จุดเริ่มต้นของความผิดพลาด

2007 คำ
หวังอ๋องโยนราชโองการมาตรงหน้าสตรีจำนวนสองฉบับ ร่างบางมือสั่นรีบคว้าสารฉบับหนึ่งขึ้นมาอ่านดูแล้วก็ต้องตกใจจนหน้าถอดสี ภายในราชโองการนั้นระบุว่า ‘องค์หญิงห้าแห่งแคว้นฮวาเป๋ยเต็มเปี่ยมด้วยความงดงาม เพียบพร้อมไปด้วยกิริยาเหมาะสม จึงถูกเลือกให้หมั้นหมายกับชินอ๋องแคว้นต้าฉีเป็นพระชายาเอกเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นสืบต่อไป’ ความสับสนทำให้เซี่ยอีอิ่งงุนงง แต่เมื่อเลื่อนสายตาตรวจดูที่ตราประทับและนั่นก็เป็นตราพระราชลัญจกรของฮ่องเต้แคว้นฮวาเป๋ยจริง แล้วที่นางถูกพี่สาวส่งมาที่แคว้นเสวี่ยเล่าคือสิ่งใดกัน “นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน...” โฉมสะคราญมองหน้าบุรุษองอาจด้วยความสับสน นางลืมเรื่องที่เขาตัดหัวคนใกล้ชิดองค์ชายเก้าไปเสียสนิท หวังหย่วนเหอยิ้มร้ายกาจ เขาเดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้สตรีจากนั้นก็ถือวิสาสะอุ้มร่างบางด้วยแขนข้างเดียว “ทะ ท่านแม่ทัพใหญ่จะทำอะไรกันเจ้าคะ” เซี่ยอีอิ่งตกใจจนต้องกรีดร้องออกมา และครั้งนี้นางก็ไม่กล้าพูดจาห้วน ๆ กับคนที่โหดร้ายเช่นเขา ลู่จื่อเห็นสถานการณ์ดูไม่ดีรีบคลานเข้ามาช่วยผู้เป็นเจ้านายในทันทีแต่ก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน “เจ้าจงอ่านฎีกาฉบับนั้นให้องค์หญิงห้าฟัง แล้วก็อ่านออกเสียงดัง ๆ” ร่างสูงแสยะยิ้มเย็นแล้วบังคับให้นางกำนัลขององค์หญิงอ่านฎีกาอีกฉบับ แววตาบุรุษที่แฝงไปด้วยประกายเย็นเยียบนั้นทำให้ลู่จื่อรีบทำตามในทันที “องค์หญิงสามกับองค์ชายเก้ารักใคร่สนิทสนมกันมานานสมควรถึงแก่เวลาร่วมเป็นทองแผ่นเดียวกัน...” ลู่จื่ออ่านได้เพียงเท่านั้นก็หน้าถอดสี น้ำตาไหลออกมาด้วยความสงสารองค์หญิงห้าจับใจ เซี่ยอีอิ่งหยุดดิ้นเพราะเงี่ยหูฟังแล้วก็รีบดันตัวออกเพื่อจะลงไปดูฎีกาฉบับนั้นด้วยตัวเอง ส่วนแม่ทัพใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในระหว่างนั้นเขาส่งหัวคนสนิทขององค์ชายเก้าให้องครักษ์นายหนึ่ง จากนั้นก็กำชับให้ใส่กล่องไม้และห่อเป็นของขวัญอย่างดี เซี่ยอีอิ่งรีบดึงฎีกาฉบับที่อยู่ในมือของลู่จื่อมาอ่านดูด้วยตนเองแล้วก็ต้องตกใจแทบทรงตัวยืนไม่อยู่ ภาพของพี่สาวร่วมอุทรที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้นางเดินทางมาที่แคว้นเสวี่ย ส่วนตนก็รีบเดินทางไปที่แคว้นต้าฉี ‘แผนสลับตัวเจ้าสาว?’ เรื่องราวดูซับซ้อนยากที่โฉมสะคราญจะเข้าใจได้ในทันที แต่นางก็ครุ่นคิดไปได้เพียงชั่วเสี้ยวนาที บุรุษองอาจก็เข้ามาโอบกอดจากด้านหลังเสียก่อน “เจ้าเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้ว...ใช่หรือไม่” หวังอ๋องลอบสังเกตปฏิกิริยาขององค์หญิงห้า แต่ม้าพยศก็ยังเป็นม้าที่แสนจะพยศอยู่วันยังค่ำ “เรื่องนี้หม่อมฉันขอถามพี่สามและเสด็จพ่อก่อน พร้อมทั้งองค์ชายเก้าด้วยเพคะ” เซี่ยอีอิ่งยอมพูดจาดี ๆ กับแม่ทัพหนุ่มแต่คนที่ถูกสตรีพูดดักคอก็ทำท่าหงุดหงิดอารมณ์เสียออกมาเสียก่อน “นี่เจ้ากำลังจะบอกว่าข้าโกหกสร้างเรื่องใช่หรือไม่” จากนั้นโฉมสะคราญก็ถูกอุ้มจนตัวลอยอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้หวังอ๋องตัดสินใจแล้วว่าจะรวบหัวรวบหางองค์หญิงห้าให้จงได้ “ปล่อยนะ ท่านจะพาข้าไปที่ไหน ลู่จื่อ! ช่วยด้วย กรี๊ด!!” ร่างสูงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วคล่องแคล่ว เขาอุ้มสตรีไปคร่อมที่หลังม้า จากนั้นก็ใช้มือตีที่ก้นไป่หานทำให้มันตกใจแล้ววิ่งเตลิดออกไป ส่วนตัวเองก็ยืนมองแสยะยิ้มด้วยความชอบอกชอบใจ “องค์หญิงเพคะ!” ลู่จื่อรีบวิ่งตามไปในทันทีด้วยความเป็นห่วงเจ้านายอย่างสุดหัวใจแม้ว่าเจ้าม้านั่นจะวิ่งออกไปไกลแล้วก็ตาม ส่วนแม่ทัพใหญ่ก็หันไปสั่งให้คนเอาม้าศึกออกมาเพิ่มอีกในทันที “พวกเจ้าติดตามข้ามา ส่วนที่เหลือค่อย ๆ เดินทางกลับไปที่ค่ายพร้อมกับเชลย เรื่องนี้ให้เจ้าดูแลความเรียบร้อยทั้งหมด” หวังหย่วนเหอหันไปสั่งรองแม่ทัพที่ไว้ใจ จากนั้นก็กระโดดขึ้นหลังม้าแล้วขี่ตามม้าขององค์หญิงห้าออกไปในทันที ทางฝั่งของเซี่ยอีอิ่ง เจ้าม้าวิ่งทะยานพุ่งออกไปราวกับรู้จุดหมายปลายทาง มันพาสตรีของผู้เป็นเจ้านายกลับไปที่ค่ายทหารของฝั่งต้าฉีอย่างปลอดภัย แต่คนที่น่าสงสารที่สุดก็คงไม่พ้นลู่จื่อที่วิ่งตามจนขาเปลี้ยโชคดีที่องครักษ์ที่ติดตามชินอ๋องมาด้วยมีน้ำใจหอบนางกำนัลให้ขึ้นม้ามาด้วยกัน กว่าหนึ่งชั่วยามที่เซี่ยอีอิ่งฟุบหน้าลงบนหลังม้า กอดบังเ**ยนแน่นมาตลอดทางด้วยความหวาดกลัว นางรู้สึกพะอืดพะอมจนอยากจะอ้วกเอาบางสิ่งที่อยู่ในกระเพาะออกมาแต่มันกลับไม่มีสิ่งใดออกมาเลยเพราะตั้งแต่เมื่อบ่ายได้กินเพียงโจ๊กที่มีเพียงเศษข้าวกับน้ำแค่ไม่กี่อึกเท่านั้น “นี่มันม้าของท่านแม่ทัพใหญ่มิใช่หรือ” ทหารที่เฝ้าค่ายต่างพากันตกใจที่เห็นสตรีแปลกหน้าอยู่บนหลังม้าของท่านแม่ทัพ แต่ก็สงสัยได้เพียงไม่นานนักเพราะที่เบื้องหลังมีบุรุษองอาจที่แต่งกายด้วยชุดเกราะอ่อนกำลังควบม้าตามติดมาอยู่ไม่ห่าง “หยุดดดด” เสียงเจ้าของม้าตะโกนสั่งเพียงครั้งเดียวมันก็พาโฉมสะคราญไปหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระโจมสีขาวหลังใหญ่ราวกับรู้หน้าที่เป็นอย่างดี หวังอ๋องยกยิ้มด้วยความถูกอกถูกใจที่เจ้าม้าตัวนี้แสนรู้ยิ่งนัก “อืม...อย่า” สตรีหมดเรี่ยวแรง นางถูกอุ้มขึ้นมาโดยบุรุษตัวการที่กลั่นแกล้งนางในครั้งนี้ เซี่ยอีอิ่งไม่มีแรงแม้แต่จะพูด ความตกใจผนวกด้วยการไม่มีอาหารตกถึงท้องหลายวันทำให้องค์หญิงแห่งฮวาเป๋ยสลบไปในทันที “องค์หญิงทรงเป็นอย่างไรเพคะ” ลู่จื่อที่ลงจากม้าขององครักษ์ได้ก็รีบวิ่งมาตรงหน้าชินอ๋องที่กำลังช้อนมืออุ้มองค์หญิงเอาไว้ ร่างสูงตวัดสายตาดุดันมามองจนนางกำนัลต้องรีบหลบสายตาด้วยความกลัว “รีบไปเตรียมอาหารมาให้อีอี ก่อนที่นางจะตายตรงนี้” เพียงคำข่มขู่นั้นหลุดออกมาจากปากแม่ทัพจอมโหด ลู่จื่อก็รีบหันรีหันขวางหาสถานที่ที่ดูเหมือนโรงครัวทันที ในระหว่างนั้นเย่าหยางก็กำลังเดินเข้ามารับคำสั่งจากท่านอ๋องเมื่อเห็นสายตาคมตวัดมองมา “เจ้านำทางนางไปโรงครัวแล้วบอกให้ทหารรับใช้รีบตั้งสำรับเย็นด้วย” หวังอ๋องกล่าวได้เพียงเท่านั้นก็อุ้มองค์หญิงห้าที่หมดสติเข้ากระโจมไป “รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” องครักษ์หนุ่มรีบค้อมศีรษะลงด้วยความนอบน้อม มีเพียงลู่จื่อที่มองตามหลังชินอ๋องไปด้วยความเป็นห่วงองค์หญิง แต่เย่าหยางกลับดุนหลังนางให้ไปอีกทางก่อนจึงต้องจำใจรีบเดินไปทำตามคำสั่งของท่านแม่ทัพใหญ่ เมื่อหวังหย่วนเหอเข้ามาในกระโจมเขาก็รีบพาเซี่ยอีอิ่งไปนอนพักที่เตียง จากนั้นก็หันไปถอดชุดเกราะอ่อนที่สวมออกแล้วตะโกนสั่งให้ทหารรับใช้ไปตามหมอหลวงที่ติดตามกองทัพให้เข้ามาดูอาการขององค์หญิงห้า ชายชราที่เพิ่งรักษาอาการข้อเท้าแพลงให้โฉมสะคราญไปไม่นานก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง “นางอาการเป็นอย่างไรบ้าง” เมื่อเปลี่ยนมาสวมชุดลำลองเสร็จแล้ว อ๋องนิสัยเสียก็เดินมานั่งบนเก้าอี้ และในระหว่างนี้ทหารรับใช้หลายนายก็รีบจัดเตรียมสำรับให้ท่านอ๋องจนเรียบร้อยในเวลาไม่กี่นาทีแล้ว หมอหลวงฝังเข็มลงบนตัวขององค์หญิงต่างแคว้นเสร็จก็รีบตอบคำถามของท่านอ๋องทันที “องค์หญิงตื่นตกใจมากไปและเสวยพระกระยาอาหารไม่ครบมื้อเลยทำให้หมดเรี่ยวแรงจนหมดสติไปพ่ะย่ะค่ะ” ลึก ๆ ในใจของหมอชรารู้สึกสงสารสตรีที่นอนหน้าซีดบนเตียงอยู่ไม่น้อย แต่ไม่กล้าทำเกินหน้าที่จึงรีบฝังเข็มให้เลือดลมไหลเวียนดีและให้คนต้มยาลมมาป้อนสตรีเพื่อให้รีบฟื้นขึ้นมา ชินอ๋องโบกมือไล่คนทั้งหมดออกไปเมื่อพวกเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อย จากนั้นก็นั่งมองหน้าโฉมสะคราญที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เวลาผ่านไปนานถึงครึ่งชั่วยามจนบุรุษองอาจทนไม่ไหว “เจ้านอนพอหรือยัง...” คนที่หงุดหงิดตวาดออกมาเลยทำให้เซี่ยอีอิ่งที่ได้พักผ่อนไปเล็กน้อยลืมตาตื่นขึ้นมา “ลู่จื่อ ข้าหิวน้ำ” ด้วยความเคยชินเซี่ยอีอิ่งรีบเรียกหานางกำนัลคนสนิททันที แต่บุรุษองอาจกลับเดินถือจอกน้ำชามาแทนแล้วนั่งลงบนเตียง “อยากดื่มน้ำก็ลุกขึ้นมา!” คนที่พาลไปทั่วพูดเสียงดัง สตรีที่เพิ่งหายจากอาการงัวเงียก็รีบเบิกตาโพลงขึ้นทันทีที่คิดขึ้นได้ว่าตอนนี้นางอยู่ที่ใด “ทะ ท่าน อะอือ!” น้ำชาจอกแรกถูกยัดเยียดเข้าริมฝีปากสาว มือเรียวสวยรีบจับที่ข้อมือของบุรุษองอาจทันที ตอนนี้เขาใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งบีบแก้มนาง จากนั้นก็ป้อนน้ำชาเข้ามา ท่าทางดูทุลักทุเลเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “ข้าดื่มเองเจ้าค่ะ” เซี่ยอีอิ่งรีบตั้งสติพยายามบอกแม่ทัพใหญ่ที่กำลังหวังดีป้อนน้ำชาให้นาง แต่เขาก็ดันทุรังป้อนจนทำให้โฉมสะคราญเปียกปอนไปหมด “เจ้าเปียกหมดแล้ว” แววตาชายหนุ่มส่องประกายเปลี่ยนไปจนหญิงสาวตัวสั่นรีบหาทางลงจากเตียงนอน “ปล่อยข้านะ! คนใจร้าย คนวิปริต นิสัยไม่ดี” เซี่ยอีอิ่งร้องไห้พลางตะโกนโวยวายออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าถูกอ๋องหน้าหนากลั่นแกล้งนางสารพัด นึกแล้วก็เจ็บใจยิ่งนัก “เมียรัก เจ้ามีแรงด่าข้าแล้วใช่หรือไม่” คนตัวโตกว่าแสยะยิ้มเย็น แล้วก็เหวี่ยงร่างของหญิงสาวให้ขึ้นมานอนบนเตียง จากนั้นก็รีบทาบทับกายแกร่งตามลงมาในทันที “ปล่อยนะ! ถึงอย่างไรข้าก็จะไม่ยอมเป็นเมียท่านเด็ดขาด! เรื่องนั้นข้าจะขอพบองค์ชายเก้าก่อนว่าเรื่องทั้งหมดแท้จริงแล้วเป็นเช่นไรกันแน่” สตรีโฉมสะคราญสบตากับบุรุษองอาจที่จ้องมองลงมา และเพียงหญิงสาวเอ่ยจบประโยค ริมฝีปากสาวก็ถูกบดขยี้ทันที ความเร่าร้อนรุนแรงถูกปลุกให้ตื่นขึ้น สัมผัสหยาบคายจากฝ่ามือหยาบกระด้างก็ฉีกทึ้งกระชากเสื้อผ้าสตรีที่สวมอยู่ด้วยความรวดเร็วและยังไม่ทันได้ตั้งตัวสองเต้าอวบอิ่มก็ถูกเคล้นคลึงด้วยแรงปรารถนาที่หวังอ๋องพยายามสะกดกลั้นเอาไว้ “อื้อ!” เซี่ยอีอิ่งเกร็งไปทั้งตัว เมื่อนางถูกทำให้อยู่ในสภาพกึ่งเปลือยเปล่าในเพียงเสี้ยววินาที แม้แต่จะรู้สึกตกใจก็ยังไม่ทันท่วงที “เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือก ราชโองการนั้นเป็นของจริง และข้าก็บังเอิญเก็บมันได้ พระชายาชินอ๋องสูงส่งเกินไปเจ้าก็เลยไม่อยากเป็นใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็ให้องค์หญิงห้าแห่งฮวาเป๋ยเป็นเพียงสตรีอุ่นเตียงคอยรองรับอารมณ์ของแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉีแทน หากจบสงครามครานี้เมื่อใดเจ้าก็จะได้เป็นอิสระ” หวังหย่วนเหอสาดคำพูดร้ายกาจออกมาด้วยความขุ่นเคือง ทั้ง ๆ ที่องค์หญิงห้าเป็นสตรีของเขาแท้ ๆ แต่นางก็ยังอยากเป็นสตรีของผู้อื่น ดังนั้นความแค้นทั้งหมดนี้เขาก็จะเอามาลงกับร่างกายของนางแทน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม