ก่อเรื่อง

1909 คำ
บทที่ 5 ก่อเรื่อง “นี่ห้องของคุณครับ” เสียงของเตพูด พร้อมกับผายมือเชิญให้ฉันเข้าไปในห้อง “รู้ย่ะ เลขหน้าห้องชัดขนาดนี้” ฉันพูดอย่างประชดประชัน “ครับ ๆ คุณผู้หญิง ขอให้อยู่อย่างสงบนะครับ มีอะไรเรียกได้นะครับ ผมไปละ” เขาพูดพลางยกมือขึ้นมาโบกหยอย ๆ ปัง ! ฉันปิดประตูกระแทกหน้าเตอย่างจัง หากโดนหน้าจัง ๆใบหน้าหล่อ ๆ นั่น คงจะยุบ ทันทีที่ถึงห้องสายตาอันคมกริบของฉันพลางกวาดสายมองไปรอบ ๆ เห็นว่าห้องมีขนาดกะทัดรัด ไม่เล็กไม่ใหญ่มาก เป็นห้องสำหรับสองคน ด้านในมีเตียงสองเตียงขนาด 3.5 ฟุต วางคู่กัน มีช่องว่างห่างกันประมาณ 1 วา มีตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ แต่ห้องน้ำ….. “มีห้องเดียวเนี่ยนะ!!!” โอ้ shit !!! ฉันอยากจะบ้าตาย แล้วยัยรูมเมทของฉันมันหายหัวไม่ไหน ไม่รู้ว่านิสัยหน้าตาจะอัปลักษณ์แค่ไหน หวังแค่ว่าเธอจะเป็นแค่ผู้หญิงโง่ ๆ คนหนึ่ง บอกอะไรก็ฟังแล้วกันนะ เฮ้อ ตุบ! เสียงฉันทิ้งร่างลงบนเตียง อันหนาและแข็ง จนต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ มันต่างจากเตียงที่บ้านอยู่มากโข “อูย เจ็บชะมัดเลย” ยังคงบ่นอุบอิบต่อไป นี่พี่โยเซฟคงไม่ได้คิดจะดัดนิสัยของฉันหรอกนะ ถึงได้ให้มาอยู่ในที่ แบบนี้เนี่ย….. แกรก!!! เสียงเปิดประตูจากลูกบิดด้านหน้า ซึ่งเป็นใครไม่รู้ น่าจะเป็นยัย รูมเมทแน่ ๆ เลย ฉันคิดในขณะที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง พลางหรี่ตาดูคนที่จะเข้าห้องมาว่าคนนั้นคือใคร…. ตึก ตึก! เสียงจังหวะการก้าวเดินอย่างช้า ๆ แต่สม่ำเสมอ ทำไมไม่เข้ามาสักทีนะ… จนกระทั่ง….แอดด…เธอเปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ยิ้มกว้างจนจะฉีกไปถึงใบหู ผมของเธอมีสีเขียว มัดเป็นหางม้ารวบเอาไว้ ในชุดนักศึกษา กระโปรงพลีท หน้าไม่ได้แต่งอะไรมากนะ แต่ยัยนี่กลับสวยธรรมชาติ อืม…และคนที่ฉันกำลังบรรยายอยู่นั้นก็คือ ยัยแมลงวันหัวเขียว คนที่ไปกินข้าวกับคูเปอร์ยังไงล่ะ โอ้ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด…มันเวรกรรมอะไรของฉันได้ยัยแมลงวันนี่มาอยู่ร่วมห้อง…. ในช่วงเวลาหนึ่งเหมือนเธอรับรู้ได้ว่ามีใครคนหนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่ เพียงชั่วพริบตาเราสองคนก็สบตากัน ส่วนฉันหันกลับไปอีกทาง เพราะมันไม่ได้โรแมนติกซักกะนิด “ชิ” ฉันส่งเสียงอยู่ในลำคอ “เธอ…” ยัยแมลงวันหัวเขียวช็อคไปชั่วขณะ คงไม่คิดว่ารูมเมทคือฉัน “…” ฉันนิ่งเงียบไม่สนใจ แล้วเมินนางต่อ แต่ แต่ แต่…จมูกของฉันมันรู้สึกคันยุบยิบ คล้ายกับว่าจะจามยังไงยังงั้น อาการมันเหมือนแพ้เกสรดอกไม้ พลางดวงตาคู่สวยของฉันก็หันไปทางยัยแมลงวันหัวเขียว นางถือดอกไม้มาจำนวนหลายดอกแล้วมาเรียงใส่แจกัน ฮึ่มมม ดอกไม้นั่นได้มาจากคูเปอร์อย่างนั้นเหรอ…. ซูด!…. เสียงฉันพยายามสูดน้ำมูกหลายที กลั้นอาการจามเอาไว้ จนน้ำตาจะไหล ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง… ฉันคิดพลางลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ จากนั้นเดินตรงไปยังแจกันที่ยัยแมลงวันหัวเขียวได้จัดดอกไม้ใส่เอาไว้อย่างดี ฟึบ! ฉันใช้มือเล็กรวบดอกไม้ทั้งหมดไว้ในมือ ส่วนมืออีกข้างปิดจมูกเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกสรดอกไม้เข้าจมูก ปึก! เสียงฉันปาดอกไม้ในมือทิ้งลงถังขยะในห้อง จากนั้นรีบมัดปากถุงเพื่อจะนำไปทิ้ง และหมุนตัวไปทางด้านขวา หยิบสเปรย์ดับกลิ่นห้องผสมกับสเปรย์ฆ่าเชื้อ ฉีดอย่างบ้าคลั่ง ในขณะเดียวกันยัยแมลงวันหัวเขียวที่เห็นเหตุการณ์ ตวัดสายตาอันเหี้ยมเกรียมมองมาทางฉัน เค้นถามเสียงเข้มว่า “นี่เธอมันจะมากเกินไปแล้วนะ ทำแบบนี้ทำไม ดอกไม้มันอยู่ของมันดี ๆ” ยัยนี่พูดพลางสาวเท้ามาหาฉันเรื่อย ๆ จากนั้นคว้าข้อมือของฉันเอาไว้ ไม่ให้นำถุงขณะในมือไปทิ้ง “หึ” ฉันยกยิ้มมุมปาก เรื่องที่ฉันแพ้ฉันไม่บอกนางหรอก เดี๋ยวเธอจะใช้จุดอ่อนตรงนี้เล่นงานฉัน “ฉันแค่ไม่ชอบ มันเกะกะลูกตา” ฉันตอบเหตุผลอย่างอื่นแทน “เฮอะ เธอนี่มันนางร้ายจริง ๆ เลย มีปัญหาอะไรกับฉันนักหนา หรือว่าเธอโมโหที่ฉันไปกินข้าวกับคูเปอร์ แล้วมาทำแบบนี้ใส่ฉัน” “ใช่!!”ฉันยืนยัน เรื่องนี้มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันโมโห แต่มันแค่เล็กน้อย มันมีความจริงอยู่บ้าง ก็ฉันไม่อยากให้ใครเข้าใกล้คูเปอร์ของฉันนี่นา โดยเฉพาะผู้หญิงหน้าตาใสซื่อ เบ้าหน้าธรรมชาติ ดูไม่มีพิษภัยแบบนี้ เขายิ่งเป็นคนหลอกง่ายอยู่ด้วย “หนอย เธอนี่มันเหลือเกินจริง ๆ นะ” เธอบีบข้อมือฉันแน่นขึ้น “ถ้าไม่อยากให้ฉันทำแบบนี้ เลิกยุ่งกับคูเปอร์สิ แล้วฉันจะย้ายออกไปเอง และไม่ยุ่งกับเธอด้วย” ฉันเชิดหน้า ยื่นข้อเสนอให้กับยัยแมลงวัน “หึ ฉันจะบอกเธอเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ว่าฉัน ไม่! มี! ทาง! เลิก! ยุ่ง!” ยัยบ้านี่พูดเน้นเสียงทีละคำออกมาอย่างหนักแน่น จากนั้นพูดต่ออีกว่า “และตอนนี้ฉันอยากจะได้เขาอีกด้วย” หนอย! ยัยแมลงวัน เธอคิดว่าเธอเป็นใคร รู้จักคูเปอร์แค่วันเดียวมาเชิดหน้าชูตาต่อหน้าฉัน ไม่ไหวแล้วโว้ย อยากหยุมหัว ฉันไม่คิดเปล่านะคะ ทิ้งถุงขยะในมือ จากนั้นใช้สองมือเล็กหยุมหัว ยัยแมลงวันทันที ไม่ได้สนับสนุนความรุนแรงแต่ยัยนี่มันกวนบาทา เบลนิต้าค่าาาา~ ทางด้านแมลงวันหัวเขียว ไม่ยอมให้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเช่นกัน เธอใช้สองมือดึงผมคืนบ้าง “เจ็บนะโว้ย ยัยแมลงวัน” เสียงของเบลล์ตะคอก “ฉันก็เจ็บเหมือนกันยัยบ้า ยอมแพ้ไปสิ” “ไม่ยอมแพ้โว้ย” มือเล็กออกแรงกระชากแรงขึ้น “กรี๊ดด” เสียงกรีดร้อง ดังลั่นหอพักออกมาเป็นระยะ ๆ พร้อม ๆ กับเสียงข้าวของภายในห้องหล่นกระจัดกระจาย ดังไปถึงหอของผู้ดูแลตึก “วันแรกก็ก่อเรื่องเลยสินะเด็กพวกนี้” เสียงของกัลยาผู้เป็นเจ้าของตึกซึ่งกำลังนังทำงานอย่างเงียบ ๆ ปิดหนังสือเสียงดังปึก ! ก่อนจะใช้มือขยับแว่นตายกขึ้นหนึ่งครั้ง แล้วถอดมันไว้ด้านข้าง จากนั้นหมุนตัวไปหยิบไม้หน้าสามซึ่งวางชิดผนัง แล้วเดินออกไปยังหมายเลขห้องที่เป็นต้นตอของเสียง ตึก ! ตึก ! เสียงย่ำเดินเป็นจังหวะ พร้อมกับใบหน้าที่เรียบตึง เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเบลล์ และ นีออน ก๊อก ๆ ! กัลยาใช้หลังมือเคาะห้องจำนวนสองครั้งตามมารยาทสากล แต่ดูท่าคนที่อยู่ด้านในยังคงทะเลาะกันอยู่ ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง นั่นทำให้กัลยาขบฟันกรามดังกรอด ๆ หากใครผ่านมาเห็นใบหน้าของหญิงสาวตอนนี้ คงจะเสียวสันหลังวาบเป็นแน่ แกร็ก! ท้ายสุดผู้เป็นเจ้าของหอตัดสินใจใช้กุญแจสำรองเปิดประตูห้องเข้าไป ซึ่งภาพที่เห็นมันทำให้เธอปรี๊ดแตก นักศึกษาสาวสองคนกำลังใช้มือสองข้าง ดึงผมกันอยู่จนหัวฟูไปคนละทิศคนละทาง “นี่พวกเธอทำอะไรกันห๊า!!! อยู่กันดี ๆ ไม่ได้ใช่ไหม!!!” เสียงอันทรงพลังของป้าเจ้าของหอ ทรงพลังสะเทือนฟ้าดิน ทำเอาทั้งสองคนที่ทะเลาะกันอยู่ สะดุ้งเฮือก หยุดทะเลาะกัน ชะงักนิ่งไปชั่วขณะ แต่มือยังคงไม่ได้ปล่อยออกจากกัน 20 นาทีผ่านไป “คุกเข่าให้ดี ๆ เธอทั้งสองคนน่ะ” ป้าสั่งเสียงเข้ม เคาะไม้หน้าสามในมือทุกครั้งที่ออกคำสั่ง “ค่ะ/ค่ะ” ฉันกับยัยแมลงวันตอบรับอย่างพร้อมเพรียงกันโดยอัตโนมัติ “ฉันยังไม่ได้ให้เธอทั้งสองคนหยุดบอกรักกันนะ!!!” ยัยป้านี่เป็นอะไรขึ้นมาเนี่ย! ทุกคนฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ยัยป้านี่สั่งให้ฉันกับยัยแมลงวันบอกรักกันมา 20 นาที แล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ยัยป้านี่โคตรเผด็จการเลย ฮือ “ฉัน…ระ…รักเธอนะเบลนิต้า” เสียงยัยแมลงวันหัวเขียวพูดอย่างประชดประชัน “ฉันรักเธอยัยแมลงวะ…” “หือ?” ป้าแกถลึงตาใส่ พร้อมกับเคาะไม้ในมือหนึ่งครั้ง เพื่อเตือนว่าหากฉันพูดไม่ดีจะตีให้หัวแบะ ร่างฉันสะดุ้งตามจังหวะเคาะไม้ของป้าแก จากนั้นพูดเสียงลอดไรฟันว่า “ฉันรักเธอนะนีออน ฮึก” ฉันสะอื้นน้อย ๆ อาการเหมือนคนจะร้องไห้ ไม่ได้อยากร้องไห้นะคะแต่ในห้องของป้ามีดอกไม้เหมือนกับของยัยแมลงวันนั่นเป๊ะ ๆ มันทำให้ฉันต้องกลั้นอาการจามอยู่ตลอด จนตาแดงน้ำมูกไหลไปหมด เฮ้อ อยากจะบ้าตาย… “เอาล่ะ นี่มันก็ผ่านไป 20 นาทีละ การลงโทษจบลงเท่านี้” ดูป้าแกพูดเข้า ควรจะจบตั้งนานแล้วค่ะ จมูกฉันจะพังอยู่แล้ว…ทันทีที่ได้ยินเสียงป้าพูดว่าการลงโทษได้จบลง ฉันกับยัยแมลงวันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เพราะช่วงเวลาการบอกรักได้จบลงแล้ว “แต่…” ป้าแกพูดอีกครั้งแล้วเว้นช่วงไว้ให้หัวใจของฉันหยุดเต้น เหมือนมาอยู่ค่ายทหารเลย ฮือ “อะไรอีกคะเนี่ย ฉันเริ่มง่วงแล้วนะ” เสียงฉันเริ่มโวยวาย “ฟัง!!!” ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับฟังต่อไป เพราะกลัวป้าแกจะตีหัวแบะ “นีออน ต่อไปนี้ห้ามก่อเรื่องที่ไหนอีก ถึงเธอจะเป็นญาติของฉัน ก็ต้องถูกลงโทษ ถ้ามีอีกรู้ใช่ไหมว่าจะโดนอะไร” “ค่ะ” ยัยแมลงวันตอบรับเสียงแผ่ว ส่วนฉันก็ส่งยิ้มเย็น ๆ ส่งให้นางเพื่อเยาะเย้ย ….สมน้ำหน้า “ส่วนเธอ เบลนิต้า!!” เสียงเข้มของป้า ทำเอาฉันสะดุ้งเฮือก ละล่ำละลักตอบโดยอัตโนมัติ “คะ?” “ฉันบอกเธอว่าหากก่อเรื่องจะถูกไล่ออกใช่ไหม แต่เนื่องจากมันดึกแล้วคืนนี้เธอต้องลงมานอนข้างล่างตรงนี้ เอาผ้าห่มกับหมอนมานอน นี่คือการลงโทษ” “แบบนี้มันเกินไปไหมคะป้า พื้นตรงนี้มันแข็งก็แข็ง ใครจะไปนอนได้” “นอนไม่ได้มันเรื่องของเธอ พี่ชายเธอบอกให้ฉันจัดการเธอตามสบาย ไม่ต้องหวังพึ่งพี่ชายของเธอนะ เพราะเขาช่วยอะไรเธอไม่ได้” ฉันอ้าปากเหวอ เหมือนพี่โยเซฟตัดหางปล่อยวัดฉันเลย ฮือ ต้องนอนพื้นแข็ง ๆ แบบนี้ อีกทั้งดอกไม้พวกนี้ยังอยู่ในห้อง ไม่รู้ว่าระหว่างที่นอนไป จะหยุดหายใจโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า ฮึ ! ใครว่าฉันไม่มีที่พึ่ง ถือโอกาสนี้ไปนอนกับคูเปอร์ดีกว่า ว่ากันว่าผู้ชายไม่จำเป็นต้องอยู่หอในนี่นา ฝากไว้ก่อนเถอะยัยบ้าพวกนี้ ฉันจะมาคิดบัญชีทีหลัง….
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม