล้อเลียนคนอื่นให้ดูต่ำเพื่อให้ตัวเองดูสูงส่ง” น้องหนูต้องหูแว่วไปแน่ ๆ เสียงจากด้านหลังไม่น่าจะใช่คุณไท ก็คุณไทขับรถออกจากหน้าโรงเรียนไปแล้ว
“คุ…คุณไท” ทว่าหันมาผู้ชายที่สูง 180 กว่า ยืนอยู่ในชุดสูทผู้บริหารท่าทางสุขุมนุ่มลึก ในมือถือกระเป๋านักเรียนของน้องหนู ดวงตาคมกริบจ้องมองที่เพื่อนร่วมชั้นคนนั้น พร้อมสองเท้าก้าวเข้ามาทางน้องหนูและเพื่อนร่วมชั้น
“เป็นคนนอกอย่ามากร่างในโรงเรียนค่ะ ที่นี่สถานศึกษา ผู้ใหญ่ก็อยู่ส่วนผู้ใหญ่สิ จะรังแกเด็กหรือไงคะ” เพื่อนร่วมชั้นฝีปากดีมีท่าทีเกรงกลัวคุณไทเล็กน้อยทว่าปากก็ยังอวดเก่ง เมื่อคุณไทก้าวเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมยิ่งกว่าเดิม เพื่อนร่วมชั้นก็เดินมาหลบที่หลังของน้องหนู เก่งแต่ปากใช่ไหมแบบนี้
“ถ้าอยากโตเป็นผู้ใหญ่ อย่าเสือกทำให้คนของฉันรู้สึกแย่อีก” ดวงตาคมดุร้ายมองผ่านน้องหนูไปยังคนที่อยู่ด้านหลัง
คุณไทเกอร์ คุณจะรู้ไหมคะว่าการที่คุณทำแบบนี้ จะทำให้น้องหนูตกที่นั่งลำบาก หลังจากเหตุการณ์นี้จบลงน้องหนูจะถูกเพ่งเล็งหนักกว่าเดิม
แต่ทว่าเพื่อนฝีปากดีคงกลัวเสียหน้าเพราะผู้คนเยอะมาก เธอจึงฆ่าตัวตายด้วยคำพูดที่ไม่ควรพูด ไม่ควรเลยสักนิด “เป็นแค่ผู้ปกครองอย่ามาสั่ง ไม่ใช่พ่อยัยอ้วนนี่สักหน่อย จะบอกว่าเป็นพ่อยัยนี่เหรอ ขอโทษนะคะเท่าที่รู้ยัยอ้วนนี่ไม่มีพ่อนะ”
เพื่อนร่วมชั้นพูดเสียงดังและทำท่าอวดดีที่เอาปมด้อยของน้องหนูมาพูด
จำเป็นอะไรต้องเอาเรื่องที่น้องหนูไม่มีพ่อมาประกาศท่ามกลางฝูงชน ทันใดนั้นแขนยาว ๆ ของคุณไทยื่นผ่านไหล่น้องหนูไปทางด้านหลังแล้วก็กระชากคอเสื้อเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งเป็นผู้หญิงค่ะ ย้ำนะคะว่าผู้หญิง ทว่าคุณไทดูจะไม่สนข้อนี้เลย
ดวงตาดุดันพร้อมฆ่าฟันได้ตลอดเวลามองที่เพื่อนร่วมชั้น ถ้ามองน้องหนูแบบนี้ น้องหนูตายแน่ ๆ ค่ะ
“ฉันไม่ใช่พ่อ แต่เป็นผัวยัยนี่ และเด็กอย่างเธอหรือใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาเรียกยัยนี่ว่าอ้วน หรือพูดถึงทางไม่ดี ถ้าฉันได้ยินใครหน้าไหนมันพูดหรือรังแกเมียฉันอีก ฉันจะตัดลิ้น ตัดมือ มันจะได้ไม่มีปัญญามาทำให้เมียฉันเสียใจอีกต่อไป” น้ำเสียงนิ่งเรียบคำพูดเชือดเฉือนดังขึ้นพร้อมมองไปรอบ ๆ ทำเอาน้องหนูช็อก ไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน
ที่นี่โรงเรียนนะคะ ที่นี่โรงเรียนที่น้องหนูต้องอยู่จนกว่าจะจบม.6 ทำไมคุณไทมาทำตัวเป็นอันธพาล ซ้ำยังมาประกาศว่าเป็น ‘ผัว’ น้องหนูควรจะตกใจเรื่องไหนก่อน
นักเรียนม.5 มีสามีมันไม่เหมาะสม แม้ว่าหลาย ๆ คนจะแอบคบกันเป็นแฟน แต่ไม่มีใครเขามาประกาศกร้าวแบบคุณไทเกอร์ คุณไทนะคุณไท ทำอะไรไม่ปรึกษาน้องหนูบ้างเลย แล้วแบบนี้น้องหนูจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง
“คุณไทพอแล้วค่ะ” ก่อนอื่นน้องหนูควรห้ามปรามด้วยการดึงมือคุณไทออกจากคอเสื้อของเพื่อนร่วมชั้นก่อนจะดีกว่า
“เงียบ” คุณไทหันมาตวาดพร้อมถลึงตาใส่น้องหนู เอาแล้วสิ แค่นี้น้องหนูก็สั่นแล้ว ทว่าเหตุการณ์ไม่หยุดแค่นั้น
คุณไทผลักน้องหนูออกให้ห่างแล้วดึงคอเสื้อเพื่อนร่วมชั้นให้ขยับเข้ามาใกล้ และด้วยมือเพียงข้างเดียวสามารถยกเพื่อนร่วมชั้นของน้องหนูลอยขึ้นเหนือพื้น คุณไทกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “บางทีการมีพ่อแม่ก็ไม่สำคัญเท่าการมีสามัญสำนึก รู้ไหมว่าไม่ควรเอาเรื่องราวชีวิตคนอื่นมาล้อเล่น”
“อึก อึก ฮือ…ช่ะ ช่วยด้วย” เพื่อนร่วมชั้นร้องขอความช่วยเหลือ เหมือนว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ ทั้งที่คุณไทก็ไม่ได้บีบคอเธอ อาจจะเป็นเพราะคอเสื้อนักเรียนที่ถูกดึงและการถูกยกลอยขึ้นเหนือพื้น
ดีนะน้องหนูอ้วน เวลายั่วโมโหคุณไท ยังไงซะคุณไทก็ยกขึ้นไม่ได้ ความทรมานตรงนี้น้องหนูคงไม่มีทางได้รู้ว่าทรมานแค่ไหน แล้วก็ไม่อยากรับรู้ด้วย
“คุณไทคะ พอเถอะค่ะ” น้องหนูกล้า ๆ กลัว ๆ ลองพูดอีกครั้ง และครูไปไหนกันหมด ทำไมไม่มีมาอยู่แถวนี้บ้างนะ
“กลัวตายเหรอ” คุณไทถามเพื่อนร่วมชั้นของน้องหนูด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกใบหน้าแสดงความสมเพช ได้ฟังเสียงของน้องหนูบ้างไหมเนี่ย
“ปะ…ปล่อย” เพื่อนร่วมชั้นเริ่มร้องไห้ แสดงสีหน้าทรมาน
“คุณไทคะ” ลองเรียกอีกรอบ
“กราบตีนเมียฉันสิ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป” ดูพูดเข้าสิ
“คุณไท” คุณไทเกอร์บ้าไปแล้ว
“บอกให้เงียบ” หุบปากสิคะ เล่นหันมาดุน้องหนู
แล้วคุณไทก็หันไปพูดกับเพื่อนร่วมชั้นของน้องหนูที่ยังลองตัวเหนือพื้น และดูท่าจะถูกยกขึ้นสูงเรื่อย ๆ “ว่าไง จะยอมกราบตีนเมียฉันไหม”
“ค่ะ ๆ” เพื่อนร่วมชั้นตอบด้วยความร้อนรน คุณไทปล่อยมือจากคอเสื้อเธอ เธอหันมาทางน้องหนู จ้องมองหน้าน้องหนูปานว่าเกลียดชังนักหนา ประมาณว่าถ้าผ่านเหตุการณ์นี้ไปเธอเอาคืนน้องหนูแน่ ๆ
“เร็วสิ” คุณไทยกเท้าถีบที่ข้อเข่าของเพื่อนร่วมชั้นทำให้เธอล้มลงกับพื้น เธอยกมือขึ้นพนมแล้วก้มลงกราบที่ปลายเท้าของน้องหนู พอเธอเงยขึ้นมาคุณไทก็พูดว่า “กราบใหม่ พูดขอโทษด้วย”
น้องหนูมองหน้าคุณไทด้วยความไม่พอใจในขณะที่เพื่อนร่วมชั้นก้มลงกราบแล้วพูด “เราขอโทษนะน้องหนู ต่อไปเราจะไม่ยุ่งกับเธออีก”
“ใช่ เธอจะไม่ได้ยุ่งอีกแน่ ๆ” คุณไทพูดก่อนจะคว้าข้อมือน้องหนูแล้วพาเดินกลับมาทางหน้าโรงเรียน น้องหนูเดินตามอย่างว่าง่าย เพราะคิดว่าดีเหมือนกัน ถ้าขืนยังยืนอยู่ที่โรงเรียนมีหวังได้ทำตัวไม่ถูก และอาจจะโดนเอาคืน
เข้ามานั่งในรถน้องหนูเริ่มบ่นอุบอิบ “น้องหนูไม่น่าลืมกระเป๋าเลย”
คุณไทที่กำลังขับรถเข้าสู่ท้องถนนหันมาทำตาขวางใส่น้องหนูก่อนจะพูดว่า “ดีแล้วที่เธอลืม คิดจะกลายเป็นตัวตลกให้พวกมันหัวเราะกันตลอดหรือไง”
“น้องหนูทนได้ แค่เฉย ๆ เดี๋ยวทุกอย่างก็จบ อีกแค่นิดเดียวน้องหนูก็จะจบแล้ว”
“ยัยบื้อ เธอเพิ่งเรียนม.5 กว่าจะจบม.6 เธอจะกลายเป็นตัวตลกไปถึงเมื่อไหร่ ทำอย่างกับไม่มีความรู้สึก”
“อีกแค่นิดเดียวเอง น้องหนูทนมาได้ตั้งหลายปี แล้วคุณไททำแบบนี้น้องหนูควรทำหน้ายังไงคะ นักเรียนคนอื่นเห็นเหตุการณ์กันตั้งเยอะ ไหนจะบอกว่าน้องหนูมีคุณไทเป็นผัวอีก ใช่เรื่องจะพูดที่ไหนกัน”
“ไม่ต้องทำยังไงเลย ย้ายโรงเรียน ฉันจะจัดการให้เธอเอง แล้วมีฉันเป็นผัวมันก็ไม่ได้แย่ไหม พูดซะเหมือนว่าฉันมันแย่”
“คุณไท…” ทำไมไม่เข้าใจน้องหนู
“ไม่ต้องมางอแง อยู่แล้วต้องฝืนจะอยู่ทำไม”
“…” มันก็ฝืนทั้งนั้นแหละน่า ตอนนี้เราก็ฝืนอยู่ด้วยกันไม่ใช่หรือไง
“เธออย่าคิดมาก ฉันสามารถหาโรงเรียนที่ดีให้เธอได้ วันนี้ไปนอนเล่นที่บริษัทฉันก็แล้วกัน”
“ค่ะ ตามใจคุณไทเลยค่ะ คุณไทเป็นผู้ปกครองนี่คะ” น้องหนูนั่งก้มหน้านิ่ง เถียงไปก็เท่านั้น และคิดว่าย้ายไปก็ดีเหมือนกันเพราะที่คุณไททำมันอุกอาจเกินไป น้องหนูอายคนที่โรงเรียน
“ฉันทำเพื่อเธอ ฉันไม่ชอบให้ใครรังแกเธอ” คือคำพูดหลุดจากปากของคุณไท ก่อนที่มือจะยื่นมาบีบที่แก้มของน้องหนูพร้อมกับคำพูดว่า “เพราะฉันรังแกได้คนเดียว”
น่าดีใจตรงไหนคะ