13

1185 คำ
“ตกลง ฉันจะไปเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้กับคุณ” ไม่ใช่มีเขาคนเดียวที่เจ้าเล่ห์มากแผนการ เธอเองก็มีเหมือนกัน แอนโตนิโอยิ้มในชัยชนะของตัวเอง ไม่มีอะไรที่เขาต้องการแล้วไม่ได้ อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องทำเรื่องให้ยุ่งยากแบบนี้เลย ฉุดหรือไม่ก็ข่มเหงเขาก็ทำได้ ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ทำเองมากกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหรือไม่เขาคงอยากจะสนุกกับการไล่ล่าเหยื่อให้จนมุม แล้วค่อยขย้ำกินมันคงอร่อยลิ้นพิลึก “งั้นไปกันเดี๋ยวนี้เลย นี่กระเป๋าฉันคืนให้ไม่อยากได้นักหรอก” เขาออกคำสั่งก่อนจะส่งกระเป๋าคืนให้กับเธอ เพราะสิ่งที่เขาอยากได้หาได้ใช่กระเป๋าไม่ แต่เป็นเจ้าของกระเป๋ามากกว่า หญิงสาวคว้ากระเป๋าสะพายที่เขายื่นให้เอามาไว้ในมือ ก่อนจะพูดปฏิเสธเขาไป “ไม่ ฉันจะเริ่มทำงานให้คุณพรุ่งนี้ วันนี้ฉันมีธุระ” “ธุระ ธุระอะไร กับใคร อย่าบอกนะว่ามีธุระกับไอ้หน้าจืด” น้ำเสียงที่ถามออกไปนั้นแสดงถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจนเหมือนกับดวงตาที่ถลึงใส่เธอ “มันเรื่องของฉัน แค่นี้ใช่ไหมที่คุณจะพูดกับฉัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว” หญิงสาวสวนกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวหมุนกายเดินออกไปจากห้องรับรองทันทีเมื่อพูดจบ พอร่างงามก้าวพ้นออกมาจากห้องรับรองได้ บัวบุษยารู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก รู้สึกเป็นอิสระราวกับนักโทษที่ก้าวพ้นออกมาจากคุก เขาทำให้เธออกสั่นขวัญแขวนยามที่ต้องอยู่ตามลำพังสองต่อสอง หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้มไม่รู้ว่าเธอต้องเจอกับอะไรบ้างหากเป็นเทรนเนอร์ให้กับเขาต่อ ลำพังแอนโตนิโอคนเดียวหญิงสาวก็รับมือไม่ไหวแล้ว นี่ยังมีว่าที่คู่หมั้นที่ร้ายกาจของเขาเพิ่มมาอีกคน งานนี้ไม่รู้ว่าจะผลจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ถึงอย่างไรบัวบุษยาไม่มีทางให้ทั้งสองมารังแกเธอฝ่ายเดียวแน่ “พรุ่งนี้เจอกัน ลูกกวางน้อย” ราชสีห์หนุ่มพูดเบาๆ กับตัวเอง ขณะที่สายตามองตามร่างลูกกวางน้อยที่เดินออกไปจากห้องตาเป็นมัน วันนี้เขารุกเพียงเท่านี้ก่อน ทั้งๆ ที่ในใจอยากจะจับเธอกินให้รู้แล้วรู้รอดในห้องนี้เลย คิดอีกทีอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า เพราะเหยื่อชิ้นนี้หวานถูกใจเขายิ่งนัก และไม่มีวันแบ่งชิ้นเนื้อหอมหวานนี้ให้ใครด้วย มาฟาลด้าแสดงความเป็นเจ้าของแอนโตนิโอจนออกนอกหน้า มากจนฝ่ายชายรู้สึกรำคาญและดูเหมือนกับว่าความเป็นส่วนตัวของเขาจะหดหายลงไป การที่เขาเดินทางมาเมืองไทยไม่ใช่ว่าจะมาร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนสนิทเพียงอย่างเดียว เขาเดินทางมาที่นี่เพื่อขยายตลาดการส่งออกมายังโซนเอเซีย เริ่มจากประเทศไทยเป็นประเทศแรก แล้วอีกข้อที่สำคัญที่สุดคือหนีสาวจอมจุ้นคนนี้ “นี่ ฟาลด้าไม่ต้องติดฉันถึงขนาดนี้ก็ได้นะ ฉันจะทำงาน รำคาญด้วย” สีหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ น้ำเสียงหงุดหงิด ดวงตาคมเข้มปรายตามองมาที่ว่าที่คู่หมั้นอย่างเบื่อหน่าย หากแต่เจ้าของมือเล็กที่เกาะลำแขนของชายหนุ่มแน่นราวกับเป็นกาวชั้นดี หาได้ปล่อยไม่หรือแม้แต่จะขยับตัวลุกไปห่างๆ อย่างที่เขาต้องการ กลับเบียดกระแซะมากกว่าเดิม “ก็ฟาลด้าเหงานี่คะ นีโอทำแต่งานๆๆ ตลอดไม่สนใจฟาลด้าเลย” หญิงสาวไม่มีทีท่าว่าจะสนใจน้ำเสียงและสีหน้าของอีกฝ่าย เธอทำเป็นมองไม่เห็นความไม่พอใจของเขา เอนศีรษะซบที่ลำแขนของเขาอย่างออดอ้อน น่ารัก แทนที่แอนโตนิโอจะมีทีท่าสนใจหรือเอ็นดูการกระทำของเธอ ตรงกันข้ามกลับอยากจะโยนแมวดื้อด้านตัวนี้ออกไปจากห้องนี้มากกว่า ฉับพลันความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในสมอง หากหญิงสาวที่กำลังออดอ้อนเขาอยู่นี้คือกวางน้อยเนื้อหวานก็คงจะดีไม่น้อย “ก็ผมมาที่เมืองไทยเพราะมาทำงานนะ ไม่ได้มาเที่ยว” “เชอะ มาทำงาน แล้วเรื่องเมื่อวานมันคืองานของนีโอด้วยหรือเปล่าคะ” หญิงสาวอดที่จะแขวะไม่ได้ แอนโตนิโอปาปากกาที่กำลังจะเซ็นเอกสารลงไปที่โต๊ะอย่างแรงด้วยความไม่พอใจที่ได้ยินน้ำเสียงขึ้นจมูกของเธอ พร้อมกับวาจาค่อนขอด หันมาจดจ้องดวงหน้าของว่าที่คู่หมั้นนิ่ง สะบัดลำแขนที่ถูกมือกาวของอีกฝ่ายออกอย่างแรง “อย่ามาพูดกับฉันแบบนี้นะ เราสองยังไม่ได้หมั้นกัน อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตของฉันมากเพราะถ้าฉันทนไม่ไหว ฉันไม่รับรองความปลอดภัยของเธอแน่ แล้วอีกอย่างที่ฉันอยากจะบอกเธอ ฉันจะนอนกับผู้หญิงคนไหนมันก็เรื่องของฉัน อย่าล้ำเส้นเด็ดขาด จำไว้” แต่ละคำช่างหนักแน่นและเน้นหนักเพื่อให้มาฟาลด้าได้ยินคำพูดของเขาได้อย่างชัดเจน ดวงตาคมเข้มมองมองที่ดวงหน้าเฉี่ยวของเธอเขม็ง คนที่ถูกมองรับรู้ถึงความร้อนที่แผ่โดยรอบร่างกายของเขา แม้จะกลัวแต่เธอก็ไม่คิดที่จะถอย อาจเป็นเพราะว่าทั้งคู่มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ดื้อและอยากจะเอาชนะเหมือนกัน ทำให้หญิงสาวเถียงสู้ “ทำไมฟาลด้าจะพูดไม่ได้ นีโออย่าลืมสิว่าคุณต้องพึ่งคุณป๋าเรื่องการลงทุนที่เวนิส ถ้าคุณไม่เอาใจฟาลด้ารับรองได้เลยว่าที่ดินที่คุณคาดหวังไว้ไม่ได้แน่นอน โครงการทำโรงแรมของคุณก็จะเป็นหมัน” มาฟาลด้าได้ทีข่มขู่ชายหนุ่มเลือดร้อน เธอรู้ดีว่าที่ดินติดริมแม่น้ำเวนิสจุดที่สวยที่สุดเป็นความต้องการของแอนโตนิโอมากเพียงใด ชายหนุ่มพยายามติดต่อซื้อขายกับเจ้าของอาคารสูงเจ็ดชั้นทำเลทองนี้หลายครั้ง หากแต่ไม่เป็นผลเลยสักครั้ง เนื่องจากชายวัยหกสิบเก้าปีผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของไม่ยินยอมที่จะขาย แม้ว่าเขาจะเสนอเงินจำนวนมากให้ก็ตาม ซานซ์ติสบิดาของมาฟาลด้าซึ่งเป็นคนมีอิทธิพลอยู่ในเวนิสรู้เรื่องนี้ จึงเสนอตัวที่จะดำเนินการนี้ให้ เนื่องจากเจ้าของที่ดินนั้นเป็นเพื่อนกับซานซ์ติส บิดาของมาฟาลด้าไม่ได้ทำเพื่อแอนโตนิโอคนเดียว หากแต่ทำเพื่อลูกสาวด้วย เพราะถ้าแอนโตนิโอได้ที่ดินผืนนี้และสามารถปลูกสร้างโรงแรมได้อย่างที่ใจคิด รายได้มหาศาลจะไหลเวียนเข้ามาในกระเป๋าของว่าที่ลูกเขยไม่ขาดสาย ในอนาคตภายภาคหน้ามาฟาลด้าก็จะสบายไปด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม