นกน้อยในกรงทอง หรือ ลูกไก่ในกำมือ

1767 คำ
เมลินแหงนหน้ามอง 'เวิลด์ คอมเพล็กซ์' อาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลของลูก้า โรมาโน ก่อนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น แล้วหันไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งเขาก็หันมามองและยิ้มให้เธออย่างที่ไม่เคยยิ้มให้ใครมาก่อน "ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านของผม" "บ้านของคุณ? นี่เรียกว่าบ้านเหรอ" หญิงสาวเผลอพูดเป็นภาษาไทย แต่พอเห็นคิ้วเข้มขมวดก็รีบแปลภาษาทันที "เอ่อ...ฉันหมายถึงบ้านของคุณหลังใหญ่ดีเนอะ" "เข้าไปข้างในแล้วคุณจะทึ่งกว่านี้อีก" พูดจบมาเฟียหนุ่มก็ดึงแขนเรียวเข้าไปใน 'บ้าน' ของเขาทันที โดยมีบอดี้การ์ดอีกหลายนายเดินตามเข้าไป เมลินกวาดตามองไปทั่วบริเวณเห็นแสงไฟนวลตาส่องลงมาจากเพดานสูงด้วยโคมไฟระย้า ฝาผนังเป็นกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน มีผู้คนมากมายเดินขวักไขว่สวนกันไปมา "อย่ามัวยืนอึ้งอยู่เลย รีบขึ้นข้างบนดีกว่า" ลูก้าเดินนำไปยังลิฟต์ที่เปิดรออยู่แล้ว ซึ่งเป็นลิฟต์ตัวเดียวในคอมเพล็กซ์ที่สามารถขึ้นไปถึงห้องเพนต์เฮาส์ได้ และมีเพียงเขาคนเดียวที่ใช้ได้เพราะต้องใช้คีย์การ์ดที่มีแค่เจ้าของคอมเพล็กซ์ซึ่งก็คือเขาเท่านั้นที่มี ส่วนบอดี้การ์ดคนอื่นๆ เดินไปขึ้นลิฟต์อีกตัวแทน ภายในเวิลด์ คอมเพล็กซ์ไม่เพียงแต่เป็นกาสิโนแต่ยังเป็นโรงแรมระดับพรีเมียมที่หรูหราจำนวนสามสิบเก้าชั้น ให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไนต์คลับ สปอร์ตเลานจ์ บาร์ริมสระว่ายน้ำ สปา และห้างสรรพสินค้าหรูครบในที่เดียว มีชอปสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ให้เลือกช้อปปิ้ง นอกจากนั้นก็ยังมีพื้นที่ที่เป็นรีสอร์ตมีสนามกอล์ฟให้บริการ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ อีกด้วย "ถึงแล้ว ต่อไปที่นี่คือที่พักของคุณ จนกว่าผมจะตามหาแม่ของคุณพบ" พอก้าวออกมาจากลิฟต์ ดวงตาของเมลินก็เบิกกว้างด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพราะทึ่งกับเพนต์เฮาส์สุดหรูหราที่อยู่บนชั้นสูงสุดของคอมเพล็กซ์ มีพื้นที่ใช้สอยภายในห้องขนาดใหญ่ เรียกว่าครอบคลุมพื้นที่ทั้งชั้นเลยก็ว่าได้ ภายในห้องออกแบบให้เป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นและห้องครัว มีพื้นที่รับประทานอาหาร ตลอดจนระเบียงขนาดใหญ่ รวมทั้งมีสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในห้องอีกด้วย "นี่คือห้องของคุณ ผมให้คนจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่ถูกใจเดี๋ยวผมจะสั่งให้คนมาจัดให้ใหม่" "ถูกใจๆ ไม่ต้องรบกวนพวกเขาหรอก" การตกแต่งสวยงามและดูหรูหรากว่าห้องพักในโรงแรมที่หญิงสาวจองไว้เสียอีกจะไม่ถูกใจได้อย่างไร แต่ถึงแม้ไม่ถูกใจเธอก็ไม่กล้าบอกอยู่ดี พูดถึงเรื่องที่พักแล้วหญิงสาวก็นึกถึงโรงแรมขึ้นมา "ฉันจองโรงแรมที่โรมไว้สองคืน ยังไงก็ต้องกลับไปเช็กเอาต์และเอากระเป๋าเดินทางอยู่ดี" "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง บอกชื่อโรงแรมมาเดี๋ยวผมให้คนจัดการให้ ทางนี้เป็นห้องครัวนะแต่คุณไม่ต้องทำหรอก อยากทานอะไรก็แค่ต่อสายไปลงไปแล้วจะมีพนักงานนำมาเสิร์ฟให้ถึงหน้าห้อง หรืออยากได้อะไรเพิ่มเติมก็แค่ต่อสายตามหมายเลขที่ผมโน้ตไว้ให้" เขาว่าพลางแนะนำมุมต่างๆ ภายในห้องให้หญิงสาว ก่อนจะเดินไปหยุดตรงระเบียงที่เป็นสระว่ายน้ำ สามารถมองลงไปเห็นด้านล่างและดูทิวทัศน์โดยรอบได้แบบสามร้อยหกสิบองศา เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจอีกรอบว่าเขาเป็นใครกันแน่ ทว่าคราวนี้เมลินเลือกที่จะถามออกไป "คุณเป็นใครกันแน่ ไม่ว่าจะทำอะไรทำไมสำหรับคุณแล้วถึงดูง่ายดายไปหมด" มีเพียงเสียงถอนหายใจ ก่อนที่เจ้าของใบหน้าเคร่งขรึมจะหมุนตัวกลับเข้ามาในห้อง "ผมเป็นใครไม่สำคัญ รู้ไว้แค่ว่าผมยินดีช่วยเหลือคุณด้วยความเต็มใจก็พอ จริงสิ! ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่เราเจอกันเมื่อวานคุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย เดี๋ยวผมสั่งอะไรมาให้คุณทานดีกว่า แล้วจะได้พักผ่อน" พูดจบเขาก็เดินไปยกหูโทรศัพท์ คุยอยู่ไม่กี่คำก็วางสายแล้วหมุนตัวกลับมาหาหญิงสาว "ผมจะออกไปทำงานต่อสักหน่อย คุณพักผ่อนตามสบายเถอะ" พูดจบลูก้าก็เตรียมจะผละออกไปแต่ถูกเสียงใสๆ เรียกไว้เสียก่อน "เดี๋ยวค่ะ แล้วคุณ...เอ่อ...พักอยู่ที่ไหนเหรอคะ" มาเฟียหนุ่มไม่ตอบแต่ชี้ไปทางประตูห้องที่อยู่อีกด้าน เมลินมองตามแล้วพยักหน้า ในใจแอบคิดว่าแบบนี้ก็เท่ากับว่าเธอและเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ก่อนจะกลืนน้ำลายดังเอื้อก เหมือนว่าเขาจะรู้ทันความคิดของเธออีกแล้ว จึงเอ่ยลอยๆ ขึ้นมา "ปกติผมจะขึ้นมาก็แค่อาบน้ำและนอนวันละไม่กี่ชั่วโมง เท่ากับว่าเวลาที่เหลือคุณได้เป็นเจ้าของห้องเพียงคนเดียว ไม่ต้องกังวลไปหรอก ที่นี่ไม่มีใครเข้ามายกเว้นแม่บ้านมาทำความสะอาด ผมไปล่ะ" ลูก้า โรมาโน ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะออกไปห้อง แล้วลงไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นที่สามสิบแปด หลังจากมาเฟียหนุ่มกลับออกไปแล้ว เมลินก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาละทิ้งความกังวลทั้งหมดไปชั่วคราว แต่นั่งยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น ร่างบางรีบลุกไปเปิดก็เห็นพนักงานเข็นรถอาหารมารออยู่หน้าห้อง "ขออนุญาตครับ" พนักงานชายเหลือบตามองหญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะเข็นรถอาหารเข้ามาในห้อง และจัดวางบนโต๊ะอาหารให้อย่างสวยงามน่ารับประทาน ก่อนจะกลับออกไปก็เหลือบมองหน้าหญิงสาวอีกครั้งแล้วเอ่ยอย่างสุภาพ "เชิญรับประทานให้อร่อยนะครับ" "ขอบคุณค่ะ" เมลินเอ่ยขอบคุณและก้มศีรษะให้เล็กน้อย พอประตูปิดลงกระเพาะอาหารของหญิงสาวก็ร้องโครกครากขึ้นมาทันที เพราะอาหารมื้อล่าสุดที่ตกถึงท้องก็ตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่าย ได้ดื่มน้ำอีกเล็กน้อยตอนอยู่สถานีตำรวจ นอกนั้นก็มัวแต่กลัวจนลืมความหิวไปเลย ตอนนี้มีอาหารที่ส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอวางอยู่ตรงหน้า น้ำย่อยในกระเพาะอาหารก็เริ่มหลั่งออกมา เมลินลงมืออย่างไม่รีรอ ตักซุปอะไรสักอย่างเข้าปากแล้วหลับตาพริ้มราวขึ้นสวรรค์ "อร่อย" หญิงสาวเอ่ยสั้นๆ แล้วหยิบมีดขึ้นมาหั่นสเต๊กปลาเข้าปาก "อืม! อันนี้ก็อร่อย" ใช้เวลาไม่นานอาหารบนโต๊ะก็ถูกกวาดลงกระเพาะของเมลินจนเกลี้ยง ตบท้ายด้วยน้ำผลไม้ผสมโซดาช่วยย่อย "อิ่มจัง" เธอตบท้องตัวเองพลางเรอออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกเดินไปรอบห้อง รอให้ข้าวเรียงเม็ดก่อนค่อยไปนอน หลังจากอิ่มแล้วสมองก็แล่นขึ้นมาในบัดดล แม้ว่าภายในห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ต่างจากวิมานบนดิน แต่เมลินกลับอยากเห็นสิ่งที่อยู่นอกห้องว่าจะเป็นอย่างไร จึงค่อยๆ ย่องไปที่ประตูแล้วเปิดแง้มออกไปเล็กน้อย ชะโงกหน้าออกไปมองซ้ายทีขวาทีไม่เห็นใครก็ทำตัวให้ลีบแบนที่สุดแล้วแทรกประตูออกไป แต่ทว่าเธอไม่มีคีย์การ์ดจึงลงทางลิฟต์ไม่ได้ "แต่ก็ยังมีบันไดนี่นา" ไม่รอช้าร่างบางรีบเดินลิ่วๆ ไปทางบันไดหนีไฟ "ว้าว! นี่มัน..." ภาพตรงหน้าชวนตื่นตาตื่นใจจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก เมื่อลงมาถึงชั้นที่เป็นห้างสรรพสินค้าสุดหรู เหล่าสตรีโฉมงามเดินกรีดกรายไปมากันให้วุ่น เพราะสินค้าแบรนด์เนมแต่ละร้านมีโปรโมชั่นลดราคาตั้งแต่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป "นึกว่ามีแต่ที่เมืองไทย มีของลดราคาที่ไหนวิ่งกันให้วุ่นเหมือนมดเห็นน้ำตาล" เมลินพึมพำก่อนจะเดินไปดูทางอื่น แต่แล้วก็มีแหม่มฝรั่งผมทองสองคนเดินมาชนเธอเข้าเต็มๆ แต่แทนที่จะได้ยินคำขอโทษ สิ่งที่ได้กลับเป็นสายตาดูถูกเหยียดหยามขยะแขยง "อี๋...ทำไมเดี๋ยวนี้การ์ดถึงปล่อยให้ขอทานเข้ามาได้ ซ้ำยังเป็นขอทานจากประเทศโลกที่สามอีกด้วย น่าขยะแขยงที่สุด ให้เข้ามาเดินปะปนกับคนอย่างพวกเรา เดี๋ยวก็มาแพร่เชื้อโรคใส่หรอก" เมลินกำมือแน่น คงจะเห็นว่าเธอเป็นคนเอเชียถึงพูดจาดูถูกเหยียดหยามกันแบบนี้ บังเอิญว่าสายเลือดรักชาติรักศักดิ์ศรี ไม่ยอมให้ใครมาดูถูกพูดจาด้อยค่าได้ง่ายๆ ในกายของหญิงสาวมันข้นเสียยิ่งกว่าอะไร จึงเหยียดยิ้มแล้วตอบกลับเสียงนิ่มๆ แบบสุภาพว่า "ขอโทษนะคะ ระหว่างขอทานกับคนที่เดินชนคนอื่นแล้วไม่มีคำขอโทษสักคำเหมือนไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ใครจะน่าขยะแขยงกว่ากัน" แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้าน ยังสะบัดเสียงสูงตอบกลับมา "จะขอโทษหรือไม่ขอโทษมันก็เป็นสิทธิ์ของฉันย่ะ อีกอย่างหล่อนก็แค่ขอทานไร้ค่าน่าขยะแขยง ไม่คู่ควรที่ฉันจะลดตัวลงไปขอโทษหรอกย่ะ!" คำก็ขอทาน สองคำก็น่าขยะแขยง ในเมื่อเปิดมาขนาดนี้แล้ว ก็มาลองสู้กันสักตั้ง ฝีปากพวกหล่อนรึจะสู้ฉัน... เมลินถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วกอดอกกดสายตามองต่ำแล้วไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ "นี่คงจะคิดว่าตัวเองสูงส่งมากนักสินะ แสดงให้ฉันดูหน่อยเถอะว่าคนสูงส่งอย่างพวกคุณต่างจากขอทานอย่างฉันตรงไหน มีสามตา สี่หู สี่ขาห้าแขน หรือมีหางด้วยหรือเปล่า ไหนๆๆ ขอดูหน่อยได้ไหม เอ...หางอยู่ตรงไหนน้า งอกออกมาจากก้นเหมือนหมาหรือเปล่า" หญิงสาวยิ้มถูกใจพลางเดินรอบตัวแหม่มผมทอง ทำเอาอีกฝ่ายร้องกรี๊ดพลางกระทืบเท้าไม่เหลือคราบผู้ดีสูงส่งก่อนหน้านี้ ส่งผลให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองกันเป็นตาเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม