ฉันสบตากับเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ใจดวงน้อยที่ก่อนหน้ายังอยู่ที่เดิมแต่ตอนนี้มันหล่นตุ้บลงพื้นเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ดวงตาคมจะเลื่อนหนีไปหาใครอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา
ผู้หญิงผมยาวสีดำสนิท ด้านหน้าของเธอปล่อยเป็นผมม้าน่ารัก แต่ใบหน้าเรียวรูปไข่และดวงตาเฉี่ยวคมทำให้เธอเป็นสาวเปรี้ยวที่แสนจะเซ็กซี่ ผู้หญิงคนนี้กำลังหั่นชิ้นเนื้อให้กับเขา เธอยื่นมันไปต่อหน้าเขา ให้ตายสิ...เพื่อนกันเขาไม่ทำแบบนี้
“อาย...รู้จักมันเหรอ วันนั้นอายยังไม่บอกเราเลย” ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ ๆ พอร์ชก็พูดขึ้น เสียงของพอร์ชปลุกให้ฉันหลุดจากภวังค์ ฉันพยักหน้ารับเล็กน้อย จะปฏิเสธพอร์ชก็คงไม่เชื่อ
“ช่างเถอะ เธอค่อยเล่า...หิวนี่”
“อืม...หิว” รู้ไหมว่าความหิวของฉันมันลดลงจนแทบไม่มีเลยล่ะ ฉันรู้สึกอยากหันไปมองเสียเหลือเกิน อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ใช่แฟนของเขาหรือไม่ หรือเป็นใครที่ฉัน...ควรเจียมตัว
“พอร์ชสั่งให้เราได้ไหม เราไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร” ฉันยิ้มแหย่ ๆ ให้กับเขา ทุกครั้งที่เรามากินข้าวด้วยกัน พอร์ชมักจะตามใจฉันเสมอ เขายอมไปกินข้าวในร้านอาหารตามสั่งกับฉัน ไม่ใช่ร้านหรู ๆ แบบนี้
“โอเค...” น้ำเสียงของพอร์ชเปลี่ยนไป เสียงของเขาอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เดาไม่ยากหรอก...เขาคงกำลังคิดเรื่องของฉันอยู่เป็นแน่ พอร์ชเงียบไปเลย สถานการณ์ตรงหน้าทำให้ฉันอยากลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมหาคำโกหกดี ๆ
“เราขอไปเข้าห้องน้ำนะ”
“เดี๋ยวเราพาไป...”
“เอ่อ ไม่เป็นไร” ฉันยิ้มให้กับบุคคลตรงหน้า ดวงตาหม่น ๆ ของเขาทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี จนตรงผุดลุกขึ้นและรีบเดินไปเข้าห้องน้ำทันที ฉันเดินตามป้ายไปเข้าห้องน้ำของภัตตาคารหรู เงาสะท้อนบนกระจกกำลังบอกว่าฉันกำลังคิดมาก แน่นอนล่ะ...ฉันไม่รู้ว่าจะบอกพอร์ชยังไงดี แถมเมื่อครู่เรื่องของเขาคนนั้นอีก
“เฮ้อ..” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ มันอึดอัดอยู่ภายใน จะบอกใครก็ไม่ได้ ได้แต่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ และตอนนี้ฉันก็มานานแล้ว ควรรีบกลับไม่งั้นพอร์ชอาจจะสงสัยได้ ทว่าทันทีที่ฉันเดินออกจากห้องน้ำ
กึก!
“ไง...” ตัวฉันเย็นเฉียบทันทีที่ออกจากห้องน้ำมาเจอกับคนที่ฉันเพิ่งนึกถึง น้ำไนล์...เขายืนพิงผนังมองมาที่ฉัน มือข้างหนึ่งของเขาล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ ดวงตาคมเข้มจ้องมองมาที่ฉัน ซึ่งคำทักทายเมื่อครู่มันแฝงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด และมากไปกว่านั้น
“เธอแรดดีเหมือนกันนะ”
“คือฉัน...” ฉันกลืนน้ำลายลงคอ มันแรงไปหรือเปล่าถ้อยคำที่เขาเปล่งออกมา แรดเลยเหรอ...
“อย่าแรดให้มาก รู้ตัวด้วยว่าเธอเป็นของใคร” น้ำเสียงดุดันของเขาทำให้ตัวฉันเกร็งเลยทีเดียว แถมเขายังก้าวขาเดินเข้ามาหาฉันอีก
“เลิกยุ่งกับมันถ้าเธอยังหิวเงินฉันอยู่”
“หิวเงินเหรอ...” ฉันไม่ได้หิวเงินสักหน่อย ฉันแค่ต้องการใช้เงิน ฉันอยากบอกกับเขาไปแบบนี้ แต่ใครเขาจะเชื่อ ฉันพยายามไม่ใส่มัน ขณะที่คำสั่งของเขา ฉันไม่สามารถทำให้ได้
“...ฉันเลิกยุ่งไม่ได้หรอก เขาเป็นเพื่อนคนเดียวของฉัน” ว่าแล้วฉันก็ก้าวขาถอยหลังทันทีเมื่อเขาไม่คิดจะหยุดต้อนฉัน ถอยจนแผ่นหลังแนบติดกับผนัง ใจดวงน้อยเต้นตึกตักเมื่อเขายังคงเดินเข้ามาหาฉันเหมือนเดิม
“ไอ้นั่นมันไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนหรอก มันอยากได้เธอ” ฉันไม่ปฏิเสธเรื่องนี้ ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่อยากเสียเพื่อนดี ๆ อย่างพอร์ชไป
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดไปจากข้อตกลงของเราหรอกค่ะ วางใจได้เลย”
“หึ ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ถ้าเธอจะขายตัวให้ฉัน เธอก็ต้องบอกมัน”
“ฉันไม่ใช่สิ่งของนะ!!” ความรู้สึกโกรธภายในใจที่ก่อขึ้นทำให้ฉันเผลอตัวขึ้นเสียงใส่เขา ทว่า
“มันไม่ต่างเลยสักนิด เธอบอกมาสิมันต่างกันตรงไหน” ฉันพูดไม่ออกเลยให้ตายสิ น้ำไนล์เหยียดยิ้มมุมปาก ไม่รู้ว่าเขาโกรธเกลียดอะไรฉัน ทำไมต้องปากร้ายใส่ฉันตลอด ทั้ง ๆ ที่หลายวันที่ผ่านมา การกระทำของเขามันสวนทางกับคำพูดร้าย ๆ พวกนี้
“ถ้าฉันกลับคอนโดแล้วไม่เจอเธอ...หึ” น้ำไนล์ใช้สายตาของเขาไล่มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ ทว่าขณะนั้นเองไม่ทันที่ฉันจะได้ว่าอะไร
“ไนล์...” เสียงหนึ่งกลับดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของผู้หญิงคนนั้น เธอเดินเข้ามาควงแขนของเขา และจ้องมองฉันตาไม่กะพริบ
“ใคร ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” เธอหันไปถามคนตัวโตข้างกาย น้ำเสียงแสดงความไม่พอใจนั้นทำให้น้ำไนล์หันไปมองเธอ
“ไม่มีอะไร แค่เดินสวนกัน”
“ไม่มีอะไรได้ไง ก็เห็น ๆ อยู่ว่ายืนคุยกัน มันมาอ่อยไนล์ใช่ไหม” เธอพูดเสร็จก็หันมามองฉัน ริมฝีปากอวบอิ่มที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกคว่ำลง เธอมองฉันหัวจรดเท้า
“แต่งตัวดีนี่ เสื้อผ้าแบรนด์เนม แต่...ตัวคงไม่แพงถึงมาอ่อยแฟนชาวบ้าน” เธอว่าเสียงดัง แถมสีหน้ายังเต็มไปด้วยความรังเกียจ ซึ่งเสื้อผ้าที่ฉันใส่อยู่ผู้ชายตัวโตข้าง ๆ เธอเป็นคนซื้อให้
“ริช...มันไม่มีอะไร” น้ำไนล์หันไปหาแฟนของเขา ไม่ผิดแน่...ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของเขา
“ไนล์น่ะไม่มีอะไรอยู่แล้วริชรู้ แต่นังนี่...ไม่แน่” เธอเดินเข้ามาใกล้ฉัน ก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอก
“อย่าคิดยุ่งกับแฟนฉัน...อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” เธอว่าพร้อมกับเบ้ปากคว่ำลงอีกครั้ง ก่อนที่น้ำไนล์จะยกแขนขึ้นกอดคอเธอพร้อมกับลากเธอออกไป มันเหมือนกับเป็นการบังคับ แต่รู้ไหมว่าการที่เขากอดคอเธอแบบนั้นมันเป็นภาพที่น่ารักมากเลยล่ะ ผู้หญิงที่ชื่อริชเหมือนว่าเธอจะไม่พอใจ แต่พอเขาทำแบบนี้เธอก็ยิ้มกว้างออกมา
ทำไมฉัน...ถึงรู้สึกเสียใจจังเลยนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย...
-Other-
เนิ่นนานที่รถยนต์คันหรูได้แล่นเข้าสู่ถนนใหญ่ รถพอร์ช 911 สีขาวชวนให้ใครหลายคนหันมามอง ภายในรถที่ถูกตกแต่งด้วยเบาะหนังสีแดงสดไม่ได้ทำให้ใครสนใจเท่ากับใบหน้าของเจ้าของรถยนต์คันนี้ กระจกสีใสโปร่งแสงสามารถมองเห็นบุคคลภายในรถได้ น้ำไนล์มีสีหน้านิ่งเรียบแม้ว่าหญิงสาวข้างกายจะไม่สามารถเก็บอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้
“ไม่ตอบอีกแล้วนะ ไนล์ไม่พูดริชยิ่งคิด” เธอทำหน้ามุ่ย เรียวแขนเล็กถูกยกขึ้นกอดอกด้วยท่าทางน้อยใจ ถึงกระนั้นชายหนุ่มข้างกายก็ไม่ได้สนใจ
“ทำไมต้องไปยืนคุยกับมันด้วย ริชรู้ว่าไนล์ไม่คิดอะไร แต่รู้ป่ะ ว่าผู้หญิงน่ะมันคิดอยู่แล้ว”
“พอเหอะน่า เธอไม่เมื่อยปากบ้างหรือไง” ริชชี่ยกยิ้มมุมปาก สุดท้ายแล้วแฟนหนุ่มของเธอก็หลุดปากพูดออกมาจนได้
“สัญญากับริชสิ สัญญาว่าจะไม่ยืนคุยกับผู้หญิงคนไหนอีก”
“_”
“ไนล์...”
“ฉันไม่จำเป็นต้องสัญญาเรื่องนี้ ถ้าเธอทนไม่ได้ก็เลิกกับฉันไป...งี่เง่าชะมัด”
“ไนล์...” หญิงสาวเม้มริมฝีปาก เธอถอนหายใจออกมาเมื่อไม่สามารถทำตามอย่างที่เขาพูดได้ “ริชไม่เลิกหรอก”
“ทำไม...”
“ก็ริชรักไนล์”
“ไม่หรอก ฉันไม่คิดแบบนั้นนะ” เขาตวัดสายตามองเธอเพียงนิด ก่อนจะหันกลับไปสนใจท้องถนนตามเดิม
“ไนล์...เราจะไม่พูดเรื่องเลิกกันอีก...จำที่ริชเคยบอกไม่ได้หรือไง” เขาไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระให้เป็นคำตอบเธอ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมาหาเธออีกครั้ง
“ฉันเบื่อเธอละ อยากเลิกกับเธอ”
“ไนล์...” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะเมื่อเห็นว่าสาวเจ้าหน้าเสีย เขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เพราะไนล์ได้ริชแล้ว ไนล์เบื่อไนล์ก็จะทิ้ง มาคบกับริชเพราะ...อึก อยากได้ริชแค่นั้น”
“รู้ดีนี่ รู้ดีแล้วก็เลิกกันให้จบ ๆ”
“ริชไม่เลิก” หญิงสาวว่าเสียงแข็ง เธอไม่มีทางเลิกกับเขาเป็นอันขาด ไหนจะความรักที่ให้ไปแล้ว ไหนจะมารดาของเธออีกที่อยากเกี่ยวดองกับครอบครัวชายคนนี้ เธอไม่มีทางเลิกกับเขาเป็นอันขาด
“น่าเบื่อว่ะ” ชายหนุ่มสบถออกมา ก่อนที่เขาจะตีไฟเลี้ยวเข้าข้างถนน ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทันที
“ลงไป...”
“ไม่...ทำไมทำแบบนี้ อึก...ถ้าเปิดเทอมแล้ว เราจะ...บอกคนอื่น” หญิงสาวหาข้ออ้าง เธอกับเขาถือเป็นคู่ขวัญของทางมหา’ลัย การเลิกกันด้วยเรื่องไม่ดี แน่นอนว่ามันต้องฉาวโฉ่
“_”
“เราจะ อึก...” หญิงสาวน้ำตาคลอเบ้า ขณะที่ชายหนุ่มที่เธอพูดด้วยเขาไม่ได้หันมาเหลียวมองเธอแม้แต่น้อย “นะ ไนล์...ริชรักไนล์นะ”
“หน้าเธอมันไม่ได้บอกอย่างนั้น เธอรักฉัน หรือเธอต้องการอะไรกันแน่”
“ทะ ทำไมคิดงั้น” ริชชี่ยกมือขึ้นปาดน้ำตา เธอสบตากับเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาล เขาขมวดคิ้วให้กับการกระทำของเธอ
“แม่เธอชอบไปหาพ่อฉันนี่ อ้อ...เห็นบอกยืมเงิน” ดวงตาเฉี่ยวคมเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ฉันเริ่มคิดแล้วล่ะ...ว่าเธอรักฉันอย่างที่ปากว่าไหม”
“แต่...”
“ลงไป” ริชชี่เม้มริมฝีปาก เธอกำมือเข้าหากันแน่น น้ำไนล์วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดีจากอะไรเธอไม่ทราบ ปกติแม้จะทะเลาะกันมากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยไล่เธอลงจากรถเช่นนี้ ราวกับว่าเขาไปโกรธอะไรมา
“อีกนิดก็จะถึงบ้านระ...เรา”
“ลงไป...” เขาไม่รอให้เธอพูดจบเสียด้วยซ้ำ น้ำไนล์ปลดล็อกประตูรถให้เธอ ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถยื้ออะไรได้แล้ว ร่างบางไม่ลืมหยิบกระเป๋าถือราคาแพงติดมือออกมาด้วย เธอกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ โดยไม่ลืมที่จะพูดอะไรทิ้งท้ายไว้
“ริชจะโทรหานะ”
“_”
“ไม่รู้ว่าไนล์หงุดหงิดอะไรมา แต่เรา...เราไม่เลิกหรอกนะ” เธอว่าเสร็จก็ปิดประตูรถให้เขา ก่อนที่เขาจะขับรถออกไปด้วยความรวดเร็ว คิ้วเรียวเล็กขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มกำลังยูเทิร์นรถกลับทางเดิม เห็นอย่างนั้นหญิงสาวก็อดที่จะปรี๊ดแตกไม่ได้
“ไอ้บ้าเอ๊ย!! กรี๊ด ๆ” ริชชี่กระทืบเท้าพร้อมกับกรีดร้องออกมา เธออยากทึ้งผมตัวเองจนแทบบ้า หากไม่ติดว่าจะทำให้ผมเสียทรง ริชชี่กัดฟันเข้าหากันแน่น เธอรักเขานั้นเป็นเรื่องจริง ทว่าเหตุผลรองในตอนนี้...มันกลับชัดเสียยิ่งกว่า
เธออยากเป็นสะใภ้บ้านของเขา เหมือนที่แม่ของเธอต้องการ...