เป็นหญิงอัปลักษณ์ที่มีคนต้องการ

1159 คำ
ทั้งสองต่างแยกเขี้ยวยิงฟันใส่กัน เสิ่นฉางซีมิได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก แต่นางอดหัวเราะกับท่าทางเหมือนเด็กน้อยของบุรุษทั้งสองมิได้ ดีจริง เป็นหญิงอัปลักษณ์ที่มีคนต้องการตัวเช่นนี้ “นายท่านรอง ถ้าไม่รีบเดินทางกลับ เห็นทีว่าจะกลับเข้าสำนักคุ้มภัยมืดค่ำนะเจ้าคะ” “อ๊ะ! ข้านี่ก็แย่จริง มาส่งสมุนไพรให้เจ้าหมอหัวรั้นนี่ทีไร อยู่เล่นหมากล้อมลืมเวลากันทุกที” เกาเทียนฉีอาศัยเหตุผลนี้แสร้งทำเป็นไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในหมากล้อมกระดานนี้ “เช่นนั้นข้าขอลาท่านแล้ว” “ประเดี๋ยวก่อน” คนเป็นหมอลุกเดินตามแต่ไม่ทัน “นางไม่ใช่เด็กแล้ว อย่าจับมือนางเช่นนั้นสิ” หมอหวังข่ายเห็นเกาเทียนฉีคว้าข้อมือเด็กสาวได้รีบจ้ำพรวดๆ ออกมา เขาได้แต่ตะโกนไล่หลังด้วยความโมโหเจ้าคนไม่ยอมรับความพ่ายแพ้แล้วยังพาตัวเด็กสาวไปหน้าตาเฉย เกาเทียนฉีจูงมือเสิ่นฉางซีมาถึงรถม้าที่จอดไว้ด้านหลังโรงหมอของหวังข่าย แท้จริงทั้งสองเป็นสหายรักกันแต่มักพูดจาเหมือนคนทะเลาะกันตลอดเวลา ปีนี้เกาเทียนฉีอายุยี่สิบหกแล้ว เขาเคยแต่งภรรยาแต่นางป่วยตายหลังจากแต่งงานกันได้เพียงปีเศษ หลังจากนั้นเขาไม่เคยมีสตรีเคียงข้าง วันๆ คล้ายคนบ้าเอา แต่คลุกอยู่กับสวนสมุนไพร เมื่อห้าปีก่อน เกาฮ่วนปิ่งและไต้ซือซูพาเด็กหญิงตัวน้อยมารักษาอาการบาดเจ็บที่สำนักคุ้มภัยราชสีห์คำราม เขาผู้ซึ่งนับถือไต้ซือซูประหนึ่งอาจารย์ผู้สั่งสอนเรื่องสมุนไพรนั้นจึงได้เข้ามาดูอาการบาดเจ็บสาหัสของเสิ่นฉางซี เด็กหญิงตัวน้อยที่อดทนต่อความเจ็บปวด ไม่ร้องโวยวาย ได้แต่กล้ำกลืนความทุกข์ระทมทำให้เขาได้สติ นางเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ ที่เขาคอยดูแลรักษาอาการบาดเจ็บของนางไปตามลำดับขั้นตอนด้วยความใจเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อนางยังเป็นเด็กน้อย บาดแผลของนางน่าเกลียดน่ากลัว มักถูกเด็กคนอื่นรังแกอยู่เสมอ นางไม่เคยตอบโต้ เขาจึงได้แต่คอยจูงมือเด็กหญิงมิให้คนอื่นมารังแก เพียงพริบตา ข้อมือเล็กๆ ที่เขาเคยจับจูง ยามนี้เป็นข้อมือของเด็กสาวเสียแล้ว อาจเป็นความคุ้นชิน มือหยาบกระด้างจับเอวของเด็กสาวยกขึ้นตัวลอยให้นางขึ้นรถม้า และเขาก็ไม่เคยถามว่าทุกครั้งที่พานางเข้าเมืองมา นางมักจะหายไปหนึ่งถึงสองชั่วยามเสมอ นางไม่เคยปริปากเล่า เขาจึงไม่เอ่ยถามอะไร แต่ไม่เคยบอกนางว่าครั้งหนึ่งเคยแอบตามนางไป เด็กหญิงตัวน้อยเดินตรงไปที่บ้านหลังหนึ่งแต่มันมอดไหม้เหลือเพียงเศษซากที่พอจะเห็นว่าเคยเป็นบ้านหลังน้อยมาก่อน เด็กหญิงไม่มีน้ำตาได้แต่เดินคุ้ยเขี่ยหาบางสิ่งในกองเถ้าถ่านนั้น แต่ไม่มีสิ่งใดติดมือออกมาสักชิ้นเดียว “นายท่านรอง” เสิ่นฉางซีเรียกเบาๆ เมื่อเห็นสีหน้าเหม่อลอยของเกาเทียนฉี “อ่อ...กลับกันเถิด” “อืม” เกาเทียนฉีเดินไปนั่งที่ด้านหน้า บังคับม้าให้ค่อยๆ เดิน มุ่งหน้ากลับสู่สำนักคุ้มภัยราชสีห์คำราม เด็กคนหนึ่งรอดพ้นความตายมาได้ราวปาฏิหาริย์ แม้มีชีวิตแบกความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ใบหน้าของนางยังคงประดับรอยยิ้มอยู่เสมอ ความทุกข์ใจที่เขามี หากเทียบกับเด็กสาวคนนี้แล้วอาจนับได้ว่าน้อยนิดจริงๆ. ... เสิ่นฉางซีตุ๋นรังนกมาเพื่อให้เกาฮ่วนปิ่งและเกาฮูหยินกินเป็นของว่าง ทว่าเมื่อเดินมาถึงประตูห้อง เสียงโต้เถียงที่ดังออกมาด้านนอกทำให้เท้าทั้งสองข้างชะงักไป “รุ่ยเฉียง ปีนี้เจ้าอายุสิบเจ็ด ซ้ำยังเป็นบุตรชายคนโตของสกุลเกา เจ้าต้องคิดเรื่องแต่งงานได้แล้ว” เสียงเกาฮูหยินทั้งปลอบทั้งข่มขู่ด้วยความระอาใจ “ท่านแม่ ข้าอยากแต่งงานกับฉางซี” เด็กสาวที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูถึงกับตกตะลึงไปทันที นางตั้งใจจะถอยกลับแต่เท้ากลับไม่ยอมขยับ นางรู้ว่าเการุ่ยเฉียงดีกับนางมากแต่ไม่เคยคิดว่าเขาคิดกับนางเช่นนี้ “เจ้า!” เกาฮูหยินอ้าปากค้าง “ท่านแม่รังเกียจนางรึ?” เการุ่ยเฉียงถามตามที่ใจคิด “มิใช่รังเกียจ” เกาฮูหยินเบาเสียงลง “แม่ออกจะเอ็นดูนางเสียด้วยซ้ำ นางมาอาศัยเราอยู่แต่นางก็มิได้อยู่เฉย เป็นแค่เด็กหญิงตัวน้อยแต่กลับขยันขันแข็ง ดูแลข้าดีเสียยิ่งกว่าลูกอย่างเจ้าเสียอีก” “นางดีถึงเพียงนี้ เหตุใดข้าแต่งฉางซีเป็นภรรยาไม่ได้” “ใช่ นางดีทุกอย่าง แต่มีเรื่องเดียวคือนางให้กำเนิดบุตรมิได้ เจ้าเป็นบุตรชายคนโต ต้องมีทายาทสืบสกุล เจ้าต้องแต่งงานกับสตรีที่ให้กำเนิดทารกได้” เกาฮูหยินยื่นมือไปลูบไหล่ลูกชายอย่างปลอบโยน “เจ้ารักมั่นในฉางซีย่อมเป็นเรื่องดี แต่หน้าที่ของบุตรชายคนโตมิควรละเลย เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ เจ้าแต่งงานกับจูเอ๋ออิ่งเป็นภรรยาเอก แล้วรับฉางซีเป็นภรรยารอง เจ้าก็ไม่ผิดกับบรรพชนและยังได้ดูแลฉางซีไปชั่วชีวิต” “จะให้ฉางซีเป็นภรรยารอง...นางจะรับได้หรือ?” ในใจของเการุ่ยเฉียงมีเพียงเสิ่นฉางซี เขาไม่เคยใส่ใจรอยแผลเป็นบนใบหน้าหรือที่นางต้องเดินลากขาข้างขวา หรือแม้แต่ที่นางให้กำเนิดบุตรไม่ได้ เขารักนางและอยากดูแลปกป้องนางไปชั่วชีวิตของเขา “เรื่องนี้เจ้าอย่าได้กังวลไป แม่จะคุยกับฉางซีเอง ขอเพียงเจ้ารับปากจะแต่งงานกับจูเอ๋ออิ่งก็พอ” “ข้า...” เสิ่นฉางซีเรียกสติให้ตัวเองแล้วค่อยๆ หมุนตัวเดินออกมาอย่างเงียบเชียบ ‘ภรรยารอง’ หญิงที่ไม่สามารถให้กำเนิดทารกอย่างนาง เป็นได้แค่ภรรยารอง บางสิ่งที่คิดว่าตนเองทำใจยอมรับได้แล้วนั้น แท้จริงนางยังเจ็บปวดกับความจริงในข้อนี้ นางมิได้คิดอื่นใดกับเการุ่ยเฉียง ที่ผ่านมาเขาดีกับนางมาก เรื่องนี้นางรู้อยู่เต็มอก กระนั้นนางคิดกับเขาเพียงแค่พี่ชาย อยู่อย่างเจียมตัวอยู่เสมอ หญิงที่ทั้งอัปลักษณ์และให้กำเนิดบุตรมิได้อย่างนาง ย่อมไม่เป็นที่ต้องการ แต่สกุลเกายอมให้นางเป็น ‘ภรรยารอง’ ของเการุ่ยเฉียงนั้นก็นับว่ามากแล้ว แต่นางไม่ต้องการ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม