คนของภากร
☆☆>>>>>♡
>>>>>12.00 น. มหาวิทยาลัย LMU
หลังจากที่น็อตได้เจอกับเฟรนด์ที่ห้างสรรพสินค้าดังใจกลางของเมืองหลวงตอนสายวันนี้ ก็รู้สึกเป็นห่วงเฟรนด์ขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก ไม่ใช่พฤติกรรมที่แสดงออกว่าไม่อยากคุยกับตัวเองหรอกนะ เพราะเรื่องนั้นเขาเข้าใจเฟรนด์ดี ว่าจะโกรธมากขนาดไหน เขาอยากให้เวลาเฟรนด์ซักพักเมื่อมั่นใจว่าเฟรนด์ใจเย็นลงแล้วเขาจะขอโอกาสปรับความเข้าใจกับเฟรนด์อีกครั้ง แต่เหตุการฯวันนี้ทำให้น็อตเป็นกังวลไม่น้อยที่เฟรนด์มากับผู้ชายฉกรรจ์ท่าทางน่ากลัวพวกนั้น แถมทุกคนมีอาวุธพกติดตัวด้วยก็คือ ปืนนั่นเอง น็อตตัดสินใจลางานครึ่งวันตอนบ่ายมาหาเฟรนด์ที่มหาวิทยาลัย LMU ไม่ได้หวังว่าจะเจอเฟรนด์เพราะท่าทางวันนี้ของเฟรนด์ไม่น่าจะมาเรียนแต่เขามาเผื่อบางครั้งเพื่อนเฟรนด์อาจจะยอมคุยกับเขาและยอมบอกว่าเฟรนด์ไปไหน อยู่ที่ไหนกับใคร เพราะเขาไม่สามารถติดต่อเฟรนด์ได้เลยตั้งแต่เกิดเรื่องเฟรนด์ก็ตัดการติดต่อกับตนทุกทาง น็อตมาจอดรถรอที่หน้าตึกบริหารได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
ตัดสินใจเดินออกมาที่โรงอาหารเพราะตอนเที่ยงนักศึกษาจะมากินข้าวกันเพราะตนเคยมาหาเฟรนด์ตอนพักเที่ยงก็บ่อย เป็นไปตามคาดแบงค์กับพิณ กำลังเดินมาที่โรงอาหารของคณะบริหารพอดี น็อตเดินตามเข้าไปนั่งรอที่โต๊ะของเพื่อนเฟรนด์ที่วางหนังสือไว้แล้ว
“เอ้ย !! พี่น็อตมาได้ไงครับ”เป็นแบงค์ที่เดินมาถึงโต๊ะก่อนพิณ ถึงกับอึ้งไปที่เจอน็อตนั่งรอที่โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว
“พี่เป็นห่วงเฟรนด์ พี่ติดต่อเฟรนด์ไม่ได้เลย”น็อจพูดด้วยท่าทางกังวลไม่น้อย
“กล้าพูดว่าเป็นห่วงนะ ที่พี่ทำเลวกับเพื่อนหนูล่ะ ยังกล้ามาหามันที่นี่อีกเหรอ ”พิณที่เดินมาพอดีตอกกลับน็อตไปอย่างไม่มีความเกรงใจ ไม่ไว้หน้า ไม่มีความเคารพกับผู้ชายคนนี้อีกต่อไปแล้ว
“เฟรนด์มันไม่ได้มาเรียนหรอกพี่ พี่คงรู้นะว่าเพราะอะไร”แบงค์ที่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ได้ปนอารมณ์ขุ่นเหมือนกับพิณ รายนั้นปากเสียเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“พี่รู้ วันนี้พี่เห็นเฟรนด์ที่ห้าง ไปกับผู้ชาย 2 คน เขาพกอาวุธด้วยนะ พี่เป็นห่วงเลยมาถามเราสองคน รู้ไหมว่าตอนนี้เฟรนด์ไปไหน กับใคร”
“เชี้ย !!!ไหนมันบอกเราว่ามันกลับบ้านไงวะ แล้วมันไปไหน”พิณอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“หรือมันถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ เมื่อเช้าก็คุยกับมันอยู่นะ”
“ไอ้นี่ก็คิดไปนะมึง มึงดูละครมากไปป๊ะไอ้แบงค์ แล้วท่าทางมันเป็นไงบ้างพี่”
“เฟรนด์ไม่ยอมคุยกับพี่ แถมยังบอกผู้ชายสองคนที่ท่าทางน่ากลัวนั้น ให้กันพี่ไว้ ไม่ให้พี่ตามเขาไป”
“งั้นก็แสดงว่าเฟรนด์รู้จักกับผู้ชายสองคนนั่น”คำสันนิษฐานของพิณที่ดูน่าเชื่อถือมากกว่าของแบงค์ที่บอกว่าเฟรนด์น่าจะถูกจับไปเรียกค่าไถ่
“แล้วผู้ชายหนึ่งในนั้นพูดแปลก ๆ ประมาณว่า ..... ตอนนี้คุณเฟรนด์ไม่เหมือนเดิมแล้วครับ คุณอย่ามายุ่งกับคุณเฟรนด์อีก คุณเฟรนด์ไม่ใช่คนที่คุณจะมายุ่งด้วยอีกต่อไปแล้ว ผมเตือนคุณได้แค่นี้นะครับ แล้วผู้ชายคนที่พูดก็เดินจากไป มีอีกคนที่กันท่าพี่ไว้แทน”น็อตเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตอนเพิ่งไปเจอมาเมื่อสายของวันนี้ให้สองคนฟัง
“คงเป็นผัวใหม่มันมั้ง ไม่งั้นคงไม่หวงมันขนาดนี้หรอก”พิณยังคงปากหมาต่อเนื่อง พูดส่งๆ ไปงั้นแหละแต่ตอนนี้ในใขเป็นห่วงเฟรนด์มากเหมือนกัน แต่ที่ฟังน็อตเล่ามา ก็น่าสนใจดีนะ
“คำพูดเหมือนเจ้าพ่อ พวกมีอิทธิพล เหมือนพวกมาเฟีย ในละครหลังข่าวที่พวกเราเคยดูเลยอ่ะพิณ”
“พี่รบกวนเราสองคนติดต่อเฟรนด์ให้หน่อยได้ไหม ว่าเขาอยู่ไหน พี่อยากรู้ว่าเขาปลอดภัยดีไหม พี่เป็นห่วงเฟรนด์มากนะ”
“ครับเดียวผมโทรหามันให้”แบงค์หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากดโทรออกหาเพื่อนรักทันที กดแล้วกดอีก
“ไม่ติดว่ะพี่ มันปิดเครื่องอยู่”
“งั้นก็ไลน์ไปทิ้งข้อความไว้แล้วกัน”พิณเป็นคนเสนอให้ไลน์ไป
“ถ้าเฟรนด์ติดต่อกลับมาแล้ว รบกวนติดต่อพี่ด้วยนะครับ พี่เป็นห่วงเฟรนด์จริง ๆ นะ” น็อตหยิบนามบัตรออกมาส่งให้แบงค์ที่ดูท่าทางเป็นมิตรมากกว่าพิณ
“ครับ” แบงค์เห็นท่าทางที่ดูร้อนรนของน็อตก็รับปากว่าจะติดต่อกลับไป น้อตก็วางใจเลยขอตัวกลับ
PINN:อี สวยมึงอยู่ไหน มึงบอกพวกกูว่ามึงกลับบ้าน แต่นี่ไอ้พี่น็อตเห็นมึงเดินกับผู้ชายที่ห้าง
BANK: เกิดอะไรขึ้นกับมึงรึเปล่าวะ พวกกูเป็นห่วงมึงนะเว้ย
PINN:พี่น็อตบอกว่าผู้ชายพวกนั้นพกปืนด้วย นี่มึงอยู่ไหนกันแน่ ติดต่อกลับมาด่วนเลยนะ
PINN:มึงอย่ามำให้พวกกูเป็นห่วงมึงมากกว่านี้เฟรนด์ กูเป็นห่วงมึง ติดต่อกลับมาด้วยนะ ??
BANK: พี่น็อตบอกว่า ผู้ชายพวกนั้นพูดจาแปลก ๆ ด้วย ว่าไม่ให้มายุ่งกับมึงอีก มึงไม่เหมือนเดิมแล้ว ขอเตือนไว้แค่นี้ อะไรทำนองนี้
PINN:นี่มันชักไปกันใหญ่แล้วนะเฟรนด์ พวกกูกังวลมากเลยนะ ตอนบ่ายไม่รู้จะเรียนรู้เรื่องรึเปล่า
>>>>> 20.00 น.จังหวัดตราด
ก๊อก ก๊อก
“นายครับลงไปทานข้าวตอนนี้ไหมครับ” เมื่อถึงเวลานัดหมายภพก็เข้ามาเรียกคนเป็นนายทันที
“เออ แปบนึง”
“เฟรนด์ตื่นครับ ไปทานข้าวกัน”ภากรหันมาปลุกคนที่นอนหลัยอยู่ข้าง ๆ ตนทันที
“เฟรนด์ไม่หิวครับ ขอนอนต่อนะ พี่ภากรไปทานก่อนเลย”
“อย่างอแงซิครับ เฟรนด์ไม่ไปพี่ก็ไม่ไป แต่จะหากิจกรรมอย่างอื่นทำแทนนะ” จ๊วบ จ๊วบ ปากหนาของภากา จูบลงบนปากบางของคนที่นอนงอแงอยู่บนเตียง ภากรดูดริมฝีปสกบางนั้น แต่ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปข้างใน แค่ดูดชิมความหวานข้างนอกเฉย ๆ แต่มันทำให้เฟรนด์ดีดตัวลุกขึ้นมาในทันที เพราะนึกถึงกิจกรรมที่ภากรพูดถึงเมื่อครู่นี้ คงจะทำไม่ไหว ตอนนี้เหนื่อยมาก แทบไม่อยากออดไปไหนเลย
“เฟรนด์ไปก็ได้ครับ ไม่ทำอีกแล้วนะครับ เฟรนด์ไม่ไหวแล้ว”
“ครับ ไม่ทำครับ จุ๊บ จุ๊บ เปลี่ยนชุดก่อนไหม ชุดนี้ไว้ใส่ให้พี่ดูคนเดียวก็พอแล้วนะครับ”คนที่ถูกบอกให้เปลี่ยนชุดถึงกับหน้าขึ้นสี เพราะชุดตัวเองก็ไม่เหมาะจะออกนอกห้องอยู่แล้ว
-------#######-------
สองคนที่เดินเข้าไปในห้องอาหารหรูในโรงแรมดังที่อาหารถูกจัดเตรียมไว้แล้ว 5 อย่างเป็นอาหารไทยทั้งหมดตามเมนูที่ภากรแจ้งไว้กับภพ
“พี่ภากร นี่ต้องมีคนยืนเฝ้าเราทานข้าวแบบนี้หรอครับ”เฟรนด์มองไปที่ลูกน้องภากรที่ยืนอยู่สองคนข้างหลังคนเป็นนาย
“ทำไมครับ อึดอัดเหรอ เดี๋ยวก็ชิน พี่เป็นนักธุรกิจ คู่แข่งทางธุรกิจก็เยอะบางครั้งเราไม่รู้ว่าใครมาดีมาร้าย เราเตรียมคนของเราไว้พร้อมทำงานตลอดเวลาแบบนี้จะปลอดภัยที่สุด”
“ครับ จะพยายามทำตัวให้ชิน”เฟรนด์ก้มหน้าทานข้าวต่อไป พอทานข้าวเสร็จ ในขณะที่รอของหวานมาเสิร์ฟ ลืมไปว่าตัวเองไม่ได้เปิดเน็ตเลยตั้วแต่มาถึงที่นี่ ขอเปิดเช็คข้อความซักหน่อยแบ้วกัน เฟรนด์ปิดการแจ้งเตือนทุกแอฟพริเคชั่น เลยไม่รู้ว่าใครที่ติดต่ออะไรมาบ้าง อยากปล่อยใจให้ว่าง คิดอะไรเงียบ ๆ แต่ก็ต้องส่งข่าวให้เพื่อนสองคนนั่นรู้ เดี๋ยวเจอมันบ่นหูชา
“เอ้ย !! ส่งอะไรมาเยอะแยะวะเนี๊ยะ”เฟรนด์เปิดไลน์ดูข้อความที่เพื่อนสนิทสองคนส่งมาก่อน ของคนอื่นไม่สำคัญเท่าไหร่ ปบ่อยผ่านไปก่อน พอเปิดดูข้อความก็ตกใจเล็กน้อยที่น็อตตามไปถึงมหาวิทยาลัยเลยเหรอ
“มีอะไรเหรอเฟรนด์ หน้าไม่ดีเลย”ภากรที่มองมาเห็นคนร่างบางท่าทางตกใจเมื่อดูโทรศัพท์
“พี่น็อต มันไปตามหาเฟรนด์ไปถึงมหาวิทยาลัยเลยครับ เอาเรื่องที่เจอเฟรนด์ที่ห้างวันนี้ไปเล่าให้เพื่อนเฟรนด์ฟัง”เฟรนด์บอกภากรโดยไม่คิดบิดบังอะไรอยู่แล้ว
“ไหนพี่ขอดูหน่อย”ถึงเฟรนด์จะงงกับการกระทำของภากร แต่ก็ยื่นโทรศัพท์ให้แต่โดยดี
“แล้วจะตอบเพื่อนว่าไง บอกจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แต่ตอนนี้อยู่ที่ตราดแล้ว”
“ที่เฟรนด์บอกเพื่อนว่าจะกลับบ้าน เฟรนด์โกหกครับ เฟรนด์แค่อยากจะไปที่ไหนซักที่ที่ ไกล ๆ จากเรื่องวุ่นวายนี้วันนั้น เลยโกหกเพื่อน กลัวเขาเป็นห่วง”
“นี่กะจะหนีเที่ยวคนเดียวตั้งแต่แรกแล้วเหรอ”
“ก็ประมาณนั้นครับ”
“เรานี่น๊า”ภากรเอามือยีหัวคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูในความคิด เด็กน้อยจริง ๆ เกิดเรื่องแล้วเลี่ยงที่จะหนี ไม่คิดจะแก้ปัญหาหรือหาทางออกอื่น
“ผมยุ่งหมดแล้วเนี๊ยะ”เฟรนด์บ่นให้คนตรงหน้าไม่จริงจังมากนัก
“ถึงยุ่งก็น่ารักเหมือนเดิมครับ” ตึก ตึก ตึก นี่ใจจะเต้นแรงทำไมเฟรนด์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟรนด์รู้สึกใจสั่นและหวั่นไหว หัวใจเต้นแรงกับคำพูดของภากร
FRIEND : ขอบใจพวกมึงที่เป็นห่วงกู กูไม่ได้เป็นอะไร กูปลอดภัยดี เรื่องมันยาว กลับไปเดี๋ยวกุเล่าให้ฟัง ถ้าเจอไอ้พี่น็อตก็บอกว่า กูไปกับ ผัวใหม่ รักพวกมึงนะ
เฟรนด์พิมพ์ข้อความบอกเพื่อนแล้วก็อดขำไม่ได้ จนภากรเห็นแล้วอดที่จะแย่งมือถือคนร่างบางไปดูไม่ได้เช่นกัน
“ฮึ ฮึ ”ภากรหลุดขำออกมาด้วยความพอใจ ตรงคำว่าผัวใหม่ แล้วใครกันที่เป็นผัวเก่าเฟรนด์ ทั้งที่เขาเป็นคนแรกของเฟรนด์ อดขำกับคำตอบของเด็กน้อยตรงหน้าไม่ได้จริง ๆ
“ขำอะไรครับพี่ภากร”
“เปล่า รู้สึกดีขึ้นไหม ยังคิดถึงเขารึเปล่าครับ ”
“ไม่คิดถึงแล้วนะ ไม่คิดว่าการอกหักมันจะรู้สึกดีได้เร็วขนาดนี้ ไม่รู้สึกเจ็บตรงนี้อีกแล้ว”เฟรนด์เอามือกุมที่หน้ออกของตัวเอง ทำให้คนที่มองอยู่ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
“ทานของหวานแล้วเราขึ้นไปห้องไปนอนเลยดีกว่านะ พรุ่งนี้พี่มีประชุมเช้า ถ้าเฟรนด์อยากไปเที่ยวไหนเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ให้คนพาไป”
“นอนจริง ๆ นะ”เสียงเฟรนด์พูดเบา ๆ ในลำคอ แต่คนที่กำลังจะลุกออกจากโต๊ะ ได้ยินพอดี
“นอนก็คือนอนครับ”เฟรนด์ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ ได้ยินคำว่า นอนก็คือนอน เขาจะได้พักผ่อนยาว ๆ โดยไม่มีคนกวนในความหมายโดยรวม
-------#######-------
พอถึงห้องเฟรนด์ก็รีบเข้าห้องไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนทันที โดยไม่รอให้อาหารย่อยก่อน แต่เฟรนด์กินไม่เยอะเท่าไหร่
อาบน้ำเสร็จก็ออกมาทาครีมทาโลชั่นก่อนเข้านอน ภากรเข้าไปอาบน้ำบ้างเพราะร่างกายเขาก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน
ภากรอาบน้ำเสร็จแล้วคนร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงยังเล่นเกมอยู่เลย
“นอนได้แล้วครับ เมื่อคืนก็ไม่ได้นอน ห้ามดื้อนะ”
“คร้าบบบบบ”เฟรนด์ตอบรัวแบบเลี่ยงไม่ได้ เลยปิดเครื่องนอน คนที่อาบน้ำเสร็จทีหลังก็ขึ้นมานอนบนเตียง แล้วปิดไฟที่หัวเตียงเรียบร้อย ดึงรั้งร่างเอวบางเฟรนด์มากอดแนบอก เฟรนด์พลิกตัวกลับมาหาอกแกร่งของภากรทันที
“พี่ภากร ขอบคุณนะครับที่ช่วยเฟรนด์ไว้เมื่อคืนนี้”
“ทำไมคิดว่าพี่ช่วยล่ะ”
“พี่ภพบอกว่าเจ้านายบอกให้ไปช่วย เจ้านายพี่ภพตอนนี้ก็พี่ภากรไงครับ หรือพี่ภพมีเจ้านายหลายคนเหรอ??”
“พี่ก็แค่คิดว่าให้ภพไปช่วยแล้วเก็บมากินเองดีกว่า ปล่อยให้ไอ้ขี้เมาสามคนนั้นเอาไปกิน ก็เฟรนด์น่ารัก พี่คงไม่ปล่อยไป” ตึก ตึก ตึก
“ยังไงก็ขอบคุณนะครับ เป็นเมียพี่ภากรคนเดียวดีกว่าได้ผัวทีเดียวสามคน ถึงจะเก็บไว้กินเองก็เหอะ ชิส์” เฟรนด์ผลักอกภากรออกไปให้พ้นตัวเองแล้วหันหลังนอนกอดผ้าห่ม ยังไงก็ขอบคุณแล้ว ไม่ติดค้างกันอีก
“ไปไหน พูดเองนะ ว่าเป็นเมียพี่ งั้นต้องให้ผัวนอนกอด หรือไม่ก็ต้องนอนกอดผัว แล้วข้อความไลน์ที่ส่งบอกเพื่อนว่ามากับผัวใหม่ ใครที่เป็นผัวเก่าเฟรนด์กัน อยากรู้จริงเลย” ฟอด ฟอด ภากรพูดพร้อมรั้งเอวบางเข้ามากระแทกอกตัวเองอีกครั้ง ซุกหน้าลงบนต้นคอเรียวของคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว เฟรนด์ไม่ได้ขัดขืนอะไร เพราะทำไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์สู้นอนนิ่ง ๆ อยากกอดก็กอดไป
“ที่หัวเราะเฟรนด์ที่ห้องอาหาร ก็ติดใจคำว่าผัวใหม่นี่เหรอครับ ”ภากรไม่ได้ตอบอะไร แค่บอกฝันดีคนในอ้อมกอดก็เท่านั้น
“อืม ฝันดีครับเมีย” ฟอด ฟอด ภากร หอมลงที่แก้มใส และมุดที่ซอกคอคนในอ้อมกอด
“ฝันดีครับ”แล้วเฟรนด์ก็หลับไปก่อนที่ภากรจะหลับซะอีก