“ฉันชื่อรนิดาค่ะหรือจะเรียกว่านิลก็ได้” หญิงสาวแนะนำตัวเอง
“ขอเรียกนิลแล้วกันนะครับชื่อจริงของคุณค่อนข้างเรียกยากไปหน่อย คุณนิลช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังตั้งแต่แรกเลยได้ไหมครับ ผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา” เขาขอร้องอย่างสุภาพ
“ได้สิคะ ว่าแต่ฉันอยากถามอะไรคุณข้อหนึ่งก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ครับ”
“คุณคิดว่าแฟนของคุณดูแลลูกสาวของคุณดีไหมคะ ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นยังไงบ้างคะ ขอโทษนะคะที่ต้องถามแบบนี้แต่ว่าฉันอยากจะรู้จริงๆค่ะ”
“ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นนะครับ”
“ฉันว่าเป็นเพราะคุณไม่รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดมากกว่านะคะ”
“หมายความว่ายังไงครับ” เขาถามกลับด้วยความสงสัย เธอต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่
“เอาเป็นว่าฉันจะเริ่มเล่าเลยละกันค่ะ วันนั้นหลังเลิกงานฉันเจอลูกสาวของคุณอยู่ข้างถนนระหว่างทางกลับบ้านของฉันเอง น้องข้าวสวยกำลังยื่นร้องไห้ไม่มีใครอยู่กับแกเลย ฝนก็กำลังจะตกด้วยถามอะไรแกก็ไม่ตอบเลย แกเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว ฉันเลยอุ้มแกไว้แกเงียบเสียงลงฉันเลยพากลับบ้านด้วยกันเพราะข้างนอกมีแต่อันตราย ยังไม่ทันไรแกก็หลับไป ฉันมาเจอป้ายประกาศตามหาเลยมาติดต่อคุณค่ะ เรื่องก็ประมาณนี้ค่ะ”
“แล้วตอนแรกทำไมไม่ออกตามหาพ่อแม่ให้น้องข้าวสวยล่ะครับหรือว่าไปสถานีตำรวจก็ได้”
“ฉันกลัวว่าฉันจะถูกหลอกค่ะ ฉันไม่กล้าส่งน้องข้าวสวยให้คนแปลกหน้าหรอกนะคะจนกระทั่งมาเจอป้ายประกาศตามหาของคุณเข้า ฉันถามแกแล้วแกบอกว่าคุณคือพ่อของแกจริงๆ” เธอหยิบป้ายประกาศยับๆใบนั้นมาให้ชายหนุ่มดู เขารับมาดูก็พบว่าเป็นป้ายของเขาจริงๆ
“ผมอยากเจอลูกสาวของผมแล้ว ตอนนี้คุณปล่อยให้แกอยู่คนเดียวหรอครับ” เขาถามออกไปสีหน้าเป็นกังวล
“ใช่ค่ะ”
“แกไม่เคยอยู่คนเดียวนะครับ คุณไม่น่าทิ้งแกไว้คนเดียว”
“นั่นมันก่อนที่แกจะมาอยู่กับฉันค่ะ ตอนนี้แกเก่งขึ้นกว่าเดิมเยอะแล้ว”
“พาผมไปเจอแกเลยได้ไหม”
“ยังก่อนค่ะ”
“ทำไมล่ะครับหรือว่าคุณจะเรียกร้องเงินนั่นมันก็ไม่ต่างจากการเรียกค่าไถ่เลยนะครับ” เขาอดที่จะตำหนิเธอไม่ได้
“คุณไม่มีสิทธ์มาว่าฉันนะคะสิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่เงินหรอกค่ะ”
“แล้วคุณนิลต้องการอะไรจากผมกันแน่ครับถ้าไม่ใช่เรื่องเงิน”
“ฉันต้องการย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของคุณกับหนูข้าวสวยค่ะ ฉันต้องการงาน”
“อะไรนะครับ” เขาแทบไม่เชื่อหูว่าเธอต้องการอะไรแบบนี้
“คุณฟังไม่ผิดหรอกค่ะฉันต้องการย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านคุณ”
“ในฐานะอะไรล่ะครับผมไม่ได้ต้องการแม่บ้าน”
“หึ ฉันก็ไม่ได้ต้องการไปเป็นแม่บ้านของคุณหรอกค่ะ ฉันอยากเป็นพี่เลี้ยงของน้องข้าวสวย”
“ตกลงครับ ผมจะไปเจอลูกสาวของผมได้หรือยัง” ใจของเขาตอนนี้ไปถึงลูกสาวที่บ้านของเธอแล้ว
“ยังค่ะ” เธอปฎิเสธเขาอีกครั้ง
“คุณคิดจะตุกติกหรอครับ” เขาชักสีหน้าทันทีเมื่อถูกปฎิเสธ
“ใจเย็นๆสิคะฉันจะพาแกไปหาคุณพรุ่งนี้แน่นอนค่ะ รบกวนจัดห้องให้ฉันด้วยนะคะ ขอตัวก่อนค่ะแล้วพบกันใหม่” เธอบอกลาเขาแล้วก็เดินจากมาเลย ใจของชายหนุ่มว้าวุ่นแต่ก็ขอลองเชื่อผู้หญิงคนนี้สักตั้ง
ณ สนามบิน
มารดาของชายหนุ่มเดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว หลังจากที่ท่านได้รับการติดต่อจากลูกชายว่าเจอหลานสาวแล้ว ตอนนี้แกสบายดีไม่ได้เกิดอันตรายใดๆขึ้นเลย แค่เท่านี้นางกับผู้เป็นสามีที่ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วยเพราะติดงานสำคัญก็รู้สึกโล่งใจแล้ว ดีกว่ารับรู้ข่าวร้ายเป็นไหนๆ ขอให้หลานของเธอปลอดภัยก็พอ
“ขอบใจมากรีบไปที่บ้านกันเถอะ ฉันอยากเจอหลานสาวของฉันจะแย่แล้ว” มารดาของชายหนุ่มบอกกับคนขับรถ
“ได้ครับคุณท่าน” คนขับรถตอบรับทันที ใช้เวลาสักพักมารดาของชายหนุ่มก็เดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังงาม ถึงบ้านจะงามสักเพียงใดแต่ถ้าไม่ได้อยู่ข้างๆกันกับผู้เป็นสามีเธอยอมอยู่บ้านธรรมดาๆแต่ได้อยู่กับสามีดีกว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นางใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมากกว่าเมืองไทย