เชื่อใจกันได้ไหม

1439 คำ
ปัง! หญิงสาวหมอบลงกับพื้นด้วยความตกใจ แม้ไม่รู้ว่าเสียงปืนดังมาจากทางไหนแต่เธอก็รีบมองหาที่หลบ ก่อนจะหันกลับไปมองด้านหลังเห็นก้อนหินขนาดใหญ่จึงรีบถอยกลับไป "ฮือๆ ยายจ๋า...หนูขอโทษ ตามหาแม่ไม่เจอแล้วยังต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่อีก" เมลินน้ำตาไหลพรากออกมาด้วยความกลัว นึกถึงผู้เป็นยายขึ้นมา ปัง! ปัง! "ว้าย! ถ้าชาติหน้ามีจริง ฮือ...ขอให้หนูได้เกิดมาเป็นหลานยายอีกนะจ๊ะ" แต่หลังพร่ำเพ้อเสร็จแล้วเธอก็มาฉุกคิดได้ว่าใครที่ตามไล่ล่าเธอ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมาที่นี่ และที่แน่เสียยิ่งกว่าแน่คือเธอไม่มีศัตรูที่ไหนแน่นอน แล้วใครกันที่ทำแบบนี้ เห็นจะมีก็แต่... "หรือว่าเป็นฝีมืออีตาฝรั่งยักษ์นั่น" พอนึกดูดีๆ แล้วทุกอย่างช่างประจวบเหมาะกันเหลือเกิน ตั้งแต่โจรกระชากกระเป๋าที่เหมือนว่าฝรั่งยักษ์อย่างที่เธอว่าจะตามหาได้อย่างง่ายดาย และยังได้กระเป๋าคืนมาโดยที่ของยังอยู่ครบ จะหายไปก็แต่หนังสือเดินทางซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร อีกเรื่องคือผู้ชายร่างยักษ์สามคนที่พยายามจะลักพาตัวเธออีก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ที่ไหนไม่รู้และตอนนี้ยังถูกไล่ยิงอีก "แต่ถ้าเป็นฝีมืออีตานั่นแล้วเขาจะต้องการอะไร" แต่แล้วก็ต้องหยุดความคิดเมื่อมีเสียงรถแล่นใกล้เข้ามา เมลินชะโงกหน้าออกไปมองก็เห็นรถสองคันแล่นตามกันมา ส่วนทางด้านหลังก็มีอีกสองคัน "ตายแน่ๆ ยัยเมเอ๊ย" เสียงปืนดังขึ้นอีกแต่ครั้งนี้อยู่เสียงอยู่ใกล้มาก หญิงสาวหลับตาปิดหูอย่างอกสั่นขวัญแขวน แต่แล้วก็รู้สึกถึงแรงดึงกระชาก ลูก้าได้ยินเสียงปืนจึงรีบตามมาดู พอเห็นหญิงสาวหลบอยู่หลังก้อนหินใหญ่ก็รีบลงมาหา โดยมีบอดี้การ์ดตามลงมาคุ้มกัน "ขึ้นรถก่อนเถอะครับนาย เราต้องรีบไปสนามบินให้เร็วที่สุด" โยเซฟถือปืนมาคุ้มกันเจ้านาย ซึ่งพอเมลินเห็นก็ยิ่งตกใจขึ้นไปอีก "ไม่ต้องกลัว พวกเราไม่ทำอะไรคุณแต่จะคุ้มกันต่างหาก รีบขึ้นรถเถอะ" เขาไม่รอช้ารีบลากคนตัวเล็กขึ้นรถ ขณะที่บอดี้การ์ดด้านนอกยิงตอบโต้กลับไปก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที เมลินได้ยินเสียงปืนระยะประชิดก็ยกมือขึ้นปิดหูแล้วก้มตัวลง มาเฟียหนุ่มเห็นว่าเธอกลัวจึงโอบไหล่บางเอาไว้ "ไม่ต้องกลัวนะ อยู่กับผมแล้วคุณจะปลอดภัย" "ปลอดภัยกับผีน่ะสิ!" หญิงสาวกัดฟันเค้นเสียงลอดไรฟันออกมา ขณะที่เสียงปืนยังคงดังต่อเนื่องไล่หลังมา "เรื่องบ้าๆ ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของคุณใช่ไหม คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่ เงินเหรอ? ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันมีแค่นั้น หรือว่าต้องการชีวิตฉัน? ฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมต้องปั่นหัวฉันเล่นด้วย เดี๋ยวก็ให้คนมาตามฆ่า เดี๋ยวก็ทำมาเป็นช่วย ฉันสับสนไปหมดแล้ว!" เมลินกลัวจนสติหลุดไปแล้ว น้ำหูน้ำตาไหลพรากและไม่คิดจะฟังที่เขาพยายามจะอธิบายเลย "คุณฟังและตอบคำถามผมนะ" "ไม่! ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ถ้าจะฆ่าฉันก็ฆ่าซะตอนนี้ อย่ามัวแต่เล่นละครสวมบทเป็นพระเอกขี่ม้าขาวอยู่เลย" "เมลิน! ผมบอกว่าให้ฟังที่ผมจะถามแล้วตอบมา" เสียงทุ้มตวาดลั่นรถ ทำเอาคนที่ถูกเรียกเสียเต็มยศสะดุ้งและยอมเงียบ ไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจ "ก่อนหน้านี้มีใครคิดร้ายกับคุณหรือเปล่า คิดดีๆ ก่อนตอบ" หญิงสาวนิ่งอย่างใช้ความคิด แต่ไม่ว่าจะยืนคิด นั่งคิด นอนคิดหรือตีลังกาคิด ก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะคิดร้ายกับเธอ "ฉันบอกไปหลายรอบแล้วว่าเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรก ไม่รู้จักใครและไม่มีใครรู้จักฉันด้วย แล้วจะมีคนคิดร้ายกับฉันได้ยังไง" "แล้วผู้ชายสามคนนั้นล่ะ เคยเจอที่ไหนหรือเปล่า" "ผู้ชายสามคนนั้นเหรอ" เธอเงียบไปอีก ก่อนจะนึกขึ้นได้ "ตอนนั้นที่ฉันเดินหนีจากคุณมา มีใครก็ไม่รู้วิ่งมาชนฉัน ชนแล้วไม่พูดไม่จาพอลุกขึ้นได้ก็รีบวิ่งต่อเหมือนหนีใครมา แล้วผู้ชายสามคนนั้นก็วิ่งตามมา พวกนั้นมองฉันแปลกๆ แต่ก็วิ่งเลยไป แล้ววกกลับมาอีกทีตอนที่คุณมาขวางทางฉันไว้นั่นแหละ" "มีคนวิ่งชนคุณ แล้วลักษณะท่าทางเป็นยังไง" "ฉันไม่รู้หรอก มืดจะตาย แต่คงจะตัวเท่าๆ ฉันนี่แหละ ได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ น่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมผู้หญิง เท่าที่รู้ก็มีแค่นี้แหละ" ลูก้าเริ่มจะประเมินสถานการณ์ออก ชายฉกรรจ์สามคนนั้นอาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ไล่ยิงพวกเขาอยู่ตอนนี้ กำลังตามหาคนคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นคนที่วิ่งชนเมลิน จากข้อมูลที่ว่ารูปร่างใกล้เคียงกันและอาจจะเป็นผู้หญิง ทำให้สามคนนั้นคิดว่าเธอเป็นคนที่กำลังตามหาอยู่ "คนพวกนั้นอาจจะคิดว่าคุณเป็นคนที่กำลังตามหาอยู่ก็ได้ คนที่วิ่งชนคุณน่ะ" "ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็ซวยน่ะสิ! ไม่ได้ๆ ฉันต้องรีบกลับโรมไปทำพาสปอร์ต ขอความช่วยเหลือจากสถานทูตน่าจะปลอดภัยกว่า แล้วฉันจะได้ไปจากที่นี่ซะที" มาเฟียหนุ่มถึงกับใจหายวาบเมื่อได้ยินเธอบอกว่าจะได้ไปจากที่นี่เสียที แต่ไม่มีวันเสียหรอกที่เขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ "พวกมันกล้าใช้ปืนไล่ยิงเราขนาดนี้แสดงว่าคงไม่ใช่คนธรรมดา และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงสถานทูตก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ มีแค่คนเดียวที่จะช่วยและคุ้มครองคุณได้คือผม!" น้ำเสียงจริงจังที่กลั่นออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ หวังว่าเธอจะเข้าใจความปรารถนาดีของเขา ดวงตาสีดำสนิทช้อนขึ้นมองเจ้าของใบหน้าคร่ำเคร่งอย่างพิจารณาว่าควรจะเชื่อใจเขาได้มากน้อยแค่ไหน "ที่ผ่านมายังทำให้คุณเชื่อใจผมได้ไม่พออีกหรือ" น้ำเสียงนั้นมีแววตัดพ้อน้อยๆ ช่วงวินาทีนั้นทำเอาเมลินอยากจะร้องไห้ออกมาอีก เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกาสให้เธอตั้งตัวสักนิด สำหรับเขาแล้วลึกๆ ภายในจิตใจก็บอกว่าน่าไว้ใจได้ แต่หลายอย่างก็ชวนให้คิดว่าเขานั่นแหละที่เป็นคนวางแผนทุกอย่าง เพราะตั้งแต่มาถึงที่นี่เธอมีโอกาสได้คุยกับใครไม่ถึงสิบคน และแต่ละคนที่คุยด้วยก็มีแต่เกี่ยวกับเบาะแสของมารดาเท่านั้น "ว่ายังไง จะเชื่อใจผมได้หรือเปล่า" ลูก้าก้มลงให้ระดับสายตาอยู่ตรงกันกับหญิงสาว เห็นเธอไม่ตอบจึงถือวิสาสะโอบรอบตัวเธอไว้เบาๆ มืออีกข้างเลื่อนขึ้นไปที่ศีรษะแล้วกดลงซบที่ไหล่กว้างๆ ทำให้บ่อน้ำตาแตกร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงปืนดังขึ้นอีก "ไม่ต้องกลัว รถผมกันกระสุน" เสียงทุ้มเอ่ยปลอบก่อนจะหันไปมองด้านหลัง ซึ่งคราวนี้มีรถจักรยานยนต์คันใหญ่ขับตามหลังมาอีก "พอจะรู้ไหมเซฟว่าเป็นพวกไหนกัน ใช่พวกเมื่อวานหรือเปล่า" "ยังไม่รู้เลยครับนาย ผมกำลังสั่งให้คนตามมาสมทบอยู่" โยเซฟกำลังยุ่งกับโทรศัพท์ในมือ ขณะที่มืออีกข้างก็ถือปืนไว้ด้วย "ดี แล้วนักบินล่ะ" "สแตนด์บายรออยู่แล้วครับ ทันทีที่เราถึงสนามบินก็เอาเครื่องขึ้นได้เลย" เมลินได้ยินทั้งสองคนคุยกันถึงนักบินและสนามบินก็แปลกใจ "หมายความว่ายังไงนักบินกับสนามบิน" "ก็หมายความว่าเรากำลังจะไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน" "สนามบิน? คุณจะพาฉันไปไหน" "มิลาน!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม