"เมื่อวานกูเจอเมียเก่ามึงด้วย"
"แล้วไงว่ะ? เลิกไปชาติหนึ่งได้แล้วมั้งหรือว่ามึงอยากให้กูแย่งกลับมา กูบอกไว้ก่อนนะว่าไม่เอาหรอกสงสารผัวใหม่มัน"
"แหม่ๆๆ…พ่อคนดีพูดซะกูเหมือนคนชั่วเลยนะมึง! กูแค่คิดว่ามึงลืมเมียเก่าไม่ได้เฉยๆเห็นโสดมาหลายปี"
"กูโสดเพราะยังไม่เจอคนที่ถูกใจ"
"แต่กูเห็นมึงเอาไม่เลือกเลยนะ!"
"ก็ระหว่างรอเนื้อคู่ไง เกิดวันหนึ่งกูมีเมียแล้วนกเขาไม่ขันขึ้นมาก็ฉิบหายดิ ว่าแต่มึงเหอะช่วงนี้เงียบๆเรื่องผู้หญิงนะ หรือว่ามีเมียแล้วไม่บอกเพื่อน"
"งานกูยุ่งเฉยๆ"
"อ่อ…จะพยายามเชื่อแล้วกัน"
“กูพูดจริง!”
คืนนี้คนค่อนข้างเยอะคงเพราะว่าเป็นวันศุกร์ที่สามารถปลดปล่อยความเครียดออกไปได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะตื่นไม่ทันไปทำงานในเช้าวันถัดไป ถ้าในเวลาปรกติแล้วคงจะนั่งทำงานมากกว่าออกมาดื่มตรงนี้แต่พอดีว่าเพื่อนสนิทแวะมาหาเลยต้องออกมาดื่มด้วยสักหน่อยเดี๋ยวมันจะน้อยใจเอาได้
นัยน์ตาอบอุ่นทอดมองอย่างสบายอารมณ์ไปรอบๆเพื่อเช็คดูความเรียบร้อยก่อนจะสะดุดเข้ากับโต๊ะไม่ห่างไกลจากกันมากเท่านักหากจะเดินไปหาเพื่อทำความรู้จักให้มากขึ้นกว่ามองเฉยๆอยู่แบบนี้ ผู้หญิงผมบลอนด์ผิวขาวในชุดเดรสสั้นสีดำสนิทกำลังนั่งดื่มกับเพื่อนผู้หญิงอีกหลายคนแล้วหัวเราะออกมาในเรื่องที่เขาไม่มีทางได้ยินเลยว่าพูดคุยอะไรกันอยู่บ้าง
ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มฉาบทับด้วยเครื่องสำอางบางเบาแต่กลับน่ารักปนเซ็กซี่ไดแบบไม่น่าเชื่อเลย เขาหลุบตามองแก้วเหล้าแล้วยิ้มกว้างรู้สึกได้เลยว่าต่อจากนี้คงไม่เหงาแน่นอน ก่อนจะมองไปอีกครั้งด้วยความรู้สึกว่านั่นแหละคือว่าที่เมียในอนาคตอันใกล้ต่อให้ตอนนี้จะเป็นของใครก็ไม่สนเพราะอีกไม่นานจะต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
ไม่ว่ายังไงก็ต้องได้มานอนกกกอด!
"มองอะไรวะ?"
"คืนนี้คนเยอะดี"
"คนมันก็เยอะทุกวันนั่นแหละถ้ามึงหัดเดินออกมาดูบ้าง นี่ถ้ากูไม่มาคงจะนั่งทำงานเหมือนคนบ้าเลยสิท่า แล้วเดี๋ยวคืนนี้กูค้างกับมึงนะขี้เกียจขับรถกลับบ้าน"
"อืม"
"มองโต๊ะข้างหลังเหรอว่ะ น่ารักทั้งนั้นเลยนี่หว่าแต่หน้าตาดีขนาดนี้ไม่รู้ว่ามีผัวรึยัง มึงเล็งคนไหนไว้ละเผื่อกูจะช่วยทำตัวเป็นกามเทพสื่อรักให้ไง"
"เหรอ?"
"หรือมึงจะปล่อยให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิตละ?"
"บางทีอาจจะเป็น…กูลิขิตเองก็ได้!"
"สรุปคนไหน?"
"ไม่มีสักคน"
"เรื่องแค่นี้บอกเพื่อนไม่ได้เหรอ คอยดูเถอะถ้ามึงอกหักวันไหนไม่แดกเหล้าเป็นเพื่อนนะ"
"เสือกเก่งนะมึง!"
"เรื่องแบบนี้มันอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว ไม่ต้องชม!"
เขาส่ายหน้าเบาๆไม่ตอบอะไนเพื่อนทั้งนั้นเพราะเดี๋ยวเพื่อนรู้ทีไรพังเละเทะตลอดก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกลงคอด้วยความรู้สึกซาบซ่านกว่าทุกครั้ง แววตาอบอุ่นกวาดมองไปรอบๆแต่ถึงอย่างนั้นก็แอบมองเธอคนนั้นตลอดเวลาจนกระทั่งเธอบังเอิญหันมาและเราสบตากันอยู่หลายวินาที เขายิ้มให้บางๆอย่างเป็นมิตรส่วนเธอก็ยิ้มตอบกลับมาก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเดินออกไปคนเดียว
"กูไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนะอย่าพึ่งเมาละ"
"เข้าห้องน้ำเฉยๆเหรอ?"
"อืม แค่เข้าห้องน้ำวันนี้ยังไม่มีอารมณ์จะเอากับใคร โอเค้?"
"เออ!"
เขาเดินออกตามเธอคนนั้นไปช้าๆจนถึงหน้าห้องน้ำถึงได้หยุดนิ่งแล้วรอคอยเงียบๆพลางคิดหาทางทำความรู้จักและเร่งสานสัมพันธ์ให้เราได้มีสถานะที่ชัดเจนเร็วที่สุดเพื่อจะได้คว้าตัวมานอนกกกอดได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนแบบไม่ต้องกลัวว่าจะหายไปเหมือนวันไนท์สแตนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ เมื่อยืนรอเกือบสิบนาทีถึงเห็นว่าเธอเดินออกมาด้วยท่าทางเมานิดหน่อยไม่ทันระวังตัวเพราะมัวแต่ก้มหน้าดูโทรศัพท์อยู่ไม่รู้ว่าคุยกับใครเลยคิดอะไรดีๆออก
แกล้งชนให้ล้มแบบนี้แหละดีที่สุด!
"ว๊าย!! เอ่อ…ขอโทษค่ะ!!"
"ไม่เป็นอะไรครับ หนูไหวรึเปล่า?"
"ไหวค่ะ ฉันผิดเองที่ไม่ได้มองทางให้ดี คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่าคะ?"
"เฮียเฟยครับ หนูละ?"
"มารีค่ะ"
"หนูดูไม่ค่อยดีเท่าไร เดี๋ยวเฮียเดินไปส่งที่โต๊ะนะ"
"ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ"
"เฮียกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะเหมือนกันไม่ต้องคิดมากหรอก อีกอย่างเราเดินไปพร้อมกันดีกว่าจะได้ไม่เดินชนใครหรือมีใครเซมาชนด้วยไง"
"แต่…"
"อย่าดื้อสิมารี! ที่นี่คนออกเยอะแยะหนูกลัวเฮียจะทำอะไรเหรอ เฮียแค่เป็นห่วงเฉยๆ"
"งั้น…ก็ได้ค่ะ"
ริมฝีปากหยักฉีกรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรซ่อนแววตาเจ้าเล่ห์เอาไว้อย่างแนบเนียนที่สุดแล้วเดินไปพร้อมกับเธอ ท่อนขายาวก้าวเดินไปเงียบๆไม่ได้ล่วงเกินอะไรให้ต้องขุ่นข้องหมองใจทั้งที่อยากจะโอบกอดให้แนบชิด คืนนี้คนเยอะมากกว่าปรกตินั่นเลยทำให้มีคนเต้นมาชนเธอจนเซมาชนเขาอีกทีและแน่นอนว่าสุภาพบุรุษที่แสนดีช่วยประคองไว้ไม่ให้ล้มหัวคะมำตรงนั้น
แต่ว่าตัวเธอเนี่ยหอมมากจริงๆนะ
อยากจะซุกไซ้ทั้งตัว
"ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง"
"ครับ"
มารีมองตามผู้ชายตัวสูงใหญ่ด้วยหัวใจเต้นแรงแปลกๆทั้งที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย แค่เผลอมองหน้าก็รู้สึกร้อนผาวไปหมดทั้งตัวแล้วเหมือนว่าเสน่ห์เหลือร้ายนั่นมีผลต่อหัวใจที่เพราะเปราะบางจนไม่อาจจะต้านทานได้ไหว กลิ่นน้ำหอมอ่อนนั้นก็คล้ายว่าวนเวียนรอบตัวทั้งที่เขาเดินไปที่โต๊ะนั่งดื่มกับเพื่อนอีกคนและสัมผัสมือใหญ่แวนอุ่นช่วยประคองนั้นก็ยังจำได้ดีว่าอ่อนโยนมากขนาดไหน
ทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ถูกคล้ายว่าหลงลืมไปแล้วว่าการตกหลุมเสน่ห์ใครสักคนเป็นยังไงจนกระทั่งเจอเขา อาการประหม่าที่ไม่ได้แสดงออกชัดเจอบวกกับความมึนเมาทำให้รู้สึกตาพร่าเบลอมองไม่เห็นใครโดดเด่นได้เท่ากับเขา ความรู้สึกร้อนผาวแล่นพล่านไปทั้งตัวเหมือนมวลร้อนนั้นว่าไหลไปพร้อมกระแสเลือดจนทนต่อแทบไม่ไหว
สิ่งที่เกิดนี้มันไม่ควรเลย
เธอมีแฟนแล้วนะ!!
"นี่แกมากับเฮียเฟยได้ไง!?"
"รู้จักเหรอ?"
"ก็นั่นแหละเจ้าของผับ"
"ห่ะ!?"
"ฉันว่าเฮียเฟยสนใจแกแน่เลย ระวังตัวไว้ด้วยละฉันเห็นคนลือมาว่าร้ายกาจมากอยากได้ใครก็ต้องได้ แต่ก็…งานดีมากขนาดนี้ใครจะต้านไหวได้ละเนอะ! เฮียเฟยเสน่ห์แรงแต่นานๆทีจะออกมานั่งดื่มแบบนี้"
"พูดบ้าๆฉันมีแฟนแล้วนะ"
"ก็ทะเลาะกันอยู่ไม่ใช่รึไง? จะเลิกแหล่มิเลิกแหล่อยู่แล้วหาสำรองเผื่อไว้ดามใจบ้างก็ดี แล้วบางทีถ้าแกเลิกโง่คงจะได้เจอกับผู้ชายดีๆเยอะกว่านี้อีกนะ"
"ดื่มดีกว่า!"
มือหยิบแก้วยกจรดปากปล่อยให้เหล้าไหลผ่านลงคอเพื่อมอมเมาสติละลายความเครียด ความน้อยใจและปัญหาความรักที่มากขึ้นทุกวันจนไม่รู้ว่าจะอยู่ในสถานะคนรักต่อไปนานเท่าไร เธอปรายตาแอบมองเจ้าของผับด้วยใจสั่นอยู่ร่ำไปทั้งที่รู้ว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้นแต่กลับไม่สามารถจะห้ามได้
เขามีเสน่ห์อย่างที่เพื่อนบอกจริงๆ
คนแบบนี้อันตราย!